นครศรีธรรมราช - ตามยิงหนุ่มใหญ่ไร้ปรานี รอบแรกสาหัสเบ้าตาทะลักไม่ตาย หลังจากออกโรงพยาบาลไม่ถึงปีตามยิงซ้ำอีกครั้งตายคาที่ พุ่งปมอดีตหลานเขยสางแค้นฐานยุแยงให้เลิกกับภรรยา
เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (18 พ.ค.) ร.ต.ท.พีระพงศ์ หนูชนะ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายบนถนนสายนาเคียน-สวนสมเด็จ ม.1 ต.นาเคียน อ.เมือง หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก. พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาลกะ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. กำลังชุดสืบสวน เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านในย่านนั้นมุงดูเหตุการณ์จำนวนหลายสิบคน ริมถนนดังกล่าวพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญยืน สะมาตา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 ม.3 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะหลายนัด ศพคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีเขียว ทะเบียน ขกย 971 พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบุญยืนได้กลับมาจากปิดไฟในบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งปลูกสร้าง และยังไม่เสร็จ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่มากนัก หลังจากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์กลับไปยังบ้านเช่า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายจำนวน 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ตามมาจนทัน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายบุญยืนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
ต่อมา นายสมโชค สะมาตา อายุ 32 ปี บุตรชายของผู้ตาย มาถึงที่เกิดเหตุ และได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อปีที่ผ่านมา นายบุญยืนถูกคนร้ายลอบยิงมาแล้ว 1 ครั้ง ถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสตาซ้ายหลุดออกจากเบ้า กระสุนเจาะคอทะลุ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 7 เดือนก่อนจะออกมาในสภาพพิการตาซ้ายปิดสนิทเนื่องจากลูกตาหายไป
“ผมพาพ่อหลบคนร้ายมาจาก อ.ท่าศาลา รู้ว่าคนที่ยิงนั้นเป็นอดีตหลานเขยคนหนึ่งที่หลงเข้าใจผิด ว่าพ่อเป็นคนยุแยงให้หลานสาวของพ่อไปเลิกรากับเขา ครั้งนั้นเขายิงพ่อไม่ตาย ผมพามาหลบอยู่ใน อ.เมือง ยังไม่พ้น เขาตามมาฆ่าซ้ำจนสำเร็จ” นายสมโชคแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยความเครียด
ขณะที่ พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาลกะ รอง ผกก.สส. เปิดเผยว่า คดีนี้พบข้อมูลว่ามีที่ไปที่มาที่ชัดเจน จำกัดวงประเด็นในแรงจูงใจได้ ในส่วนของคดีนั้นได้ประสานกับพนักงานสอบสวนในคดีเก่าที่ผู้ตายถูกยิงมาแล้ว มารวบรวมเป็นข้อมูลทางคดีด้วย ขณะนี้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว