xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านภูเก็ตใจชื้น สนง.ผู้ตรวจการฯ ลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริงพิพาทเรื่องที่ดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินลงภูเก็ต ตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาชาวไทยใหม่บ้านราไวย์-ชาวบ้านเกาะราชาใหญ่ ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องปัญหาที่ดิน พร้อมขอให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่
นายธาวิน อินทร์จำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (5 ก.ค.) ที่ห้องประชุม POC ศาลากลาง จ.หวัดภูเก็ต นายธาวิน อินทร์จำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวไทยใหม่ หรือชาวเล บ้านราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ปัญหาระบบสาธารณูปโภค และปัญหาเรื่องของการถูกไล่ที่ และตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านซึ่งมีที่ดินอยู่บนเกาะราชาใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องของการขอออกเอกสารสิทธิ แต่ได้รับการปฏิเสธจากสำนักงานที่ดิน พร้อมร้องขอให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินของนายทุนที่ขอออกไปแล้วหลายแปลง

นายธาวิน อินทร์จำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 กล่าวถึงการลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่า การลงมาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตของคณะในครั้งนี้ เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ชาวบ้านยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องแรกเป็นเรื่องของความเดือดร้องของไทยใหม่ หรือชาวเลบ้านราไวย์ที่ร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย โดยชาวบ้านอ้างว่าที่ดินที่อยู่อาศัยมานานนั้นเป็นที่ดินที่มีเจ้าของมาอ้างกรรมสิทธิ์

และขณะนี้ มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี พร้อมร้องขอให้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าว ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และจากการพบปะกับชาวบ้านในพื้นที่พบว่า ชาวบ้านยังต้องการให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องของสาธารณูปโภคต่างๆ ด้วย เพราะขณะนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อน นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของที่ทำกินที่ยังมีปัญหาอยู่ สำหรับวันนี้ (5 ก.ค.) ได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อที่จะนำไปประกอบการพิจาณาในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ชาวไทยใหม่บ้านราไวย์
ว่าที่ร้อยตรียุทธนา จันทร์ดี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ร้องกรณีที่ดินเกาะราชาใหญ่
ส่วนเรื่องที่ 2 ที่ลงมาตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือ ปัญหาการร้องของความเป็นธรรม กรณีที่ชาวบ้านที่ยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะราชาใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยชาวบ้านอ้างว่า อาศัยทำประโยชน์มานาน และได้ยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าว แต่ทางสำนักงานที่ดินอ้างว่าไม่สามารถออกได้ เนื่องจากติดกฎกระทรวง 43 แต่ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่ร้องขอความเป็นธรรมอ้างว่า ขณะนี้มีการออกเอกสารสิทธิให้แก่นายทุนไปแล้วหลายราย ทางสำนักงานตรวจการแผ่นดินจึงลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร กรณีการขอออกเอกสารสิทธิของชาวบ้าน และกรณีของนายทุน ซึ่งการลงมาในพื้นที่ก็ได้ข้อมูลในระดับหนึ่ง หลังจากนี้ จะนำข้อมูลที่ได้กลับสรุป และจะนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการออกเอกสารสิทธิที่ออกมาแล้วด้วย ซึ่งการแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านนั้นจะช่วยอย่างเต็มที่ แต่จะต้องไม่ขัดกับกฎหมาย

ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรียุทธนา จันทร์ดี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้ร้องกรณีที่ดินเกาะราชาใหญ่ กล่าวว่า การยื่นเรื่องไปยังสำนักงานตรวจการแผ่นดินในครั้งนี้ก็เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการขอออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะราชา ซึ่งชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่บนเกาะราชาจำนวนมากที่ยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อขอออกโฉนดบนที่ดินดังกล่าว ทางสำนักงานที่ดินอ้างว่าไม่สามารถออกได้ เนื่องจากติดเรื่องของประกาศกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ที่ห้ามออกเอกสารสิทธิที่ดินที่เป็นเกาะ แต่ชาวบ้านมีความสงสัยว่า ทำไมที่ดินในบริเวณเดียวกัน เกาะเดียวกับที่ชาวบ้านยื่นขอออกเอกสารสิทธิ กลับสามารถออกได้โดยไม่มีปัญหาอะไร และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตได้ทำหนังสือถึงชาวบ้านให้ไปชี้ยืนยันแนวเขตที่ดินเพื่อออกเอกสารสิทธิที่ดินให้แก่นายทุนรายหนึ่ง จึงอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ และขอความเป็นธรรมให้แก่ชาวบ้าน

นายยุทธนา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ บนเกาะราชามีการออกเอกสารสิทธิที่ดินให้แก่นายทุนไปแล้วหลายราย และคาดว่า กำลังอยู่ระหว่างการขอออกเอกสารสิทธิอีกไม่น้อยกว่า 10 แปลง จุดนี้ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่า ไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด
กำลังโหลดความคิดเห็น