สธ.-กทม.เตรียมผนึกกำลังตรวจสุขภาพประชาชน-ตำรวจ ที่ร้องเรียนปัญหาบ่อขยะ พื้นที่ฉลองกรุง หลัง สน.ฉลองกรุง เตรียมย้ายสำนักงานหนีมลภาวะทางกลิ่น
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ประชุมรับฟังปัญหาและสำรวจบ่อขยะ ในบริเวณ สน.ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง ว่า จากการรับรายงานข้อมูลวันนี้ ทั้งจากภาคส่วนของ กทม.และทางท้องถิ่น ทราบว่า บ่อขยะดังกล่าวเป็นบ่อขยะขนาดใหญ่ประมาณ 300 ไร่ มีความลึกประมาณ 100 เมตร ซึ่งมีการทิ้งขยะทั้งขยะทั่วไป และขยะจากภาคอุตสาหกรรม บางส่วนมีสารพิษปนเปื้อน อาทิ ขวดพลาสติก สารเคมี เครื่องยนต์เก่า รวมทั้งบางส่วนเป็นขยะจากโรงพยาบาล ซึ่งเป็นขยะติดเชื้อ โดยจากข้อมูลของสำนักงานเขตลาดกระบัง พบว่า จากการร้องเรียนของประชาชนส่วนมาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สน.ฉลองกรุง ทราบว่า ส่วนมากได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางกลิ่น ขณะที่บางรายมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ เช่น หายใจติดขัด แสบคอ แสบจมูก ส่วนปัญหาอื่นก็จะเป็นปัญหาเรื่องของอาการวิงเวียนศีรษะ
นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสำคัญ 4 ตัว ได้แก่ สารไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) สารเบนซิน (Benzene) สารไตรคลอโรเอทิลีน (Trichloroethylene) และสาร 1, 2 คลอโรมีเทน (1, 2 Chloromethane) พบว่า สูงกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อย ซึ่งหลังจากรับรายงานข้อมูลรายละเอียดแล้วก็จะประสานกับ กทม.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้มีการตรวจสุขภาพประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยืนยันทางการแพทย์อีกครั้ง ว่า มีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากสารพิษดังกล่าวหรือไม่ โดยคาดว่าจะดำเนินการตรวจได้ภายใน 1-2 วัน และจะติดตามผลการตรวจเลือดโดยเร็วที่สุด
“สำหรับมาตรการชั่วคราวที่คาดว่าจะช่วยป้องกันผลกระทบได้ดีที่สุด ในเบื้องต้นทราบว่า คงต้องประสานให้เจ้าของที่ดินซึ่งเป็นภาคเอกชน และบางครั้งมีการแอบเผาในบริเวณบ่อขยะด้วย ทำให้เกิดควันพิษที่ก่อความรำคาญแก่ผู้อาศัยใบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า ประชาชนทั่วไปหากต้องการป้องกันตนเองจากการสูดดมควันพิษ ก็ให้สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง หลังจากออกไปทำธุระที่ต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอก รวมทั้งหากจำเป็นต้องขับรถ หรืออกมาทำธุระในบริเวณใกล้เคียงบ่อขยะควรสวมเสื้อมิดชิด สวมแว่น สวมถุงมือ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารอันตราย รวมทั้งหากพบเห็นผู้ใดนำขยะมาทิ้งก็ให้แจ้งทางสำนักเขตด้วย” นพ.สุรวิทย์ กล่าว
พ.ต.ท.อรรถพันธ์ วัชระปันตรี สว.อก.สน.ฉลองกรุง กล่าวว่า ขณะนี้ ทาง สน.มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นาย ภายในห้องทำงานจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ปรับอากาศที่ช่วยบรรเทากลิ่นอับของกองขยะ ได้บ้าง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายต้องเผชิญกับอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจลำบาก และมือเท้าชา มานาน ซึ่งคาดว่า หลังจากย้ายสำนักงานแล้วน่าจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้พอสมควร
ด้านนพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับกรณีของบ่อขยะที่บริเวณ สน.ฉลองกรุง นั้น เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ส่วนการพบค่าสารพิษบางอย่าในพื้นที่ ก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าติดตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนจะต้องได้รับสารพิษดังกล่าวเข้าไปทุกคน จึงจำเป็นต้องรอผลตรวจเลือดของประชาชนเพื่อเติม ซึ่งแพทย์ต้องตรวจทั้งปัสสาวะและเลือด เพื่อดูว่า มีปริมาณสารพิษที่เป็นสะสมมากเพียงใด แต่อาการเบื้องต้นที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามานั้น เป็นปัญหาทั่วไปที่เมื่อได้รับควันจากการเผาไหม้ หรือ กลิ่นบางอย่างก็ต้องมีอาการระคายเคืองจมูก หรือตา เป็นธรรมดา หรือบางคนแพ้มากก็จะมีอาเจียนบ้าง แต่ที่ประชาชนต้องระวัง คือ ช่วงอากาศร้อนการเผาไหม้จะง่ายขึ้น หากรับไปปริมาณมาก คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อาทิ เป็นภูมิแพ้ ผู้สูงอายุ ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
อนึ่ง จากข้อมูลของกรมอนามัย ระบุว่า สำหรับอันตรายของสารไวนิลคลอไรด์ หากรับปริมาณมากก็จะเกิดอาการหายใจติดขัด คลื่นไส้ อาเจียน หากสัมผัสเป็นระยะเวลานานจะเกิดอาการเมื่อยล้า หมดแรง ผิวหนังซีด เช่นเดียวกับสารไตรคลอโรเอทิลีน และสาร 1, 2 ไดคลอโรอีเทน ส่วนสารเบนซิน (Benzene) หากเข้าสู่ปอดก็จะทำให้ปอดอักเสบได้ หากมีปริมาณสะสมจำนวนมาก อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง และอาจทำให้เกิดภาวการณ์มองเห็นเลือนราง สาร 1, 2 ไดคลอโรอีเทน
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ประชุมรับฟังปัญหาและสำรวจบ่อขยะ ในบริเวณ สน.ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง ว่า จากการรับรายงานข้อมูลวันนี้ ทั้งจากภาคส่วนของ กทม.และทางท้องถิ่น ทราบว่า บ่อขยะดังกล่าวเป็นบ่อขยะขนาดใหญ่ประมาณ 300 ไร่ มีความลึกประมาณ 100 เมตร ซึ่งมีการทิ้งขยะทั้งขยะทั่วไป และขยะจากภาคอุตสาหกรรม บางส่วนมีสารพิษปนเปื้อน อาทิ ขวดพลาสติก สารเคมี เครื่องยนต์เก่า รวมทั้งบางส่วนเป็นขยะจากโรงพยาบาล ซึ่งเป็นขยะติดเชื้อ โดยจากข้อมูลของสำนักงานเขตลาดกระบัง พบว่า จากการร้องเรียนของประชาชนส่วนมาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สน.ฉลองกรุง ทราบว่า ส่วนมากได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางกลิ่น ขณะที่บางรายมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ เช่น หายใจติดขัด แสบคอ แสบจมูก ส่วนปัญหาอื่นก็จะเป็นปัญหาเรื่องของอาการวิงเวียนศีรษะ
นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสำคัญ 4 ตัว ได้แก่ สารไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) สารเบนซิน (Benzene) สารไตรคลอโรเอทิลีน (Trichloroethylene) และสาร 1, 2 คลอโรมีเทน (1, 2 Chloromethane) พบว่า สูงกว่าค่ามาตรฐานเล็กน้อย ซึ่งหลังจากรับรายงานข้อมูลรายละเอียดแล้วก็จะประสานกับ กทม.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้มีการตรวจสุขภาพประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อยืนยันทางการแพทย์อีกครั้ง ว่า มีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากสารพิษดังกล่าวหรือไม่ โดยคาดว่าจะดำเนินการตรวจได้ภายใน 1-2 วัน และจะติดตามผลการตรวจเลือดโดยเร็วที่สุด
“สำหรับมาตรการชั่วคราวที่คาดว่าจะช่วยป้องกันผลกระทบได้ดีที่สุด ในเบื้องต้นทราบว่า คงต้องประสานให้เจ้าของที่ดินซึ่งเป็นภาคเอกชน และบางครั้งมีการแอบเผาในบริเวณบ่อขยะด้วย ทำให้เกิดควันพิษที่ก่อความรำคาญแก่ผู้อาศัยใบริเวณใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า ประชาชนทั่วไปหากต้องการป้องกันตนเองจากการสูดดมควันพิษ ก็ให้สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง หลังจากออกไปทำธุระที่ต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอก รวมทั้งหากจำเป็นต้องขับรถ หรืออกมาทำธุระในบริเวณใกล้เคียงบ่อขยะควรสวมเสื้อมิดชิด สวมแว่น สวมถุงมือ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารอันตราย รวมทั้งหากพบเห็นผู้ใดนำขยะมาทิ้งก็ให้แจ้งทางสำนักเขตด้วย” นพ.สุรวิทย์ กล่าว
พ.ต.ท.อรรถพันธ์ วัชระปันตรี สว.อก.สน.ฉลองกรุง กล่าวว่า ขณะนี้ ทาง สน.มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นาย ภายในห้องทำงานจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ปรับอากาศที่ช่วยบรรเทากลิ่นอับของกองขยะ ได้บ้าง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายต้องเผชิญกับอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจลำบาก และมือเท้าชา มานาน ซึ่งคาดว่า หลังจากย้ายสำนักงานแล้วน่าจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้พอสมควร
ด้านนพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับกรณีของบ่อขยะที่บริเวณ สน.ฉลองกรุง นั้น เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ส่วนการพบค่าสารพิษบางอย่าในพื้นที่ ก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าติดตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนจะต้องได้รับสารพิษดังกล่าวเข้าไปทุกคน จึงจำเป็นต้องรอผลตรวจเลือดของประชาชนเพื่อเติม ซึ่งแพทย์ต้องตรวจทั้งปัสสาวะและเลือด เพื่อดูว่า มีปริมาณสารพิษที่เป็นสะสมมากเพียงใด แต่อาการเบื้องต้นที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามานั้น เป็นปัญหาทั่วไปที่เมื่อได้รับควันจากการเผาไหม้ หรือ กลิ่นบางอย่างก็ต้องมีอาการระคายเคืองจมูก หรือตา เป็นธรรมดา หรือบางคนแพ้มากก็จะมีอาเจียนบ้าง แต่ที่ประชาชนต้องระวัง คือ ช่วงอากาศร้อนการเผาไหม้จะง่ายขึ้น หากรับไปปริมาณมาก คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อาทิ เป็นภูมิแพ้ ผู้สูงอายุ ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
อนึ่ง จากข้อมูลของกรมอนามัย ระบุว่า สำหรับอันตรายของสารไวนิลคลอไรด์ หากรับปริมาณมากก็จะเกิดอาการหายใจติดขัด คลื่นไส้ อาเจียน หากสัมผัสเป็นระยะเวลานานจะเกิดอาการเมื่อยล้า หมดแรง ผิวหนังซีด เช่นเดียวกับสารไตรคลอโรเอทิลีน และสาร 1, 2 ไดคลอโรอีเทน ส่วนสารเบนซิน (Benzene) หากเข้าสู่ปอดก็จะทำให้ปอดอักเสบได้ หากมีปริมาณสะสมจำนวนมาก อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง และอาจทำให้เกิดภาวการณ์มองเห็นเลือนราง สาร 1, 2 ไดคลอโรอีเทน