โดย Skypream/นักเขียนวัยกระเตาะ
นโยบายที่ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความนิยมจากประชาชน นอกจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน และ 15,000 บาท/เดือน สำหรับปริญญาตรีแล้ว อีกนโยบายที่ดูจะได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ การที่จะนำเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง “แท็บเล็ต” เข้ามาใช้ประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนนั้น ก็ได้รับการตอบรับจากฐานเสียงที่เป็นแม่ของเด็ก ป.1 กันไม่น้อย เพราะอยากเห็นลูกๆ เรียนเก่งขึ้นตามคำโฆษณาชวนเชื่อของพรรคการเมืองและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ
ข่าวการที่รัฐบาลไทยลงนามซื้อแท็บเล็ตจากประเทศจีน เพื่อมาใช้ในการประกอบการเรียนการสอนนั้น ถือได้ว่าเป็นข่าวฮิตติดกระแสกันเลยทีเดียว เพราะปัจจุบัน มีเพียงแค่ไม่กี่ประเทศที่นำแท็บเล็ต หรือเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ประกอบการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบ เป็นที่น่าภูมิใจไม่น้อยที่นักเรียนของประเทศเราจะมีแท็บเล็ตใช้กันตั้งแต่ ป.1 กันเลยทีเดียว
ข่าวการที่รัฐบาลจะแจกแท็บเล็ตให้แก่เด็ก ป.1 ถือได้ว่าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เพราะทุกประเทศส่วนใหญ่การที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเพื่อประกอบการเรียนการสอนนั้น จะนำมาใช้กับเด็กนักเรียนเรียนอยู่ในระดับที่สูงกว่าเด็ก ป.1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกหากมองตามหลักปฏิบัติสากล
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเท่ากับการที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.ประชาธิปัตย์ จ.สงขลา ออกมากล่าวว่า ปัจจุบัน ยังมีโรงเรียนมากกว่า 30,000 โรงเรียนที่ยังไม่มี wifi เพื่อ support การใช่งานแท็บเล็ต เทคโนโลยีที่จะเอามาปรับปรุงการเรียนการสอนนักเรียนไทย ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยากมาก
ถึงแม้หลายๆ คนอาจบอกว่าการติดตั้ง wifi เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย ผมเห็นด้วยครับ แต่ถ้ามองในภาพรวมแล้ว ยังมีอีกหลายโรงเรียนที่ยังขาดอุปกรณ์พื้นฐานในการเชื่อมต่อ หรือแม้แต่ในจังหวัดใหญ่ๆ อย่างภูเก็ต ก็ยังมีอีกหลายๆ โรงเรียนที่จำนวนครูผู้สอนยังมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน
ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ ในขณะที่ผู้นำประเทศ และอีกหลายๆ คนต้องการจะนำการเรียนการศึกษาของประเทศเข้าไปสู่ยุคเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยการสั่งซื้ออุปกรณ์ทันสมัยเข้ามา ในขณะที่อุปกรณ์พื้นฐานในอีกหลายๆ โรงเรียนยังมีไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนที่มีเพิ่มขึ้นตลอดเวลา บางโรงเรียน อย่าว่าแต่นำแท็บเล็ตมาใช้เลย แค่คอมพิวเตอร์พื้นฐานยังไม่มีเลย หรือมีก็ไม่สามารถจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เพราะเข้าอินเทอร์เน็ตไม่ได้
เป็นที่น่าจับตามองว่า แท็บเล็ตที่สั่งเข้ามานั้นมีอะไรพิเศษหรือเปล่า นักเรียนจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่หรือเปล่า หรือสั่งมาแล้ว แท็บเล็ตจะอยู่ในคลังเก็บจนฝุ่นขึ้น และตอนนี้แท็บเล็ตชุดแรกเดินทางถึงไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้ข่าวการฝึกอบรมครูผู้สอนเพื่อให้เคยชินกับการใช้งานเลยแม้แต่นิดเดียว ก็คงต้องค่อยติดตามกันต่อไป สำหรับนโยบายแจกแท็บเล็ตเพื่อนักเรียนของรัฐบาลชุดนี้ว่าจะใช้ประโยชน์ได้จริงเหมือนที่โฆษณาไว้หรือเปล่า
ในมุมมองของผู้เขียนนั้น ไม่เห็นด้วยเลยสำหรับการนำเทคโนโลยีมาใช้ประกอบเป็นสื่อการเรียนการสอน เพราะประเทศไทยเองยังคงขาดปัจจัยพื้นฐานในการประกอบการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนของครูผู้สอน หรือแบบเรียนที่ใช้สอนในห้องเรียน และที่สำคัญคือเรื่องของระบบ wifi ที่จะมารองรับที่ยังมีไม่พร้อมเลย
และจากการที่ผู้เขียนได้ศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์มา 4 ปี มีโอกาสได้เรียน ipad class แต่ดูแล้วไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร เพราะนักเรียนหลายคนยังไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มาก่อน ทำให้ต้องเสียเวลามาสอนเรื่องการใช้งาน แถมยังมีปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเรื่องอุปกรณ์เสีย หรือเข้า app ที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนไม่ได้ มาให้แก้ตลอดเวลา ทำให้เสียเวลาเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์
การนำเทคโนโลยีมาใช้ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็อยากให้มองว่า ก่อนจะนำเทคโนโลยีมาใช้ ควรจะพัฒนาระบบพื้นฐานรองรับให้ดีก่อน เพราะสั่งมาแล้วใช้ไม่ได้ก็สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ และจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก ป.1 ในประเทศไทยที่ตั้งความหวังว่าจะได้ใช้แท็บเล็ตประกอบการเรียนตั้งแต่ ป.1 ??!!
นโยบายที่ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความนิยมจากประชาชน นอกจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน และ 15,000 บาท/เดือน สำหรับปริญญาตรีแล้ว อีกนโยบายที่ดูจะได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ การที่จะนำเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง “แท็บเล็ต” เข้ามาใช้ประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนนั้น ก็ได้รับการตอบรับจากฐานเสียงที่เป็นแม่ของเด็ก ป.1 กันไม่น้อย เพราะอยากเห็นลูกๆ เรียนเก่งขึ้นตามคำโฆษณาชวนเชื่อของพรรคการเมืองและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างๆ
ข่าวการที่รัฐบาลไทยลงนามซื้อแท็บเล็ตจากประเทศจีน เพื่อมาใช้ในการประกอบการเรียนการสอนนั้น ถือได้ว่าเป็นข่าวฮิตติดกระแสกันเลยทีเดียว เพราะปัจจุบัน มีเพียงแค่ไม่กี่ประเทศที่นำแท็บเล็ต หรือเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ประกอบการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบ เป็นที่น่าภูมิใจไม่น้อยที่นักเรียนของประเทศเราจะมีแท็บเล็ตใช้กันตั้งแต่ ป.1 กันเลยทีเดียว
ข่าวการที่รัฐบาลจะแจกแท็บเล็ตให้แก่เด็ก ป.1 ถือได้ว่าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เพราะทุกประเทศส่วนใหญ่การที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเพื่อประกอบการเรียนการสอนนั้น จะนำมาใช้กับเด็กนักเรียนเรียนอยู่ในระดับที่สูงกว่าเด็ก ป.1 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกหากมองตามหลักปฏิบัติสากล
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเท่ากับการที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.ประชาธิปัตย์ จ.สงขลา ออกมากล่าวว่า ปัจจุบัน ยังมีโรงเรียนมากกว่า 30,000 โรงเรียนที่ยังไม่มี wifi เพื่อ support การใช่งานแท็บเล็ต เทคโนโลยีที่จะเอามาปรับปรุงการเรียนการสอนนักเรียนไทย ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลอยากมาก
ถึงแม้หลายๆ คนอาจบอกว่าการติดตั้ง wifi เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย ผมเห็นด้วยครับ แต่ถ้ามองในภาพรวมแล้ว ยังมีอีกหลายโรงเรียนที่ยังขาดอุปกรณ์พื้นฐานในการเชื่อมต่อ หรือแม้แต่ในจังหวัดใหญ่ๆ อย่างภูเก็ต ก็ยังมีอีกหลายๆ โรงเรียนที่จำนวนครูผู้สอนยังมีจำนวนไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน
ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ ในขณะที่ผู้นำประเทศ และอีกหลายๆ คนต้องการจะนำการเรียนการศึกษาของประเทศเข้าไปสู่ยุคเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยการสั่งซื้ออุปกรณ์ทันสมัยเข้ามา ในขณะที่อุปกรณ์พื้นฐานในอีกหลายๆ โรงเรียนยังมีไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนที่มีเพิ่มขึ้นตลอดเวลา บางโรงเรียน อย่าว่าแต่นำแท็บเล็ตมาใช้เลย แค่คอมพิวเตอร์พื้นฐานยังไม่มีเลย หรือมีก็ไม่สามารถจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เพราะเข้าอินเทอร์เน็ตไม่ได้
เป็นที่น่าจับตามองว่า แท็บเล็ตที่สั่งเข้ามานั้นมีอะไรพิเศษหรือเปล่า นักเรียนจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่หรือเปล่า หรือสั่งมาแล้ว แท็บเล็ตจะอยู่ในคลังเก็บจนฝุ่นขึ้น และตอนนี้แท็บเล็ตชุดแรกเดินทางถึงไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้ข่าวการฝึกอบรมครูผู้สอนเพื่อให้เคยชินกับการใช้งานเลยแม้แต่นิดเดียว ก็คงต้องค่อยติดตามกันต่อไป สำหรับนโยบายแจกแท็บเล็ตเพื่อนักเรียนของรัฐบาลชุดนี้ว่าจะใช้ประโยชน์ได้จริงเหมือนที่โฆษณาไว้หรือเปล่า
ในมุมมองของผู้เขียนนั้น ไม่เห็นด้วยเลยสำหรับการนำเทคโนโลยีมาใช้ประกอบเป็นสื่อการเรียนการสอน เพราะประเทศไทยเองยังคงขาดปัจจัยพื้นฐานในการประกอบการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนของครูผู้สอน หรือแบบเรียนที่ใช้สอนในห้องเรียน และที่สำคัญคือเรื่องของระบบ wifi ที่จะมารองรับที่ยังมีไม่พร้อมเลย
และจากการที่ผู้เขียนได้ศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์มา 4 ปี มีโอกาสได้เรียน ipad class แต่ดูแล้วไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร เพราะนักเรียนหลายคนยังไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มาก่อน ทำให้ต้องเสียเวลามาสอนเรื่องการใช้งาน แถมยังมีปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเรื่องอุปกรณ์เสีย หรือเข้า app ที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนไม่ได้ มาให้แก้ตลอดเวลา ทำให้เสียเวลาเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์
การนำเทคโนโลยีมาใช้ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ก็อยากให้มองว่า ก่อนจะนำเทคโนโลยีมาใช้ ควรจะพัฒนาระบบพื้นฐานรองรับให้ดีก่อน เพราะสั่งมาแล้วใช้ไม่ได้ก็สิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ และจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็ก ป.1 ในประเทศไทยที่ตั้งความหวังว่าจะได้ใช้แท็บเล็ตประกอบการเรียนตั้งแต่ ป.1 ??!!