นครศรีธรรมราช - เกิดอุบัติเหตุหนุ่มใหญ่พาลูกเมียกลับบ้าน โดยขับรถทั้งวันทั้งคืนจาก จ.สกลนคร ถึง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนถึงบ้านเพียง 30 กม.ชนเสาไฟฟ้าริมถนน เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันทีพร้อมลูกน้อย 2 คน ส่วนภรรยาบาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.สมบัติ จำปาทอง พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมถนนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุถึง 3 ราย เจ็บสาหัส 1 ราย ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ฝั่งขาล่องใต้ ม.2 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่าศาลา และ จนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต๊กตึ้งท่าศาลา-สิชล รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ณข 426 กทม.เสียหลักพุ่งอัดก๊อบปี้กับเสาไฟฟ้าริมถนน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำร่างคนเจ็บและผู้เสียชีวิตออกจากรถได้ จึงได้ใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างอยู่นานเกือบ 1 ชม.จึงสามารถตัดซากรถนำร่างผู้บาดเจ็บ 1 รายออกมาได้ ทราบชื่อภายหลังคือ นางอมรา วงศ์สาคร อายุ 30 ปีชาว จ.สกลนคร สภาพได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงรีบนำร่างนางอมราส่งโรงพยาบาลท่าศาลา และส่งต่อ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
ส่วนภายในรถพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ศพ ทั้ง 3 คน เป็นพ่อลูกกัน โดยศพแรกตรงเบาะที่นั่งคนขับ ชื่อ นายสัญชกร ช้างนิล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/7 ม.4 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพศีรษะแตก คอและแขนขาหัก ศพที่ 2 ชื่อ ด.ญ.กมลวรรณ ช้างนิล วัย 5 เดือน นอนซุกตายใต้พวงมาลัยตรงหน้าตักของนายสัญชกร ในสภาพคอหักตายคาที่ ศพที่ 3 ชื่อ ด.ญ.รุ่งฤทัย ช้างนิล อายุ 10 ปี ลูกสาวของนายสัญชกร สภาพศพศีรษะแตกคอหัก อยู่ตรงเบาะหลัง
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) นายสัญชกร ผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านของนางอมราภรรยาที่ จ.สกลนคร โดยมีลูกเมียนั่งมาด้วย เพื่อกลับบ้านพักที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากนายสัญชกร เพิ่งปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ที่ อ.นบพิตำ เสร็จแล้ว และจะพาครอบครัวลูกเมียมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังใหม่ เมื่อนายสัญชกร ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดอาการหลับใน เนื่องจากได้ขับรถมาทั้งวันทั้งคืนจึงทำให้รถตกร่องเกาะกลางถนน และเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมถนนอย่างจังทำให้ตายพร้อมลูก 3 ศพ ก่อนที่จะถึงบ้านเพียงไม่ถึง 30 กิโลเมตร ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
เมื่อเวลา 05.00 น.วันนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.สมบัติ จำปาทอง พนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งมีเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมถนนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุถึง 3 ราย เจ็บสาหัส 1 ราย ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ฝั่งขาล่องใต้ ม.2 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่าศาลา และ จนท.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิใต้เต๊กตึ้งท่าศาลา-สิชล รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ณข 426 กทม.เสียหลักพุ่งอัดก๊อบปี้กับเสาไฟฟ้าริมถนน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำร่างคนเจ็บและผู้เสียชีวิตออกจากรถได้ จึงได้ใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างอยู่นานเกือบ 1 ชม.จึงสามารถตัดซากรถนำร่างผู้บาดเจ็บ 1 รายออกมาได้ ทราบชื่อภายหลังคือ นางอมรา วงศ์สาคร อายุ 30 ปีชาว จ.สกลนคร สภาพได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงรีบนำร่างนางอมราส่งโรงพยาบาลท่าศาลา และส่งต่อ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
ส่วนภายในรถพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ศพ ทั้ง 3 คน เป็นพ่อลูกกัน โดยศพแรกตรงเบาะที่นั่งคนขับ ชื่อ นายสัญชกร ช้างนิล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/7 ม.4 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพศีรษะแตก คอและแขนขาหัก ศพที่ 2 ชื่อ ด.ญ.กมลวรรณ ช้างนิล วัย 5 เดือน นอนซุกตายใต้พวงมาลัยตรงหน้าตักของนายสัญชกร ในสภาพคอหักตายคาที่ ศพที่ 3 ชื่อ ด.ญ.รุ่งฤทัย ช้างนิล อายุ 10 ปี ลูกสาวของนายสัญชกร สภาพศพศีรษะแตกคอหัก อยู่ตรงเบาะหลัง
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) นายสัญชกร ผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านของนางอมราภรรยาที่ จ.สกลนคร โดยมีลูกเมียนั่งมาด้วย เพื่อกลับบ้านพักที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากนายสัญชกร เพิ่งปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ที่ อ.นบพิตำ เสร็จแล้ว และจะพาครอบครัวลูกเมียมาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังใหม่ เมื่อนายสัญชกร ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดอาการหลับใน เนื่องจากได้ขับรถมาทั้งวันทั้งคืนจึงทำให้รถตกร่องเกาะกลางถนน และเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมถนนอย่างจังทำให้ตายพร้อมลูก 3 ศพ ก่อนที่จะถึงบ้านเพียงไม่ถึง 30 กิโลเมตร ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
