นครศรีธรรมราช - ผบ.เรือนจำนครศรีธรรมราช ขอกำลัง ตชด.ติดอาวุธครบมือเข้ารักษาความปลอดภัยรอบเรือนจำ หลังเจ้าหน้าที่ถูกคุกคาม-ขู่ฆ่าจากขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ พบยังมีความพยายามส่งของโทรศัพท์หลุดรอดเข้าไปเกือบทุกวัน
ที่ จ.นครศรีธรรมราช ความเคลื่อนไหวในความพยายามการแก้ไขปัญหาเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชทั้งระบบ โดยเฉพาะในส่วนของนักโทษที่อยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ รวมไปถึงการจัดการกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด และการประพฤติปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนมีคำสั่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ให้เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ออกจากราชการไว้ก่อนรวม 3 นาย และให้ย้ายออกไปปฏิบัติหน้าที่ยังเรือนจำอื่นอีก 11 นาย เพื่อรอการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
ความคืบหน้าวันนี้ (11 ก.ค.) พ.ต.ท.วิษณุ ชนะอักษร ผบ.ร้อย ตชด.424 กก.ตชด.42 พร้อมด้วยกำลังจำนวน 30 นาย ติดอาวุธครบมือ นำกำลังพลเข้ารายงานตัวต่อ นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตามคำสั่ง กก.ตชด.42 เพื่อเข้าสนธิกำลังปฏิบัติหน้าที่ รปภ.บริเวณรอบรั้วเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ป้องกันการลักลอบเข้ามาส่งสิ่งของต้องห้ามเข้าไปยังเรือนจำ และรักษาปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกส่วนการปฏิบัติงาน หลังจากที่มีขบวนการค้ายาเสพติดและส่งสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง หลังจากเพิ่มความเข้มงวดในทุกระบบอย่างหนัก จนทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดต้องชะงัก และการส่งสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำยิ่งลำบากมากยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่โดยรอบเรือนจำนั้นยังคงพบร่องรอยของการฝ่าลวดหนามหีบเพลงเข้ามาในบางจุดอย่างเห็นได้ชัด
นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้ขอสนับสนุนกำลังพลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช และฝ่ายปกครอง มาสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ หลังจากที่มีการข่มขู่คุกคามถึงขั้นขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ รปภ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องขอกำลังจากตำรวจมาเสริมบริเวณโดยรอบ
“เจ้าหน้าที่ ตชด.จะปฏิบัติงานรอบรั้วเรือนจำกลาง ตำรวจภูธรจะปฏิบัติหน้าที่ภายนอก และในส่วนของฝ่ายปกครอง จะปฏิบัติในท้องที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวในทุกส่วนที่ผิดปกติ และเชื่อมโยงมายังนักโทษหรือผู้เกี่ยวข้องในเรือนจำ”
นายสุรพล ยังกล่าวต่อว่า ยังมีความพยายามในการส่งของเข้ามาในเรือนจำอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้แก้ปัญหาในชั้นแรก คือ จะไม่ปล่อยให้นักโทษลงมาจากเรือนนอนจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพื้นที่ ซึ่งยังคงพบว่า มีโทรศัพท์หลุดรอดเข้าไปได้เกือบทุกวัน ขณะเดียวกัน จะเสริมลวดหีบเพลงเข้ามาในพื้นที่อ่อนไหวก่อนจะถึงรั้วชั้นแรก เพื่อป้องกันการปีนข้ามรั้วเข้ามาส่งของได้อีก ส่วนภายในรั้วเรือนจำจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ในการดูแลโดยรวม ขณะนี้มีนักโทษเกือบ 5 พันคน มีเจ้าหน้าที่เฉลี่ยดูแลนักโทษ 100 คนต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน