ประธาน ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ จี้ประธานรัฐสภาประชุมตามวาระ ขู่ลักไก่โหวตแก้รธน.ต้องรับผิดชอบ ห่วงไม่บรรจุถกสภาวาระ พ.ร.บ.ปรองดอง ส่อซุกให้ม็อบค้านตายใจ เชื่อมีลับลมคมในแน่
วันนี้ (11 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีการรับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทราบมาว่าจะมีสมาชิกรัฐสภาเสนอให้ลงมติในเรื่องที่จะมีการรับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และมีความเป็นไปได้ที่จะเสนอให้ลงมติวาระ 3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย แม้ในวาระการประชุมจะไม่มีระบุไว้ก็ตาม ทั้งนี้ยังทวงถามต่อประธานรัฐสภาที่ระบุว่าเรียกประชุมเพื่อพิจารณากรอบการเจรจาระหว่างประเทศ แต่จากการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการพิจารณากรอบการเจรจาฯแม้แต่กรอบเดียว พิจารณาเฉพาะเรื่องวาระเพื่อทราบเท่านั้น อีกทั้งวาระเพื่อทราบก็ไม่เคยมีการลงมติด้วย จึงอยากเรียกร้องให้ประธานรัฐสภาดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามระเบียบวาระที่แจ้งกับสมาชิกรัฐสภา เพื่อให้โปร่งใส เกิดการยอมรับของสมาชิก จะได้ไม่เกิดปัญหาระหว่างการประชุม แต่ถ้าปล่อยให้มีการลักไก่ใช้เสียงข้างมากลงมติวาระ 3 แก้รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าการประชุมสภาไม่ราบรื่น และประธานรัฐสภาต้องรับผิดชอบ
นายองอาจยังกล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งมีการกำหนดเรื่องด่วนไว้ว่า เป็นการประชุมพิเศษเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฟอกเงิน และ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยตนขอถามประธานสภาว่า เรื่องที่เสนอให้เลื่อนระเบียบวาระแรกไว้แล้ว คือ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เหตุใดไม่มีในวาระการประชุม เพราะปกติเรื่องที่ถูกเลื่อนมาเป็นวาระแรกจะต้องอยู่วาระแรก หากจะนำเรื่องอื่นมาพิจารณาตามอำนาจประธานก็เปลี่ยนแปลงวาระแรกไม่ได้ อีกทั้งในวาระการประชุมก็มีการบรรจุวาระปกติไว้หมด แต่ไม่บรรจุเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง โดยตนเห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แม้ประธานสภาฯ จะต้องการแสดงความจริงใจว่าจะไม่ให้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือ ประธานสภาอาจกำลังมีพฤติกรรมลับลวงพรางโดยไม่บรรจุร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่เลื่อนมาเป็นวาระแรก เพื่อให้ทุกฝ่ายที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ตายใจ เนื่องจากไม่มีในเอกสารแจ้งให้ ส.ส.ประชุมว่าจะมีระเบียบวาระนี้
นายองอาจกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองจะไม่มีในเอกสารเชิญประชุม แต่เมื่อเรื่องนี้ถูกเลื่อนขึ้นมาแล้ว ส.ส.มีสิทธิเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพื่อหยิบยกขึ้นมาระหว่างการประชุมสภา ตนคิดว่าเรื่องนี้มีลับลมคมนับแน่นอน เพราะถ้าไม่มีลับลมคมใน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองควรจะต้องกำหนดไว้ด้วย เนื่องจากถูกเลื่อนมาแล้ว ตนเชื่อว่าประธานสภากำลังมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการดำเนินการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. โดยมีความเป็นไปได้ที่จะรับใบสั่ง ไม่บรรจุวาระเพื่อให้ผู้คัดค้านตายใจ อีกทั้งรัฐมนตรีในรัฐบาลก็แสดงความเห็นให้สังคมตายใจว่าจะพิจารณากฎหมายฟอกเงิน และก่อการร้าย 13-14 ก็ปิดสมัยประชุม เป็นเรื่องที่น่าสงสัย ตนขอเรียกร้องไปยังนายสมศักดิ์ว่าหากมีความจริงใจก็ขอให้พิจารณาตามระเบียบวาระในเอกสารเชิญประชุมที่ส่งให้ ส.ส.โดยไม่ปล่อยให้ใช้เสียงข้างมากในสภาหยิบยกเรื่องที่ไม่อยู่ในเอกสารเข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่าประธานสภาทำงานรับใช้ใครหรือไม่ อย่างไรอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันว่า หากไม่ต้องการให้เกิดวิกฤตในบ้านเมืองการออกกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภาจะบรรเทาวิกฤตได้ และใช้ช่วงเวลาปิดสมัยประชุมหาทางออกให้เกิดความเห็นพ้องต้องกันในการแสวงหาทางออกให้กับบ้านเมือง ตามแนวทางของ คอป. สถาบันพระปกเกล้า ว่าการปรองดองต้องเกิดจากการเห็นพ้องต้องกันของสังคม ไม่ใช้เสียงข้างมากตัดสิน