ตรัง - ตำรวจเมืองหมูย่างรวบแล้วผู้ต้องหาทุบรถเก๋งเสี่ยงานจิวเวลรีแฟร์ที่ภูเก็ตฉกเพชรหนีไปกว่า 30 ล้านบาท ได้ตัว 4 ผู้ต้องหา แต่อีก 1 ยังหลบหนีไปได้
เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 7 ตรัง นำโดย พ.ต.ท.จักรพันธ์ จันวนา สารวัตรตำรวจทางหลวงตรัง ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นรถฟอร์จูนเนอร์ต้องสงสัยคันหนึ่งที่เช่ามาจากจังหวัดภูเก็ต ขณะมุ่งหน้าไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยภายในรถพบชายชาวรัสเซีย 1 คน ชาย-หญิงชาวมาเลเซีย 2 คน และชายชาวไทย 1 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ยอมเปิดเผยชื่อ พร้อมกับตรวจยึดของกลางเป็นกระเป๋าเจมส์บอนด์ 2 ใบ ซึ่งภายในมีเครื่องเพชรรวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ที่กลุ่มคนร้ายได้ทุบรถชิงมาจากเจ้าของร้านจิวเวลรีที่ จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้
จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้มีการเช่ารถเดินทางมาจากกรุงเทพฯ 1 คัน และไปเช่ารถที่ จ.ภูเก็ตอีก 1 คัน เพื่อใช้สับเปลี่ยนสำหรับหลบหนี โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้เดินทางถึงภูเก็ตตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2555 แล้วเข้าไปดูลาดเลาภายในงานจิวเวลรีแฟร์มาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะหาจังหวะติดตามประกบรถผู้เสียหาย กระทั่งเมื่อสบโอกาส จึงลงมือทุบรถปล้นทรัพย์ และเตรียมที่จะหลบหนีออกไปยังประเทศมาเลเซียทางด้านด่านสะเดา จ.สงขลา แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตรังจับกุมได้เสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กำลังมีการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างเคร่งเครียด เพราะเบื้องต้นทราบว่า ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน เป็นหญิงชาวมาเลเซีย รูปร่างผิวขาวท้วม หลบหนีไปได้ระหว่างเข้าทำการจับกุม
ทั้งนี้ จากกรณีเมื่อเวลา 09.45 น. วันนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายธงศักดิ์ จิตตการเลิศ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 919/1 อาคารจิวเวลรีเทรดเซ็นเตอร์ ถนนสีลม เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เจ้าของการร้าน Expert Jems ว่า รถเก๋งโตโยต้า ทะเบียน ชง 8686 กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหลังห้างบิ๊กซี สาขาภูเก็ต ถนนซอยบางใหญ่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ถูกคนร้ายทุบกระจกฝั่งตรงข้ามคนขับ ขณะที่ตนลงไปรับประทานอาหาร ก่อนเอาทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าเจมส์บอนด์ 2 ใบภายในรถหลบหนีไป โดยมีทั้งเพชร พลอย และทองคำ รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งตนได้นำมาแสดง และจำหน่ายภายในงานจิวเวลรีแฟร์ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 10-16 พ.ค.2555
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นภาพคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ประมาณ 3 คน โดยเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ และมีรถต้องสงสัย 2 คันที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี