ม.เกษตรฯ ยื่นหนังสือวุฒิฯ ค้านทางด่วน “สุรชัย” เผยเตรียมยกเครื่องห้องพยาบาล

ผู้ช่วยรองอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ ยื่นหนังสือต่อวุฒิสภา ค้านก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ถนนงามวงศ์วาน ชี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เสนอให้ทำแบบทางลอด รองประธานวุฒิฯ คนที่ 1 เผยหารือปรับปรุงห้องพยาบาลเพิ่มรับเหตุฉุกเฉิน หลังช่างภาพเครือเนชั่นล้มป่วย เตรียมซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติม พร้อมประสานขอรถฉุกเฉินเพิ่ม

วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ห้องรับรองพิเศษ อาคารรัฐสภา 2 เมื่อเวลา 15.00 น. นายอนุชัย รามวรังกูร ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและพัฒนากายภาพ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ผ่าน ถนนงามวงศ์วาน ติดกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โดยนายอนุชัยกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กังวลว่าทางด่วนดังกล่าวที่มีความสูงถึง 28 เมตร เทียบเท่ากับตึก 10 ชั้น ทั้งยังกินพื้นที่ของมหาวิทยาลัยฯ ตลอดแนวกว่า 10 ไร่ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต่อชีวิตทรัพย์สิน โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังกระทบต่อจิตใจและทัศนียภาพ ของมหาวิทยาลัยและชุมชนอมรพันธ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ตลอดจนโรงพยาบาลวิภาวดี ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางเสียง ฝุ่นละออง จึงอยากเสนอให้มีการก่อสร้างทางด่วนเป็นแบบทางลอด

ด้านนายสุรชัยกล่าวว่า จะนำเรื่องนี้ไปศึกษารายละเอียด ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวข้องกับกรรมาธิการ (กมธ.) คมนาคม และ กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา แต่ต้องดูน้ำหนักของเรื่องก่อนว่าจะให้ กมธ.ใดพิจารณาตรวจสอบ และหากทางมหาวิทยาลัยฯ มีข้อมูลทางวิชาการที่ศึกษาไว้ ก็อยากให้ส่งมาให้ทางวุฒิสภา เพื่อที่จะได้ง่ายในการตรวจสอบ

นอกจากนี้ นายสุรชัยยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมในการดูแล ส.ว. และบุคลากร รวมถึงผู้สื่อข่าวในสภาฯ เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยในยามฉุกเฉินว่า ขณะนี้ได้มีการหารือกันในกลุ่ม ส.ว.ที่เป็นแพทย์และพยาบาลในการปรับปรุงห้องพยาบาลตึกวุฒิสภาเพิ่มเติมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น หลังนายสกล สนธิรัตน์ ช่างภาพศูนย์ภาพเนชั่นเกิดอาการวูบและนำส่งโรงพยาบาลล่าช้า จนมีอาการหนัก

โดยทางวุฒิสภาจะสั่งซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติม อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ ออกซิเจน โดยเบื้องต้นได้จัดทำป้ายบอกทางมายังห้องพยาบาลให้สังเกตุเห็นอย่างชัดเจน อีกทั้ง จะมีการประสานกับทางสภาผู้แทนราษฎร ในการขอรถฉุกเฉินมาประจำที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา 2 จำนวน 1 คัน แต่หากไม่ได้ ก็อาจต้องมีการประสานกับโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อขอรถฉุกเฉินมาเตรียมพร้อมที่อาคารวุฒิสภา ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าห้องพยาบาลของวุฒิสภาสามารถใช้ได้ทั้ง สมาชิก ข้าราชการ สื่อมวลชน และบุคคลที่มาติดต่องานกับทางวุฒิสภา