พัทลุง - ความภาคภูมิใจของชาวตะโหมด “กลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมด” รับรางวันพระราชทานกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ เป็นครั้งที่ 5 กับโครงการ “เปลี่ยนนาร้างเป็นนาข้าว” ก่อตั้งกลุ่มมาร่วม 38 ปี พัฒนาทุกๆ ด้าน เป็นที่พึ่งของเกษตรกรชาวตะโหมด และใกล้เคียงกว่า 1,747 ครัวเรือน มีทรัพย์สินกว่า 245 ล้านบาท
ต้นเดือนพฤษภาคมทุกปี เป็นช่วงเวลาที่เริ่มต้นฤดูกาลของชาวเกษตรกร ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่มี “พระราชพิธีพืชมงคล จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ” ที่เป็นพระราชพิธีบำรุงขวัญเหล่าเกษตรกร ปีนี้ก็เช่นกัน ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นวันพืชมงคล ที่พสกนิกรเฝ้ารอชมพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัยเป็นราชธานี ในวันดังกล่าวเป็นวันที่เกษตรกร สหกรณ์ต่างๆ มีโอกาสเข้ารับพระราชทานรางวัลดีเด่นแห่งชาติเป็นประจำทุกปี
ซึ่งแต่ละปี มีชาวพัทลุงเข้ารับพระราชทานรางวัลตลอดมา ปีนี้กลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมดได้มีโอกาสเข้ารับพระราชทานรางวัล “กลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ” เป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2517 เป็นเวลา 38 ปี กับรางวัลพระราชทาน 5 ครั้ง และรางวัลกลุ่มเกษตรกรดีเด่นระดับชาติ จากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
รางวัลกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ 5 สมัย เป็นตัวการันตีถึงความสำเร็จของกลุ่มฯ ได้อย่างดีหลังจากตั้งกลุ่มเมื่อปี พ.ศ.2517 พอปี พ.ศ.2526 ก็ได้รางวัลดีเด่นแห่งชาติครั้งแรกสมัย นายจาบ ชนะสิทธิ์ เป็นประธาน พออีกปีก็ได้รับรางวัลครั้งที่ 2 ติดต่อกัน และที่พิเศษ ปี 2527 ได้รับรางวัลกลุ่มเกษตรกรดีเด่นระดับชาติ จากองค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติด้วย จากนั้นเว้น 1 ปี สมัยนายคล้าย รัชนาการ เป็นประธาน ก็ได้รับรางวัลดีเด่นระดับชาติ เป็นครั้งที่ 3 การที่กลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมดได้รับรางวัลในช่วง 4 ปี 3 ครั้ง ทำให้กรมส่งเสริมการเกษตร ต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์การคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรใหม่ โดยกำหนดให้กลุ่มที่ได้รับรางวัลดีเด่นแห่งชาติ 5 ปี จึงจะส่งคัดเลือกใหม่ได้
แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับกลุ่มทำนาตะโหมดเลย เพราะในวัตถุประสงค์ของการตั้งกลุ่มไม่ได้ตั้งเพื่อการประกวดเลย แต่ตั้งเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในด้านปัจจัยการผลิตเงินทุน ด้านความรู้ในการผลิต ต้องขอยกความดีให้แก่คณะกรรมการชุดก่อตั้งให้แก่นายเฉลียว ชนินทยุทธวงศ์ ประธานกรรมการ นายวรรณ ขุนจันทร์ รองประธาน นายเชือบ มีสวัสดิ์ เลขานุการ นายจาบ ชนะสิทธิ์ เหรัญญิก และนายเสนอ พลเพชร กรรมการ ที่ได้วางรากฐานกลุ่มฯ ไว้อย่างดี ทำให้กลุ่มฯ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากเริ่มก่อตั้งมีสมาชิก 67 คน
นายอรุณ ไพชำนาญ ประธานกลุ่มคนปัจจุบัน กล่าวว่า จากการก่อตั้งเมื่อ 38 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน กลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมด ได้พัฒนาไปทุกๆ ด้าน พร้อมกันเป็นที่พึ่งของเกษตรกรชาวตะโหมด และใกล้เคียงกว่า 1,747 ครัวเรือน หน่วยเกษตรกรรม 30 หน่วย มีทรัพย์สินกว่า 245 ล้านบาท ทุนของกลุ่มกว่า 50 ล้านบาท ทุนเรือนหุ้นกว่า 26 ล้านบาท ทุนสำรองกว่า 15 ล้านบาท ทุนอื่นๆ กว่า 3 ล้านบาท และปี 2554 มีกำไรกว่า 5.7 ล้านบาท คงพอจะเห็นถึงความมั่นคงของกลุ่มได้อย่างดี
และผลงานที่โดนใจกรรมการมาคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติคงไม่พ้น “โครงการเปลี่ยนนาร้างเป็นนาข้าว” ที่กลุ่มฯ รณรงค์ให้สมาชิกเปลี่ยนนาร้างมาปลูกข้าว เพื่อบริโภคเอง บริโภคในชุมชน โดยกลุ่มฯ มีบริการรถไถนาให้แก่สมาชิก มีโครงการแลกเปลี่ยนพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี ให้สมาชิกได้ใช้ข้าวพันธุ์ดี กลุ่มมีโรงสีข้าวชุมชนบริการสมาชิก และสีข้าวที่กลุ่มซื้อจากสมาชิก และที่สำคัญ มีการรณรงค์ลดการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี เพื่อให้ผลผลิตข้าวมีความปลอดภัยต่อตัวเกษตรกรเอง และสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาการที่ต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลุ่มฯ มีธุรกิจที่ครอบคลุมความต้องการของสมาชิกทุกด้าน ทั้งเงินกู้ ฝากเงิน จุดจ่ายค่าสาธารณูปโภค ร้านค้าสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจัยการผลิต รวบรวมผลผลิต ปั้มน้ำมัน สวัสดิการสมาชิก ธุรกิจบริการโต๊ะ เต้น เก้าอี้ สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของชุมชนทุกๆ ด้าน
สุดท้าย จากการพูดคุยกับ นายอรุณ ไพชำนาญ ประธานกลุ่ม และนายอนุชา เพ็งจำรัส ผู้จัดการ ถึงโครงการในอนาคตของกลุ่ม มี 3 เรื่องหลักๆ คือ การสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ในวงเงิน 10 ล้านบาท เพราะที่ทำการเดิมใช้งานมานาน ต่อเติมกันหลายครั้งแล้ว และคับแคบ โครงการ 1 ไร่ 1 แสน กลุ่มได้ทำแปลงสาธิตแล้วแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของสมาชิก และอีกเรื่องหนึ่งคือ การสร้างทายาทเกษตรกร โดยการให้ลูกหลานสมาชิกได้เรียนรู้เรื่องการทำการเกษตร เช่น ศูนย์เรียนรู้ยางพารา โดยกลุ่มฯคัดเลือกเยาวชนที่เป็นลูกหลานของสมาชิก เข้าเรียนรู้ และดูแลสวัสดิการตลอดการเรียนรู้ เพื่อหล่อหลอมให้มีทายาทเกษตรกรสืบไป
