ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดลั่นนำสิทธิชุมชนขึ้นศาลปกครอง ฟ้องถอนอุทยานฯแน่ กระตุ้นชาวบ้านเตรียมพร้อมศึกษาจริงจัง ประสานฝ่ายนโยบาย เล็งมีส่วนร่วมร่างกฎหมายป่าไม้ใหม่
วานนี้ (22 ก.ค.) ที่ศาลาเรียนรู้ศาลาชุมชน มูลนิธิอันดามัน ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านกฎหมายกับเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) และโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) โดยมีชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด จากจังหวัดตรัง พัทลุง ประจวบคีรีขันธ์ และชาวบ้านสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าร่วมประมาณ 50 คน
นายเลาฟั้ง บัณฑิตาทอดสกุล ทนายความจากเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน นำเสนอว่า ปัญหาที่ดินเป็นปัญหาร่วมของคนทั้งประเทศ โดยที่ผ่านมามีใช้ใช้สิทธิชุมชน ตามมาตรา 66 และ 67 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) และโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ได้ร่วมกันศึกษา เบื้องต้นพบว่าการที่จะแก้ปัญหาได้นั้นจะต้องใช้สิทธิชุมชนฟ้องกรมป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฯลฯ กับศาลปกครองขอเพิกถอนพื้นที่ซึ่งประกาศทับที่ชาวบ้านดั้งเดิม และการต่อรองการขอใช้สิทธิ์ทำกินเมื่อมีการขยายชุมชนกับพื้นที่อนุรักษ์ของรัฐ
นายสงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ ทนายความจากโครงการนิติธรรมสิ่งแวดล้อม เสนอว่า คนในเขตป่าต้องเสนอให้มีการแก้ไขปัญหาที่ดินในเชิงระบบครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ มีชุมชนจำนวนมากอยู่ในเขตป่าแต่กฎหมายไม่รับรอง แล้วเป็นไปได้หรือไม่ที่จะใช้สิทธิชุมชนเพื่อฟ้องกับศาลปกครองชี้ขาด แต่ทั้งนี้พื้นที่นั้นจะต้องมีความพร้อม ทั้งข้อมูลมั่นใจว่าจะสามารถชนะคดีได้
นายบุญ แซ่จุ่ง ผู้ประสานเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กล่าวว่า ในอนาคตเราใช้สิทธิชุมชนฟ้องกรมป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฯลฯ กับศาลปกครอง เพิกถอนพื้นที่ซึ่งประกาศทับที่แน่นอน อำนาจตุลาการมีเราก็ต้องใช้เครือข่ายฯ เราเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ ถ้าจะฟ้องต้องมีความรู้มากกว่านี้ ต้องมีการปฏิบัติการอย่างเป็นระบบ อีกทั้งต้องประสานฝ่ายนโยบาย การมีธรรมนูญชุมชน ธรรมนูญจังหวัดเกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม
“อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ มีมติคณะรัฐมนตรียุบกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมกับกรมป่าไม้ และอาจมีแนวโน้มที่จะยุบรวมกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้ทั้ง 5 ฉบับให้เป็นฉบับเดียว เราต้องมีส่วนร่วมในการกำหนดออกแบบด้วย” นายบุญ กล่าว
ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ
ศูนย์สื่อสังคมภาคใต้