เพชรบุรี - หวิดบึ้มรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกถังก๊าซ NGV ของ ปตท.แหกโค้งพลิกคว่ำตกลงไปในคลองขุดริมไหล่ทางบริเวณพื้นที่ ต.ทับคาง อ.เขาย้อย เพชรบุรี ตาย 1 เจ็บ 1 เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำควบคุมการระเบิด
เมื่อเวลา 13.40 น. วันนี้ (25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบติเหตุรถพ่วง 18 ล้อยี่ห้อ VOLVO สีขาว หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 77-6457 กทม. ส่วนท้าย 98-1729 กทม.ที่บรรทุกถังก๊าซ NGV ของ ปตท.เสียหลักหักหลบรถจักรยานยนต์ชาวบ้านที่ขี่สวนเลนมา ทำให้คนขับรถบรรทุกถังก๊าซหักหลบพุ่งชนเสาไฟฟ้าและเสียหลักแหกโค้งพลิกคว่ำตกลงไปในคลองขุดริมไหล่ทางบริเวณพื้นที่หมู่ 1 ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ้บ 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่รถดับเพลิงจากเทศบาลเขาย้อย อบต.เขาย้อย เทศบาลหัวสะพาน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เร่งระดมช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงใส่รถคันดังกล่าวเพื่อป้องกันการระเบิดของถังก๊าซ และจากการตรวจสอบพบว่า รถที่เกิดอุบัติเหตุยังได้ทับร่างบริเวณส่วนลำตัวด้านบนของนายทศชาญ เลิศสกุล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/ 9 หมู่ 3 ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการสถานีหลักฝ่ายปฏิบัติการก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ ตำแหน่งพนักงานขับรถของบริษัท เอสซีแคริเออร์ จำกัด สถานีหลักราชบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถจนเสียชีวิต ไม่สามารถนำออกมาจากซากรถได้
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในอีก 1 ราย คือ นายอานนท์ บุตรดา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 6 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการสถานีหลักฝ่ายปฏิบัติการก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ ตำแหน่งพนักงานติดรถของบริษัท เอสซีแคริเออร์ จำกัด สถานีหลักราชบุรี โดยขาขวาติดกับซากรถเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเบญจธรรม ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือชีวิตและสามารถนำออกมาจากตัวรถได้ และพบว่าขาขวาหัก พร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาลเขาย้อยเพื่อช่วยเหลือต่อไป
สำหรับการนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถนั้นทำได้ยากลำบาก เนื่องจากในตัวรถยังมีถังก๊าซ NGV หลงเหลืออยู่กว่า 30 ถัง จึงหวั่นจะเกิดการระเบิดขึ้น จึงต้องประสานเจ้าหน้าที่ของบริษัท ปตท.ให้มาเก็บกู้ถังก๊าซ และต้องใช้น้ำฉีดเลี้ยงไว้ตลอดเวลา อีกทั้งจุดเกิดเหตุอยู่ใต้เสาไฟฟ้าแรงสูง จึงต้องทำการประสานไฟฟ้าให้ทำการตัดไฟ ก่อนที่จะนำรถเครนขนาดใหญ่มายกรถขึ้นจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวังโดยใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิต และนำรถขึ้นมาจากจุดเกิดเหตุได้โดยไม่เกิดการระเบิด
จากการสอบถามนายอานนท์ บุตรดา ผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังสามารถให้ข้อมูลได้ทราบว่า ได้ไปส่งก๊าซ NGV ให้แก่โรงเหล็กเกษมศักดิ์ ที่อยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก โดยระหว่างทางขากลับได้ขับรถมาตามเส้นทางจนกระทั่งถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง ได้มีรถจักรยานยนต์ชาวบ้านขี่สวนเลนมา 1 คัน ทำให้นายทศชาญ เลิศสกุล หักพวงมาลัยเพื่อหลบรถจักรยานยนต์ จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมไหล่ทางก่อนที่จะพลิกคว่ำตกลงไปบริเวณไหล่ทางดังกล่าว
