ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านในพื้นที่บ้านคูน้ำรอบ ต.นาทับ อ.จะนะ ซึ่งเป็นเกาะกลางน้ำยังคงยึดอาชีพขึ้นตาลโตนด เป็นอาชีพหลักสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ทั้งนำมาขายเป็นน้ำตาลสด และผลิตเป็นน้ำตาลเหลว แม้ปัจจุบันจะเหลือผู้ที่ยึดอาชีพนี้อยู่ไม่เกิน 10 คนและเป็นรุ่นสุดท้าย
วันนี้ (5 มิ.ย.) จากสภาพพื้นที่ของบ้านคูน้ำรอบ หมู่ 9 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเกาะกลางน้ำตั้งอยู่ในคลองนาทับ และมีต้นตาลโตนดตามธรรมชาติที่ขึ้นอยู่หัวไร่ปลายนาเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่นี่จึงยังคงยึดอาชีพขึ้นตาลโตนด เป็นอาชีพหลัก และเป็นหนึ่งในอาชีพของชาวบ้านบ้านคูน้ำรอบ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แม้ปัจจุบันจะเหลือผู้ที่ยึดอาชีพนี้อยู่ไม่ถึง 10 คน และน่าจะเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่ยึดอาชีพนี้ แต่ทุกคนยังยืนหยัดที่จะขึ้นตาลโตนดจนกว่าจะหมดแรง
อย่างเช่น นายดิน หวังหลำ อายุ 65 ปี ซึ่งยึดอาชีพขึ้นตาลโตนดเลี้ยงดูครอบครัวมากว่า 40 ปี ในทุกๆ วัน ยังคงออกไปขึ้นตาลโตนดวันละสองรอบเช้าเย็น โดยมีอุปกรณ์ คือ มีดปาดตาลและกระบอกรองน้ำตาลจากงวงตาล ปีนป่ายห้อยโหนอยู่บนยอดตาลอย่างชำนาญ แม้จะอายุมาก นายดิน บอกว่า ในแต่ละวันจะได้นำตาลรวมกันประมาณ 9 ปี๊บ จากการขึ้นต้นตาล 20 ต้น บางส่วนจะขายเป็นน้ำตาลสดราคาปี๊บละ 300 บาท และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปเคี่ยวผลิตเป็นน้ำตาลเหลว ส่งขายปี๊บละ 900 บาท โดยน้ำตาลสด 9 ปี๊บจะผลิตเป็นน้ำตาลเหลว 2 ปี๊บครึ่ง มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว
นายดิน บอกว่า อาชีพขึ้นตาลใน 1 ปีจะทำได้แค่ 7-8 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม- กันยายน เพราะในช่วงปลายปีซึ่งเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำไม่ได้ แม้จะเป็นอาชีพที่ค่อนข้างอันตรายและเคยตกจากต้นตาลมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ นายดิน บอกว่า จะยังคงยึดอาชีพนี้ต่อไปจนกว่าจะหมดแรง เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านอีกกว่า 10 คน ในพื้นที่บ้านคูน้ำรอบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวของ ต.นาทับ ที่ยึดอาชีพขึ้นตาลโตนด ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ประกอบอาชีพนี้ เนื่องจากคนรุ่นใหม่หันไปยึดอาชีพอื่นที่สบาย และอันตรายน้อยกว่า แต่พวกตนก็ภูมิใจเพราะเป็นอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษที่สืบต่อกันมา และผลผลิตน้ำตาลสด และน้ำตาลเหลวก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วไป
