xs
xsm
sm
md
lg

วิปฝ่ายค้านเผยพรรคร่วมลักไก่เสนอพรบ.ปรองดองเข้าสภาฯ หวั่นเกิดความแตกแยก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน
พังงา - ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยพรรคร่วมรัฐบาล ลักไก่เสนอ พรบ.ปรองดอง แฝงนิรโทษกรรมเข้าสู่วาระการประชุมสภา หวั่นบ้านเมืองเกิดความแตกแยก

นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในโอกาสที่เดินทางมาเป็นเป็นประธานเปิดอาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพรุใน จ.พังงา ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า ทางพรรคร่วมและพรรคฝ่ายรัฐบาลได้เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ไม่ได้ใช้ชื่อว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยใช้ชื่อ พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่การพิจารณาของสภา ทางรองประธานสภาได้สั่งเข้าบรรจุในวาระการประชุมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องเสนอเป็นเรื่องด่วนโดยไม่มีวี่แววมาก่อนในระยะกันใกล้นี้ ถือว่าเป็นการลักไก่เสนอเข้าบรรจุวาระการประชุมสภาเข้าทันทีทันใด

ซึ่งสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงอย่างน้อย 3 ข้อ คือ การที่รัฐบาลกล่าวอ้างไปก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เสนอ กฎหมายนิรโทษกรรม จนกว่าจะให้มีการเสวนาตามข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ในที่สุดก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นเป็นเสมือนกับการใช้กลวิธีลับลวงพรางโกหกประชาชน ประการต่อมาคือ การขยายสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร หรือการขยายสมัยประชุมรัฐสภาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาชี้ให้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่ได้มีการเร่งรัดให้ออกกฎหมายเพื่อประชาชนโดยการขยายการประชุมเพื่อเพื่อประโยชน์ของคนๆเดียว โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยใช้ชื่อว่า พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อคนๆเดียว และประการสุดท้ายที่มีผู้กล่าวว่า ขณะนี้เสื้อแดงได้ส่งถึงฝั่งแล้วต่อไปก็จะหาพาหนะใหม่ไปสู่เป้าหมายด้วยตนเองก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนแล้วว่าในที่สุดพาหนะใหม่คืออะไร ก็คือผู้ที่ช่วยชงกฎหมายนิรโทษกรรม อันนี้ก็เป็นข้อเท็จจริง 3 ข้อ

ที่ตั้งเป็นข้อสังเกตที่เป็นห่วงคาดว่าสถานการณ์จากนี้ไปประเทศก็จะก้าวเข้าสู่ความสุ่มเสี่ยงการนำไปสู่ความแตกแยกความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคิดว่าไม่อยากเห็นสิ่งนี้ แต่เมื่อได้มีการดำเนินการในลักษณะนี้ คิดว่าบ้านเมืองก็เสี่ยงเพราะว่ารัฐบาลสะท้อนให้เห็นตลอดระยะเวลาตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ว่าที่สุดแล้วก้าวไม่เคยพ้นจากผลประโยชน์ของคนๆเดียว และจุดนี้อาจจะเป็นจุดที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกและเกิดวิกฤติขึ้นมาใหม่ได้

ความจริงจะประสานหรือไม่ประสานอย่างไรก็คิดว่าถ้าเป็นความประสงค์เป็นการตั้งธงไว้แล้วก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรมากมายนัก ถ้าประสานก็เป็นวิธีการประชุม แต่ถ้ารัฐบาลชัดเจนว่ามีวัตถุประสงค์จะเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาให้ได้ในช่วงขยายเวลาสมัยการประชุมก็สามารถทำได้เพราะมีเสียงข้างมาก แต่รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาอย่างน้อยที่สุดจะพิจารณาหรือไม่นั้น ขณะนี้ถือว่าสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว คือได้เสนอกฎหมายและบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระแล้ว รอแต่ว่าจะหยิบยกขึ้นมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง หากหยิบยกมาเมื่อไหร่บ้านเมืองก็สุ่มเสี่ยงเมื่อนั้น หรือแม้แต่แค่เสนอเข้าไปก็สุ่มเสี่ยงแล้วในขณะนี้ต่อความแตกแยกที่จะเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น