ASTVผู้จัดการรายวัน-“นพดล”เผย“ทักษิณ”บินเข้าอังกฤษ 30 เม.ย.นี้ ดูบอลดาร์บี้แมทช์ “แมนยู-แมนซิตี้” ด้าน “ศิริโชค”เฟซถามแฟนแมนซิฯ คิดยังไง เผย “สายล่อฟ้า” เคยปูด อังกฤษยอมออกวีซ่าให้ทักษิณแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (26 เม.ย.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพตส์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว “Sirichok Sopha” ว่า “แฟนๆ แมนซิตี้ว่าไง...หลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ประสบความสำเร็จ สามารถทำให้ประเทศอังกฤษยอมออกวีซ่าให้ทักษิณแล้ว ทักษิณก็เตรียมเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกส์ ระหว่าง แมนซิตี้ กับแมนยู ซึ่งก็เป็นไปตามที่รายการสายล่อฟ้าได้เปิดเผยไปแล้วนั้น วันนี้ นพดลได้ออกมายอมรับข้อเท็จจริงแล้ว”
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ระหว่างเดินทางไปทวีปแอฟริกาเหนือ เพื่อพบปะกับเพื่อนฝูงและอีกประมาณ 1-2 วัน พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อพบปะกับเพื่อนฝูง โดยจะเดินทางไปที่เมืองแมนเชสเตอร์เพื่อเยี่ยมเยียนสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยเป็นประธานสโมสร รวมทั้งจะเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลดาร์บี้แมทช์ ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดสำคัญที่จะชี้ชะตาทีมที่จะได้เป็นแชมป์ในวันที่ 30 เม.ย.ด้วย
“ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณต้องการใช้เวลาพักผ่อนโดยการเดินทางไปพบปะกับเพื่อนฝูง ซึ่งไม่มีนัยทางการเมืองใดๆ ทิ้งสิ้น”นายนพดลกล่าว
เฟซบุ๊ก นายศิริโชค ยังระบุว่า แต่ผมไม่แน่ใจแฟนแมนซิตี้จะคิดอย่างไร เพราะทักษิณเกือบทำให้ทีมแมนซิ เจ๊ง ตามข่าวนี้ครับ แมนซิตี้ ถูกขายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ในเวลานั้น คือ จอห์น วอร์เดิล และเดวิด เม้คคิ่น ไม่สามารถจะหาเงินมาทุ่มให้สโมสรแห่งนี้ได้อีกแล้ว แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหาร แทนที่จะดีขึ้นตัวเลขในบัญชี ณ วันที่ 31 พ.ค.2551 พบว่า แมนซิตี้ ขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก 33 ล้านปอนด์ และยังกู้เงินธนาคารเพิ่มอีก 49 ล้านปอนด์ เป็น 64 ล้านปอนด์อีกด้วย แต่วงเงินหนี้ที่ไปกู้จากสถาบันต่างๆ ได้ขยายขึ้นจาก 134 ล้านปอนด์ เป็น 209 ล้านปอนด์ และยังมีการใช้เงินอีก 49.5 ล้านปอนด์ เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ที่รวมถึงการซื้อนักเตะจากสโมสร CSKA มอสโคว์ ด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์อีกด้วย
โดยมีตัวเลขถูกแฉในเวลาต่อมาว่า ใช้เงินไป 47,912ปอนด์ เป็นค่าพีอาร์ให้บริษัทที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของเมื่อเดือนส.ค. และในเดือนก.พ.ปี 51 แมนซิตี้ ก็ปลดเขาจากตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ ที่เขาได้รับตอนที่ขายสโมสร ให้กับชี้ค มานซูร์ ที่ต้องมารับหน้าที่จ่ายหนี้ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อไว้ รวมถึงหนี้ธนาคาร
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่เข้ามาอ่านและโพตส์ข้อความ ในเฟซนายศิริโชค ได้โพตส์ข้อความ เช่น ส่วนใหญ่ตัดพ้อ โดยเฉพาะเขียนคำว่า “ช่างแม่มัน” มากที่สุด บางคนบอกว่า คนที่เชียร์แมนตี้คงรู้ว่าไรเป็นไร ระหว่างที่ ไอ้เ... เหลี่ยมมันเข้าไปบริหารแมนตี้ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (26 เม.ย.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพตส์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว “Sirichok Sopha” ว่า “แฟนๆ แมนซิตี้ว่าไง...หลังจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ประสบความสำเร็จ สามารถทำให้ประเทศอังกฤษยอมออกวีซ่าให้ทักษิณแล้ว ทักษิณก็เตรียมเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกส์ ระหว่าง แมนซิตี้ กับแมนยู ซึ่งก็เป็นไปตามที่รายการสายล่อฟ้าได้เปิดเผยไปแล้วนั้น วันนี้ นพดลได้ออกมายอมรับข้อเท็จจริงแล้ว”
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ระหว่างเดินทางไปทวีปแอฟริกาเหนือ เพื่อพบปะกับเพื่อนฝูงและอีกประมาณ 1-2 วัน พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อพบปะกับเพื่อนฝูง โดยจะเดินทางไปที่เมืองแมนเชสเตอร์เพื่อเยี่ยมเยียนสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พ.ต.ท.ทักษิณเคยเป็นประธานสโมสร รวมทั้งจะเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลดาร์บี้แมทช์ ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดสำคัญที่จะชี้ชะตาทีมที่จะได้เป็นแชมป์ในวันที่ 30 เม.ย.ด้วย
“ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณต้องการใช้เวลาพักผ่อนโดยการเดินทางไปพบปะกับเพื่อนฝูง ซึ่งไม่มีนัยทางการเมืองใดๆ ทิ้งสิ้น”นายนพดลกล่าว
เฟซบุ๊ก นายศิริโชค ยังระบุว่า แต่ผมไม่แน่ใจแฟนแมนซิตี้จะคิดอย่างไร เพราะทักษิณเกือบทำให้ทีมแมนซิ เจ๊ง ตามข่าวนี้ครับ แมนซิตี้ ถูกขายให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ในเวลานั้น คือ จอห์น วอร์เดิล และเดวิด เม้คคิ่น ไม่สามารถจะหาเงินมาทุ่มให้สโมสรแห่งนี้ได้อีกแล้ว แต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหาร แทนที่จะดีขึ้นตัวเลขในบัญชี ณ วันที่ 31 พ.ค.2551 พบว่า แมนซิตี้ ขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก 33 ล้านปอนด์ และยังกู้เงินธนาคารเพิ่มอีก 49 ล้านปอนด์ เป็น 64 ล้านปอนด์อีกด้วย แต่วงเงินหนี้ที่ไปกู้จากสถาบันต่างๆ ได้ขยายขึ้นจาก 134 ล้านปอนด์ เป็น 209 ล้านปอนด์ และยังมีการใช้เงินอีก 49.5 ล้านปอนด์ เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว ที่รวมถึงการซื้อนักเตะจากสโมสร CSKA มอสโคว์ ด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์อีกด้วย
โดยมีตัวเลขถูกแฉในเวลาต่อมาว่า ใช้เงินไป 47,912ปอนด์ เป็นค่าพีอาร์ให้บริษัทที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของเมื่อเดือนส.ค. และในเดือนก.พ.ปี 51 แมนซิตี้ ก็ปลดเขาจากตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ ที่เขาได้รับตอนที่ขายสโมสร ให้กับชี้ค มานซูร์ ที่ต้องมารับหน้าที่จ่ายหนี้ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อไว้ รวมถึงหนี้ธนาคาร
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่เข้ามาอ่านและโพตส์ข้อความ ในเฟซนายศิริโชค ได้โพตส์ข้อความ เช่น ส่วนใหญ่ตัดพ้อ โดยเฉพาะเขียนคำว่า “ช่างแม่มัน” มากที่สุด บางคนบอกว่า คนที่เชียร์แมนตี้คงรู้ว่าไรเป็นไร ระหว่างที่ ไอ้เ... เหลี่ยมมันเข้าไปบริหารแมนตี้ เป็นต้น
