ตรัง - ชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง พลิกวิกฤตช่วงปลาวางไข่ แห่จับแมงกะพรุนลอดช่อง ส่งขายญี่ปุ่นวันละ 6,000-7,000 บาท โกยรายได้เข้าหมู่บ้านวันละ 3 แสนบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
นายอุเส็น หมื่นท่องวารี อายุ 63 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 5 บ้านแหลมมะขาม ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งหมู่บ้านได้พลิกวิกฤตในช่วงที่กรมประมงประกาศปิดอ่าวในทะเลอันดามัน เพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำวางไข่ 3 เดือน ให้เป็นโอกาสโดยรวมตัวกันนำเรือหางยาวกว่า 150 ลำ ออกหาแมงกะพรุนลอดช่องซึ่งได้ถูกคลื่นลมมรสุมในทะเลพัดพามากองรวมกันที่หน้าชายหาดแหลมมะขาม ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร เพื่อนำมาขายให้แก่พ่อค้าที่มารับซื้อถึงฝั่ง โดยแต่ละวัน สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
สำหรับแมงกะพรุนลอดช่องนั้น กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละวันจะมีชาวประมงจำนวนมากนำเรือออกจับแมงกะพรุน โดยใช้สวิงช้อนตักขึ้นมาจากทะเล ใช้เวลาแค่ 2 ชม.ก็ได้ประมาณ 600-700 ตัว หรือประมาณ 2-3 ตัน จากนั้น จะนำไปขายให้แก่พ่อค้าคนกลางจาก จ.สุราษฎร์ธานี ระนอง และพังงา ที่มารับซื้อแมงกะพรุนลอดช่อง ในราคาตัวละ 6 บาท ทำให้ในแต่ละวัน ชาวประมงจะมีรายได้ประมาณ 6,000-7,000 บาท เมื่อเทียบกับค่าน้ำมันที่ต้องเติมวันละ 3 ลิตร หรือประมาณ 100 กว่าบาท
นายฐิติพงษ์ ศุภรส อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/11 หมู่ที่ 6 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นพ่อค้าคนกลาง กล่าวว่า ในแต่ละวันจะรับซื้อแมงกะพรุนลอดช่องจากชาวประมงวันละประมาณ 7,000-10,000 ตัน จากนั้น จะนำมาใส่บ่อพัก ซึ่งทำด้วยไม้แล้วปูด้วยพลาสติกรองพื้นแล้วนำเกลือทะเลที่สั่งซื้อจาก จ.สมุทรสาคร มาดองแมงกะพรุนลอดช่อง ทิ้งไว้ 3 วัน เพื่อกัดให้คราบเมือกหลุด ก่อนจะนำไปคัดแยกตัดส่วนหัว และหางออกจากกัน ก่อนที่จะส่งไปขายที่โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำที่ จ.สมุทรสาคร ในราคา กก.ละ 70 บาท
นายบู นวลศรี อายุ 75 ปี ปราชญ์นักอนุรักษ์ และเจ้าของรางวัลลูกโลกสีเขียว ในปี 2555 กล่าวว่า การที่ชาวประมงพากันแห่ไปจับแมงกะพรุนลอดช่องนั้นอาจมีผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเลบ้าง แต่ก็คงไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เพราะหากชาวประมงไม่จับไปขาย ก็คงทำให้น้ำในทะเลมีแต่แมงกะพรุนลอยตายเน่าเหม็นจำนวนมาก ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงระยะสั้น 2-3 เดือนเท่านั้น จนสามารถสร้างรายได้เข้าหมู่บ้านเฉลี่ยวันละ 300,000 บาท โดยที่ชาวประมงไม่ต้องออกไปหางานทำต่างถิ่น
