ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจกองปราบลงภูเก็ต นำกำลัง 50 นายบุกตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด แก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ เผยในพื้นที่มีแก๊งปล่อยเงินกู้ 3 กลุ่ม
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 กองปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.ต.รุ่งศักดิ์ ไม้จันทร์ดี สว.กก.5 กองปราบปราม นำกำลังตำรวจกองปราบปราม ตำรวจในพื้นที่ อาสาสมัคร ประมาณ 50 นาย พร้อมหมายศาลจังหวัดภูเก็ต กระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 2 จุดใ นพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต และพื้นที่อำเภอถลาง ประกอบด้วย บ้านเช่าเลขที่ 12/9 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และบ้านเลขที่ 11/57 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ผลการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่พบว่า ภายในบ้านเลขที่ 12/9 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เปิดเป็นสำนักงาน มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งเดินวนเวียนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวชายฉกรรจ์จำนวน 8 คน พร้อมหลักฐานสัญญาเงินกู้-ค้ำประกัน 14 ชุด สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้กู้ ผู้ค้ำจำนวน 130 ชุด เงินสดจำนวน 2 หมื่นกว่าบาท ใบสรุปรายรับ 83 ใบ สมุดรายรับ-รายจ่าย 9 เล่ม หนังสือสัญญาเช่าซื้อ-พร้อมชื่อลูกค้า 1 เล่ม นามบัตรเงินด่วน 3 กล่อง สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์จำนวน 9 เล่ม อาวุธมีดดาบ 9 เล่ม ใบกระท่อมแห้ง 1 ถุง และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการเข้าตรวจค้นจุดที่ 2 บ้านเลขที่ 111/57 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบชายฉกรรจ์จำนวน 3 คน สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ 3 เล่ม นามบัตรเงินด่วน 2 กล่อง สัญญาเงินกู้ 1 ชุด ใบแจ้งยอดรายวัน 3 เล่ม และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 กองปราบปราม กล่าวถึงการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ทางตำรวจกองปราบปรามได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีการปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในราคาสูง รวมทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุแก๊งปล่อยเงินกู้รุมทำร้ายคนค้ำประกันลูกหนี้เงินกู้จนได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจึงลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนจนทราบว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีแก๊งปล่อยเงินกู้กระจายอยู่ในพื้นที่ จำนวน 3 กลุ่ม โดยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 2 กลุ่ม และพื้นที่ อ.ถลาง 1 กลุ่ม วันนี้ (19 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจึงขอหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้นทั้ง 3 จุด แต่สามารถตรวจค้นได้เพียง 2 จุด คือในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง และพื้นที่ อ.ถลาง ส่วนอีกจุดไม่มีคนอยู่
ซึ่งผลจากการตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งขณะนี้ นำตัวผู้ต้องหา และของกลางที่ตรวจยึดทั้งหมด ส่งสถานีตำรวจภูธรฉลอง และสถานีตำรวจถลางดำเนินคดีแล้ว ซึ่งการเข้าไปตรวจค้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นแหล่งปล่อยเงินกู้รายใหญ่ในภูเก็ต
พ.ต.อ.วัชรพล ยังได้กล่าวต่อไปว่า ปัญหาการกู้เงินนอกระบบใน จ.ภูเก็ต ถือว่าเป็นปัญหาที่มากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาค 8 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก มีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย บางครั้ง ต้องพึ่งพาเรื่องของสถานการณ์การท่องเที่ยว พ่อค้า แม่ค้า และอื่นๆ อีกจำนวนมาก บางครั้งเงินหมุนไม่ทันก็ไปขอยืมจากแก๊งปล่อยเงินกู้ที่นิยมไปปล่อยตามตลาดนัด ตลาดสด คนทำงานกลางคืน และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะบอกกันปากต่อปาก ซึ่งแก๊งเหล่านี้ จะเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เมื่อไม่มีจ่ายก็จะถูกข่มขู่ ถูกทำร้ายร่างกาย หรือยึดทรัพย์สิน และอื่นๆ ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมมาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่หมด ซึ่งเรื่องของการปล่อยเงินกู้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมานานแล้ว แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ คือ เรื่องของการทำร้ายร่างกายของลูกหนี้
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (19 ก.ค.) พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 กองปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.ต.รุ่งศักดิ์ ไม้จันทร์ดี สว.กก.5 กองปราบปราม นำกำลังตำรวจกองปราบปราม ตำรวจในพื้นที่ อาสาสมัคร ประมาณ 50 นาย พร้อมหมายศาลจังหวัดภูเก็ต กระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 2 จุดใ นพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต และพื้นที่อำเภอถลาง ประกอบด้วย บ้านเช่าเลขที่ 12/9 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต และบ้านเลขที่ 11/57 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
ผลการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่พบว่า ภายในบ้านเลขที่ 12/9 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เปิดเป็นสำนักงาน มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งเดินวนเวียนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวชายฉกรรจ์จำนวน 8 คน พร้อมหลักฐานสัญญาเงินกู้-ค้ำประกัน 14 ชุด สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้กู้ ผู้ค้ำจำนวน 130 ชุด เงินสดจำนวน 2 หมื่นกว่าบาท ใบสรุปรายรับ 83 ใบ สมุดรายรับ-รายจ่าย 9 เล่ม หนังสือสัญญาเช่าซื้อ-พร้อมชื่อลูกค้า 1 เล่ม นามบัตรเงินด่วน 3 กล่อง สำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์จำนวน 9 เล่ม อาวุธมีดดาบ 9 เล่ม ใบกระท่อมแห้ง 1 ถุง และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการเข้าตรวจค้นจุดที่ 2 บ้านเลขที่ 111/57 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบชายฉกรรจ์จำนวน 3 คน สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ 3 เล่ม นามบัตรเงินด่วน 2 กล่อง สัญญาเงินกู้ 1 ชุด ใบแจ้งยอดรายวัน 3 เล่ม และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 กองปราบปราม กล่าวถึงการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในครั้งนี้ ว่า สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ทางตำรวจกองปราบปรามได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีการปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในราคาสูง รวมทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดเหตุแก๊งปล่อยเงินกู้รุมทำร้ายคนค้ำประกันลูกหนี้เงินกู้จนได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจึงลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนจนทราบว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีแก๊งปล่อยเงินกู้กระจายอยู่ในพื้นที่ จำนวน 3 กลุ่ม โดยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 2 กลุ่ม และพื้นที่ อ.ถลาง 1 กลุ่ม วันนี้ (19 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจึงขอหมายศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้นทั้ง 3 จุด แต่สามารถตรวจค้นได้เพียง 2 จุด คือในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง และพื้นที่ อ.ถลาง ส่วนอีกจุดไม่มีคนอยู่
ซึ่งผลจากการตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยจัดหามาซึ่งเงินทุนแล้วให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งขณะนี้ นำตัวผู้ต้องหา และของกลางที่ตรวจยึดทั้งหมด ส่งสถานีตำรวจภูธรฉลอง และสถานีตำรวจถลางดำเนินคดีแล้ว ซึ่งการเข้าไปตรวจค้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นแหล่งปล่อยเงินกู้รายใหญ่ในภูเก็ต
พ.ต.อ.วัชรพล ยังได้กล่าวต่อไปว่า ปัญหาการกู้เงินนอกระบบใน จ.ภูเก็ต ถือว่าเป็นปัญหาที่มากกว่าจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาค 8 เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีประชาชนเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก มีการประกอบอาชีพที่หลากหลาย บางครั้ง ต้องพึ่งพาเรื่องของสถานการณ์การท่องเที่ยว พ่อค้า แม่ค้า และอื่นๆ อีกจำนวนมาก บางครั้งเงินหมุนไม่ทันก็ไปขอยืมจากแก๊งปล่อยเงินกู้ที่นิยมไปปล่อยตามตลาดนัด ตลาดสด คนทำงานกลางคืน และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะบอกกันปากต่อปาก ซึ่งแก๊งเหล่านี้ จะเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เมื่อไม่มีจ่ายก็จะถูกข่มขู่ ถูกทำร้ายร่างกาย หรือยึดทรัพย์สิน และอื่นๆ ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมมาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่หมด ซึ่งเรื่องของการปล่อยเงินกู้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมานานแล้ว แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ คือ เรื่องของการทำร้ายร่างกายของลูกหนี้
