ปัญหาการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ได้ปะทุขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลายาวนานกว่า 8 ปีมาแล้ว มีข้าราชการ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องเซ่นสังเวยศพแล้วศพเล่าให้แก่เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยที่เขาเหล่านั้นไม่ได้รับรู้อะไรเลย และก็ไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในการเกิดเหตุในแต่ละครั้ง สร้างความเศร้าสลดต่อครอบครัวผู้ที่ต้องสูญเสียสมาชิกครอบครัว สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดแสดงถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความมั่นคงพยายามที่จะใช้การแก้ปัญหาแบบสันติวิธีเข้าไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้ผล การก่อเหตุร้ายรายวันก็ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น ยิงผู้บริสุทธิ์ ระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ซุ่มยิง เผาโรงเรียน และก่อกวนให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่อีกหลายๆ เหตุการณ์
สำหรับตัวเลขของการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า จำนวนเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ผ่านมา อาชีพครู หรือพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา เป็นอาชีพหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน พวกเขาเหล่านั้นแม้จะมีความหวาดระแวงและหวาดหวั่น แต่ก็ยังมีความกล้าที่จะเผชิญ “เสี่ยงภัย” กับความตาย ซึ่งทุกคนมีพ่อมีแม่ มีลูกมีเมีย และครอบครัวกันทั้งหมด แต่ก็ยังทำหน้าที่เรือจ้างได้อย่างดีเยี่ยมในการถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์ในท้องถิ่นกันดารและอันตราย เพียงแค่ต้องการให้ลูกศิษย์เติบใหญ่มีความรู้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไปในอนาคต
ซึ่งวันนี้ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาชีพครู หรือบุคลากรทางการศึกษากลายเป็นเป้าหมายหลักของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปโดยปริยาย โดยที่ผ่านมา มีข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาถูกระทำจนเสียชีวิตไปแล้ว 151 ราย และบาดเจ็บจนพิกลพิการไปแล้วกว่า 100 ราย
ในวันนี้ 17 พ.ค.55 เป็นวันเปิดเรียนวันที่สองของเปิดการเรียนการสอนประจำปีการศึกษา 2555 ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นเดียวกับโรงเรียนบ้านกรงปินัง หมู่ที่ 1 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสาย 410 ยะลา-เบตง มีนักเรียนจำนวน 510 คน มีข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 33 คน ซึ่ง 1 ใน 33 คนนั้น มีน.ส.สุวิมล สุวรรณรัตน์ อายุ 59 ปี ครู คศ.2 ครูจาก จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งลงมาสอนอยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา มาแล้วหลายสิบปี และสอนที่โรงเรียนบ้านกรงปินัง ตั้งแต่ พ.ศ.2519-ปัจจุบัน เป็นเวลาถึง 36 ปี ปัจจุบัน สอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้น ป.4 และสอนวิชาภาษาไทย ชั้น ป.2
โดยทุกวันก่อนที่ครูสุวิมล จะไปทำการเรียนการสอน จะต้องรอขึ้นรถเหมาพร้อมเพื่อนครู ที่บริเวณหน้าบ้านพัก ย่านคุรุ ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อเดินทางไปทำการสอนที่โรงเรียนบ้านกรงปินัง ซึ่งห่างจากตัวเมืองยะลา ประมาณ 15 กิโลเมตร ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ทหารคอยอำนวยความสะดวก และดูแลรักษาความปลอดภัยขบวนรถยนต์ครูอย่างเข้มงวด ส่วนบรรยากาศด้านหน้าโรงเรียนก็เจ้าหน้าที่ทหาร จาก ฉก.13 อ.กรงปินัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียนเต็มไปด้วยความอบอุ่น นักเรียนตั้งแถวเคารพธงชาติ ปฏิญาณตน และทยอยเข้าชั้นเรียนตามลำดับ
น.ส.สุวิมล สุวรรณรัตน์ กล่าวว่า ตนเองสอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านกรงปินัง ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2519 นับเวลาจนถึงปัจจุบัน ก็ประมาณ 36 ปีมาแล้ว ครั้งแรกที่ลงมาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็กล้าๆ กลัวๆ อยู่เหมือนกัน เมื่อลงมาพบเจอกับครูใหญ่หลายๆ คนที่ผ่านมาก็ดูแลดี อยู่ที่นี่ก็ไม่เคยคิดที่จะย้ายไปไหนจะขอเกษียณอายุที่นี่ในปีหน้า
ที่ผ่านมา ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่เมื่อ พ.ศ.2547 ก็ยังเฉยๆ เมื่อมาถึงพ.ศ.2548 ทางกระทรวงศึกษาธิการได้เปิดโอกาสให้ครูที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสามารถย้ายออกนอกพื้นที่ได้ ย้ายกลับไปที่ภูมิลำเนาเดิมได้ ตนเองเกิดความกระวนกระวายใจมากเพราะเพื่อนครูทำเรื่องย้ายออกนอกพื้นที่หลายคน ตนเองอยู่ไม่ได้จะต้องทำเรื่องย้ายออกไปด้วย ตนเองก็กลับไปทบทวนอีกครั้งหนึ่ง และตัดสินใจอยู่ต่อ เพราะอะไรจะเกิดขึ้น มันก็ต้องเกิด จะขออยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา ต่อไป เพราะตนเองอยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา มานานแล้ว และชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ อ.กรงปินัง ล้วนแต่เป็นลูกศิษย์ของตนเองอยู่มากมาย สำหรับนักเรียนที่ตนเองสอนในขณะนี้ก็อยู่ในรุ่นหลานแล้ว
เมื่อถามถึงความผูกพันกับพื้นที่อย่างไรบ้าง ครูสุวิมล กล่าวว่า ตนเองรักพื้นที่แห่งนี้ เหมือนบ้านของตนเอง ถ้ามีใครว่าโรงเรียนบ้านกรงปินัง จะว่าไม่ได้ ถ้าหากจะตำหนิก็ต้องตำหนิเป็นรายบุคคล ห้ามว่าโรงเรียนไม่ดี
ด.ญ.ฟัรฮะห์ สะอะ อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 กล่าวว่า ครูสุวิมลสอนที่โรงเรียนบ้านกรงปินังนานมาก ตั้งแต่รุ่นพ่อ แม่ของตน ซึ่งตนเองรู้สึกดีมากกับคุณครูสุวิมล เพราะมีความเข้มงวดในการสอน คุณครูเคยบอกว่าอยากสอนที่โรงเรียนบ้านกรงปินังให้นานๆ จะได้ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนมากๆ เพื่อจะทำให้เด็กนักเรียนเป็นเด็กที่ดีของชาติต่อไป และรักลูกศิษย์ทุกคน
ด้าน นายพลวัฒน์ บุญช่วย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกรงปินัง กล่าวว่า สำหรับมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยคณะครูในพื้นที่นั้น ที่ผ่านมาได้มีการประชุมวางแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยครูและสถานศึกษา มีนายอำเภอเป็นผู้นำในการประชุมมาตรการ โดยได้เชิญผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่ อ.กรงปินัง จำนวน 10 โรงเรียน เข้าร่วมในการประชุม มี ผบ.ฉก.13 อ.กรงปินัง, ผกก.สภ.กรงปินัง โดยเจ้าหน้าที่ทหารไปรับครูจากพื้นที่ อ.เมืองยะลา บริเวณหน้าวัดหลักห้าตั้งแต่เช้าโดยจะขับรถเป็นขบวน ช่วงกลางวันก็จะมีการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ทหารทุกโรงเรียนไปจนถึงเลิกเรียน และส่งคณะครูเดินทางกลับไปจนถึงจุดนัดหมาย
ที่ผ่านมา ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด ในพื้นที่ อ.กรงปินัง ตนเองก็ต้องขอขอบคุณไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วย รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายอำเภอกรงปินัง, ผบ.ฉก., ผกก.สภ.กรงปินัง และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การประถมศึกษาเขต 1 ที่คอยให้กำลังใจ และคอยเตือนสติให้คณะครูทุกโรงเรียน
สำหรับบุคลากรครูทุกคนของโรงเรียนบ้านกรงปินัง ก็มีขวัญกำลังใจดี เพราะหลายคนอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มานาน รู้จักและผูกพันกับในพื้นที่ ส่วนความปลอดภัยก็ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
สำหรับคุณครูสุวิมล สุวรรณรัตน์ ถือว่าเป็นครูที่มีความอาวุโสภายในโรงเรียน จะเกษียณอายุราชการในปีหน้า คุณครูสุวิมลมีความรู้ความสามารถมาก ในชุมชนรอบๆ โรงเรียนต่างรู้จักกับคุณครูสุวิมลเป็นอย่างดี เพราะทุกคนต่างเป็นลูกศิษย์คุณครูสุวิมลจำนวนมาก ส่วนรุ่นที่มาเรียนส่วนมากจะเป็นรุ่นหลาน และรุ่นแหลน เป็นครูที่ช่วยเหลือโรงเรียนมากที่สุด ในภาพรวมของอำเภอ และจังหวัด คุณครูสุวิมลคอยช่วยเหลือครูรุ่นน้องได้มาก ด้วยมีแนวความรู้ แนวการสอนที่ดี และยังเป็นครูดีเด่นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับครูที่อยู่ในพื้นที่อื่น ตนเองอยากให้กำลังใจขอให้ตั้งใจในการทำงาน ส่วนการรักษาความปลอดภัยให้ดูแลตนเองเป็นพิเศษ ในส่วนอื่นๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองคอยดูแลให้อยู่แล้ว ส่วนสวัสดิการ และสวัสดิภาพในส่วนที่รับผิดชอบก็มีการดำเนินการให้อยู่แล้ว ขอให้เพื่อนครูทุกคนตั้งใจในการทำงาน รักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงเกรียติยศของตนเองเอาไว้ในพื้นที่ให้ดี
ด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดเทอมภาคเรียนใหม่ในวันแรก ปีการศึกษา 2555 ตนเองในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ลงพื้นที่เดินทางตรวจเยี่ยมพบปะครู เด็กนักเรียน บริเวณหน้าเสาธงโรงเรียนบ้านพงยือไร หมู่ที่ 1 ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา และโรงเรียนอื่นๆ ในเขตพื้นที่รอบนอก จ.ยะลา เพื่อให้กำลังใจและตรวจดูความพร้อม ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และกองกำลังภาคประชาชนที่ได้มีการประชุมมอบหมายภารกิจ ซักซ้อม วางแผน ทบทวน ร่วมกันก่อนหน้านี้ ทั้ง 8 อำเภอในพื้นที่จังหวัดยะลา
โดยมีการประสานการทำงานให้นายอำเภอ ผู้กำกับสถานีตำรวจ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว ประสานการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งนำแผนภารกิจการดูแลรักษาความปลอดภัยครูจากปีที่ผ่านมา มาร่วมบูรณาการปรับวางแผนกันใหม่ เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ผลจากการลงพื้นที่ตรวจดูความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่จริงในวันนี้ เป็นที่น่าพอใจ ทุกหน่วยมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และมีการร่วมมือกันเป็นอย่างดีระหว่างผู้บริหาร คณะครู และหน่วยกองกำลังในการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กนักเรียนที่จะได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ ครูและบุคลากรทางการศึกษาก็จะได้มีขวัญและกำลังใจ ในการมาทำหน้าที่สอนเด็กมากขึ้น เพื่อจะเป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพในพื้นที่ต่อไป