“เหวง” รับไม้ อสส.หลังชี้คำร้องแก้ รธน.ไม่ล้มล้างการปกครอง จี้ตุลาการลาออก

“เหวง” พร้อมคณะแกนนำ นปช. จี้ 7 ตุลาการศาล รธน.แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง รับไม้ อสส.หน้าตั้งวินิจฉัยคำร้องตามใบสั่ง ยันแก้ รธน.ม.291 ไม่ถือเป็นล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้ศาล รธน.ถอนคำสั่งให้สภาชะลอลงมติแก้ไข รธน.วาระ 3 ก่อนจะนำรายชื่อปชช.เข้าชื่อถอดถอนยื่นต่อ ปธ.วุฒิฯ ขณะที่กลุ่มประชาชนรักประชาธิปไตยมอบกุหลาบสีชมพูให้กำลังใจตุลาการ

วันนี้ (8 มิ.ย.) นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำ นปช. นายสมหวัง อัสฐาษี รองประธาน นปช. เดินทางมายื่นหนังสือต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านนางอรรถพร เลาหะสุรโยธิน รักษาการในตำแหน่ง ผอ.กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 7 คนลาออกจากตำแหน่งตุลาการฯ เพื่อรับผิดชอบต่อการละเมิดรัฐธรรมนูญ และใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

โดย นพ.เหวงกล่าวว่า ขณะนี้ตุลาการศาลฯ ได้ดำเนินการใช้อำนาจเกินรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ เนื่องจากได้มีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระ 3 ออกไปจกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยกล่าวอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการดำเนินการ แต่ทางอัยการสูงสุดได้มีมติชัดเจนว่า การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ไม่มีพฤติการณ์หรือการกระทำอันเป็นเหตุที่อัยการสูงสุดต้องยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการยกเลิกการกระทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ดังนั้นการกระทำของตุลาการศาลฯ ทั้ง 7 คนนี้เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการรักษาระบบนิติรัฐและนิติธรรมของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายจากความไม่พอใจของประชาชน กลุ่ม นปช.ขอเรียกร้องให้ตุลาการศาลฯ ทั้ง 7 คน พิจารณาตัวเอง ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง โดยก่อนที่จะมีการลาออกจากตำแหน่งก็ขอให้ออกคำสั่งยกเลิกคำสั่งเดิมที่ให้รัฐสภาชะลอการลงมติ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ เวลา 14.00 น.จะนำรายชื่อประชาชนที่ได้ร่วมลงชื่อถอดถอนตุลาการฯ ทั้ง 7 คน จำนวน 3 หมื่นรายชื่อ ยื่นต่อ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ส่วนที่จะมีการนำมวลชนไปกดดันตุลาการฯ นั้น พวกเราเดินตามกรอบของกฎหมาย คือการเรียกร้องให้ตุลาการฯ ลาออก แต่จะไม่มีการเคลื่อนไหวกดดันตุลการศาลฯ จะอยู่ในความสงบ ส่วนที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เบอร์โทรศัพท์ บุคคลในครอบครัวของตุลาการฯ นั้น นายยศวริศได้กล่าวคำขอโทษแล้ว อีกทั้งก็ไม่ได้มีเจตนาจะคุกคามตุลาการฯ แต่อย่างใด ซึ่งนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้จัดส่งกำลังเจ้าที่ดูแลความรักษาปลอดภัยกับตุลาการฯ เพื่อป้องกันบุคคลที่ 3 จะสร้างสถานการณ์และโยนความผิดให้กับกลุ่ม นปช. ทั้งนี้ ขอเรียกร้องไปยังบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทร.ไปข่มขู่ตุลาการฯ ทั้ง 7 คน หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายให้ดำเนินการได้ทันที

พ.ต.ท.เสงี่ยมกล่าวว่า 3 ในองค์คณะตุลาการศาลฯ ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายจรัญ นายนุรักษ์ และนายสุพจน์ เป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียสืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ เนื่องจากบุคคลทั้ง 3 คนเป็นผู้ที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งใน 101 คนใน ส.ส.ร. สมัยนายนรนิติ เศรษฐบุตร เป็นประธาน ส.ส.ร. นอกจากนี้ทั้ง 3 คนยังได้มานั่งดำรงตำแหน่งตุลาการศาลฯ อีก และมาร่วมพิจารณาและออกคำสั้งให้สภา ชะลอการลมติวาระ 3 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหตุนี้จึงทำให้เกิดวิกฤติความขัดแย้งขึ้น ซึ่งทางกลุ่ม นปช.ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ทุ่งสองห้องแล้ว และอยากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้ 7 ตุลาการมารับข้อกล่าวหาหรือยัง หากยังไม่ดำเนินการก็จะไปทวงถาม และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ให้ถึงที่สุดเพราะถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่

ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มประชาชนรักประชาธิปไตยมารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมนำดอกกุหลาบสีชมพูมาให้กำลังใจแก่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังทราบว่าตุลาการศาลฯ ถูกข่มขู่จากการรับคำร้องและสั่งชะลอการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญและประเทศชาติ จึงขออย่าหวั่นไหว ขอให้ทำหน้าที่ต่อไปอย่างดีที่สุด โดยประชาชนที่รักประชาธิปไตยจะขออยู่เคียงข้างตุลาการฯ ทั้งหมดต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับการเดินทางมาของ 2 กลุ่มได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง มาดูแลอย่างใกล้ชิด โดยการเคลื่อนไหวของทั้งสองกลุ่มก็เป็นไปอย่างเรียบร้อย และไม่มีเหตุใดๆ และหลังจากที่กลุ่ม นปช.ยื่นหนังสือ และกลุ่มประชาชนรักประชาธิปไตยมอบดอกไม้แล้ว ทั้งสองกลุ่มก็เดินทางกลับทันที