กระบี่ - ม็อบสวนปาล์มกระบี่ไม่จบ รอง ผบช.ภ.8 ลง สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสางคดีเพื่อนำคนทำผิดมาลงโทษ ป้องปรามการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ พร้อมสั่งเตรียมพร้อมกำลังชุดปราบจลาจล 2 กองร้อย เข้ารักษาความสงบในพื้นที่หากเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น
เวลา 10.30 น.วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานการประชุมหารือแก้ไขปัญหากลุ่มมวลชน เข้ายึดสวนปาล์มหมดสัมปทานขอสิทธิที่ดินทำกิน ในพื้นที่ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความรุนแรง เนื่องจากมีการยิงปะทะกันระหว่างคนดูแลสวนปาล์มกับกลุ่มมวลชนที่เข้ายึดสวนปาล์ม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ โดยมี พล.ต.ต.จำรูญ รื่นรมย์ ผู้บังกับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ รองผู้บังคับการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีกลุ่มมวลชนเข้ายึดสวนปาล์มที่หมดสัมปทาน จำนวน 3 แปลงในพื้นที่ ตำบลคลองขนาน ก็ได้มีคดีทำร้ายร่างกาย โดยการใช้กำลังกายและกำลังอาวุธซึ่งกันและกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎรจะต้องเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยในภารกิจของตำรวจ และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความราบราบรื่น ก็ได้มีการตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อช่วยเสริมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานอื่น ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัยขึ้น
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวอีกว่า สำหรับทีมพิเศษที่ตั้งขึ้นมา ประกอบด้วย ทีมสืบสวน ทีมสอบสวน ทีมป้องกันเหตุ และกำลังเสริม โดยคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีกลุ่มมวลชนเข้ายึดสวนปาล์มในพื้นที่ตำบลคลองขนาน มีคดีเกิดขึ้นแล้วจำนวนกว่า 20 คดี มีทั้งคดีบุกรุก และการใช้อาวุธ ซึ่งเกินขีดกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนาน ก็ได้ให้มอบสำนวนให้ทีมพิเศษเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และรัดกุมที่สุด สำหรับผู้ที่กระทำผิดก็จะต้องมีการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ใดใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยไม่ชอบ
นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่กลุ่มมวลชนเข้าไปอยู่อาศัยเพื่อป้องปรามการทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เซ็นคำสั่งส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือชุดเฉพาะกิจผู้ว่าฯ เข้าไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3 ชุด เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามจลาจล จำนวน 2 กองร้อย พร้อมแก๊สน้ำตา เพื่อเตรียมความพร้อมในรักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มมวลชน
เวลา 10.30 น.วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานการประชุมหารือแก้ไขปัญหากลุ่มมวลชน เข้ายึดสวนปาล์มหมดสัมปทานขอสิทธิที่ดินทำกิน ในพื้นที่ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความรุนแรง เนื่องจากมีการยิงปะทะกันระหว่างคนดูแลสวนปาล์มกับกลุ่มมวลชนที่เข้ายึดสวนปาล์ม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ โดยมี พล.ต.ต.จำรูญ รื่นรมย์ ผู้บังกับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ รองผู้บังคับการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีกลุ่มมวลชนเข้ายึดสวนปาล์มที่หมดสัมปทาน จำนวน 3 แปลงในพื้นที่ ตำบลคลองขนาน ก็ได้มีคดีทำร้ายร่างกาย โดยการใช้กำลังกายและกำลังอาวุธซึ่งกันและกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎรจะต้องเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยในภารกิจของตำรวจ และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความราบราบรื่น ก็ได้มีการตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อช่วยเสริมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานอื่น ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัยขึ้น
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวอีกว่า สำหรับทีมพิเศษที่ตั้งขึ้นมา ประกอบด้วย ทีมสืบสวน ทีมสอบสวน ทีมป้องกันเหตุ และกำลังเสริม โดยคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีกลุ่มมวลชนเข้ายึดสวนปาล์มในพื้นที่ตำบลคลองขนาน มีคดีเกิดขึ้นแล้วจำนวนกว่า 20 คดี มีทั้งคดีบุกรุก และการใช้อาวุธ ซึ่งเกินขีดกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขนาน ก็ได้ให้มอบสำนวนให้ทีมพิเศษเป็นผู้ดูแล ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และรัดกุมที่สุด สำหรับผู้ที่กระทำผิดก็จะต้องมีการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ใดใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยไม่ชอบ
นายสุนทร เครือหลี ป้องกันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่กลุ่มมวลชนเข้าไปอยู่อาศัยเพื่อป้องปรามการทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เซ็นคำสั่งส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือชุดเฉพาะกิจผู้ว่าฯ เข้าไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3 ชุด เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสั่งเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามจลาจล จำนวน 2 กองร้อย พร้อมแก๊สน้ำตา เพื่อเตรียมความพร้อมในรักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มมวลชน