นครศรีธรรมราช - กองทัพภาค 4 นำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจป่าพรุควนเคร็ง ถึงกับตะลึงมีการจุดไฟเผาเพิ่มอีกร่วม 10 จุด ป่าทุ่งช้างข้ามจุดเดิมยังลามต่อเนื่อง พบจุดใหม่ที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองฆ็องวอดนับพันไร่ แนวไฟยาวนับกิโลเมตร ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 5 เผยต้องหารือผู้ว่าฯ เร่งด่วนเตรียมขอฝนหลวงช่วย และเร่งสูบน้ำดับไฟ
วันนี้ (19 มิ.ย.) เฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 4 ได้นำ พ.อ.ภาสกร ทวีตา รอง ผอ.กร.ทภ.4 นายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอเชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายจีระศักดิ์ ชูความดี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 5 ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งในช่วงป่าสงวนแห่งชาติป่าทุ่งช้างข้าม ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง ม.4 ต.การะเกด และ ม.8 ม.11 ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากได้เกิดเหตุไฟป่าลุกลามอย่างต่อเนื่อง 3 วันเข้าทำลายพื้นที่ป่าพรุ และสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพาราของเกษตรกรในแนวใกล้กับพื้นที่ป่าซึ่งเป็นป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ และเป็นป่าที่อยู่ในโครงการปลูกป่าเสม็ดครบวงจรของมูลนิธิชัยพัฒนาในพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยในการบินสำรวจพบสภาพป่าพรุถูกไฟไหม้เสียหายในวงกว้างนับพันไร่ และแนวไฟยังลุกลามเข้าไปในป่าพรุชั้นในอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีทีท่าจะสงบลง ขณะเดียวกัน พบว่ามีการจุดไฟขึ้นใหม่ในอีกนับสิบจุดเห็นได้ชัดจากทางอากาศ เช่น ในเขตป่าแถบบ้านควนเลมอง อ.หัวไทร เยื้องไปทางหลังเขาพระบาท ไกลไปในเขตป่าควนเคร็ง ต.เคร็ง อ.ชะอวด บางจุดไฟยังมีวงกว้างเพียงไม่กี่เมตร บ่งชี้ว่าเพิ่งเริ่มจุดก่อขึ้นได้ไม่นาน ซึ่งทำให้นายจีระศักดิ์ ชูความดี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ถึงกับมีสีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอเชียรใหญ่ได้โทรศัพท์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.เข้าตรวจสอบทางภาคพื้นดินทันที
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้บินตรงไปยังกลุ่มควันที่ปกคลุมน่านฟ้าในช่วง อ.เฉลิมพระเกียรติ ห่างจากหลังที่ว่าการอำเภอไม่มากนัก พบว่า ได้มีการลักลอบเผาป่าพรุในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองฆ็อง เป็นวงกว้างไฟได้โหมเป็นแนวยาวนับกิโลเมตร และโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงสร้างความเสียหายให้แก่แนวป่าอย่างรวดเร็ว สามารถเห็นเปลวเพลิงได้จากเฮลิคอปเตอร์ โดยประมาณพื้นที่ทั้งหมดจากทางอากาศไม่น้อยกว่า 4 พันไร่ และยังคงขยายวงต่อเนื่อง
นายจีระศักดิ์ ชูความดี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 5 เปิดเผยภายหลังจากการสำรวจว่าช่วงนี้เจ้าหน้าเข้าพื้นที่แล้วประมาณ 200 นาย จากกรมอุทยานและกรมป่าไม้ เร่งเข้าไปดับไฟยังไม่เพียงพอ เนื่องจากไฟดับยากกว่าพื้นดิน และลุกลามลงใต้ดินมีทางเดียวคือ เติมน้ำเข้าไปในพรุจึงดับไฟได้ ระดมเครื่องสูบน้ำยังไม่เพียงพอ
“เรายากในการควบคุม สังเกตได้ว่าชาวบ้านอยู่รอบแนวผืนป่า จะเข้าไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเร่งควบคุมไฟในป่าพรุให้ได้ โดยจะมีอากาศยานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเข้าร่วมดับไฟด้วยการบิน และทางฝ่ายปกครองกำลังเร่งประสานงานในการขอฝนหลวงเข้าปฏิบัติการในพื้นที่” ผอ.สำนักบริการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 5 กล่าว
ขณะที่นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอเชียรใหญ่ ระบุว่า ป่าพรุควนเคร็ง หรือป่าท่าช้างข้ามในขณะนี้ มีประชาชนเข้าไปบุกรุกจำนวนมากเพื่อปลูกสวนปาล์มเพราะกระแสของปาล์มในพื้นที่ขณะนี้แรงมาก ซึ่งมีนายทุนมาซื้อที่ดินของชาวบ้านไว้จำนวนมากพอสมควร เพื่อทำสวนปาล์ม และยังมีพื้นที่เหลืออีกจำนวนมากใกล้ๆ สวนปาล์ม ทำให้นายทุนอยากได้พื้นที่ป่าพรุควนเคร็งที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์อยู่ จึงว่าจ้างชาวบ้านบางคนเข้าไปบุกรุก และจุดไฟเผาจึงอาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดไฟป่าพรุควนเคร็งครั้งนี้ เพื่อบุกรุกทำสวนปาล์มก็ได้ และใกล้บริเวณนั้นก็ยังมีโครงการศึกษาทดลองปลูกป่าเสม็ดครบวงจรของมูลนิธิชัยพัฒนาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประมาณ 1,980 ไร่อยู่ จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากทีเดียว จึงต้องเร่งป้องกันพื้นที่ป่าเสม็ดแห่งนี้อย่างเต็มที่