ระนอง - ระนองเกิดลมพายุฝนพัดแรงกระหน่ำ เป็นเหตุทำให้ต้นไม้หักโค่นขวางทางจราจร ใช้เวลาเคลียร์พื้นที่นานกว่า 2 ชั่วโมง เผยมีพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม 5 อำเภอ
วันนี้ (19 ก.ค.) บริเวณหมู่ที่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ได้เกิดลมพายุฝนพัดกระหน่ำ จนเป็นเหตุทำให้ต้นไม้หักโค่นขวางเส้นทางจราจรขึ้นสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 เจ้าหน้าที่ทั้งหมดไม่สามารถขึ้นไปทำงานบนสถานีที่อยู่บนเขาสูงได้ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลบางนอน นำเลื่อยยนต์เข้ามาทำการเลื่อยไม้ และช่วยกันนำเศษกิ่งไม้ที่ขวางทางออกให้รถสามารถผ่านสัญจรได้ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
นางสำเนียง มณีรัตน์ ผช.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ยังตกหนักอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันที่พัดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้หลายพื้นที่ในจังหวัดระนองมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดดินเลื่อนไหล และดินโคลนถล่ม อันเป็นผลจากดินอุ้มน้ำมานาน ประกอบกับลักษณะของพื้นที่ที่เป็นภูเขา และมีภูมิประเทศลาดชัน
ทาง สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง จึงได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยการเตรียมแผนรับมือกับทุกๆ สถานการณ์เอาไว้ พร้อมทั้งประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ระดับพื้นที่ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์เตือนภัย กรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมทั้งส่งเอกสารแผนงาน และจำนวนสถานที่เสี่ยงภัยไปให้แก่หน่วยงานต่างๆ ได้ทราบ หากเกิดเหตุการณ์จะได้สามารถแจ้งเตือนหรือช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ
จังหวัดระนอง มีพื้นที่เสี่ยงภัยที่เกี่ยวกับดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กระบุรี อ.ละอุ่น อ.กะเปอร์ และ อ.สุขสำราญ รวม 28 ตำบล 84 หมู่บ้าน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอกระบุรี และอำเภอละอุ่น ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนของน้ำตกนั้นมี 6 แห่ง ได้ประสานกับอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในการเฝ้าระวังน้ำป่า และประกาศเตือนภัยนักท่องเที่ยวให้งดเล่นน้ำบริเวณน้ำตกในระยะนี้
วันนี้ (19 ก.ค.) บริเวณหมู่ที่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ได้เกิดลมพายุฝนพัดกระหน่ำ จนเป็นเหตุทำให้ต้นไม้หักโค่นขวางเส้นทางจราจรขึ้นสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 เจ้าหน้าที่ทั้งหมดไม่สามารถขึ้นไปทำงานบนสถานีที่อยู่บนเขาสูงได้ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลบางนอน นำเลื่อยยนต์เข้ามาทำการเลื่อยไม้ และช่วยกันนำเศษกิ่งไม้ที่ขวางทางออกให้รถสามารถผ่านสัญจรได้ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
นางสำเนียง มณีรัตน์ ผช.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ยังตกหนักอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันที่พัดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้หลายพื้นที่ในจังหวัดระนองมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดดินเลื่อนไหล และดินโคลนถล่ม อันเป็นผลจากดินอุ้มน้ำมานาน ประกอบกับลักษณะของพื้นที่ที่เป็นภูเขา และมีภูมิประเทศลาดชัน
ทาง สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง จึงได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยการเตรียมแผนรับมือกับทุกๆ สถานการณ์เอาไว้ พร้อมทั้งประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ระดับพื้นที่ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์เตือนภัย กรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมทั้งส่งเอกสารแผนงาน และจำนวนสถานที่เสี่ยงภัยไปให้แก่หน่วยงานต่างๆ ได้ทราบ หากเกิดเหตุการณ์จะได้สามารถแจ้งเตือนหรือช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ
จังหวัดระนอง มีพื้นที่เสี่ยงภัยที่เกี่ยวกับดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กระบุรี อ.ละอุ่น อ.กะเปอร์ และ อ.สุขสำราญ รวม 28 ตำบล 84 หมู่บ้าน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอกระบุรี และอำเภอละอุ่น ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนของน้ำตกนั้นมี 6 แห่ง ได้ประสานกับอุทยานแห่งชาติต่างๆ ในการเฝ้าระวังน้ำป่า และประกาศเตือนภัยนักท่องเที่ยวให้งดเล่นน้ำบริเวณน้ำตกในระยะนี้