xs
xsm
sm
md
lg

ผลสอบปอร์เช่ซิ่ง 280 เสยท้ายฟอร์จูนเนอร์!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผลการสอบสวนอุบัติเหตุรถปอร์เช่กับฟอร์จูนเนอร์ออกมาแล้ว ปอร์เช่ซิ่งด้วยความเร็ว 280 ซึ่งสอดคล้องกับเกียร์ที่ค้างอยู่เกียร์ 6 แล้วเสยท้ายรถฟอร์จูนเนอร์จนเสียชีวิตทั้งคู่ โดยมีกล้องวงจรปิด 16 ตัวเป็นหลักฐานชี้ชัดถึงความเร็ว ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์วัดระดับ
แอลกอฮอล์ในศพ พบว่า ทั้งคู่มีปริมาณที่แตกต่างกันไป


วันนี้ (11 พ.ค.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงผลการสอบสวนกรณีอุบัติเหตุรถปอร์เช่ชนกับรถฟอร์จูนเนอร์บริเวณทางด่วนอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ว่า คดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน จากกล้องวงจรปิดจะเป็นภาพของรถฟอร์จูนเนอร์เดินทางไปก่อนล่วงหน้า คันที่ 2 ที่ขับมาด้วยความเร็วต่างกัน 1 นาที 32 วินาที คือรถปอร์เช่ หลังจากนั้นก็จะมีรถมาสด้า 3 ขับตาม รถปอร์เช่ มาห่างกัน 1 นาที 08 วินาที เป็นสถานการณ์ก่อนที่รถทั้งสามคันจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น

พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวว่า สำหรับการตรวจสถานที่เกิดเหตุพบว่า มีร่องรอยความเสียหายเป็นระยะยาว โดยจุดที่ชน จุดที่กระทบทิ้งร่องรอยไว้ทั้งหมด 8 จุด เริ่มจาก รถปอร์เช่ ชนกับ รถฟอร์จูนเนอร์ หลังจากนั้นก็มีการไถล รถมาสด้า 3 ซึ่งขับตามหลังมา ก็ชนกับท้ายรถฟอร์จูนเนอร์ จากนั้นรถฟอร์จูนเนอร์ก็พลิกแล้วไถลไปกับขอบกำแพง ซึ่งทิ้งร่องรอยเป็นเศษโครเมียม และทองแดง ซึ่งตรวจสอบแล้วว่าเป็นของรถฟอร์จูนเนอร์ และรถมาสด้า 3 ก็ไถลไปฟาดกับเสา ไปหยุดนิ่งเลยรถปอร์เช่ จุดสุดท้ายคือรถฟอร์จูนเนอร์ มาหยุดชนเข้ากับท้ายรถปอร์เช่ นี่เป็นขั้นตอนแรกในการตรวจสอบ หลังจากนั้นมีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จากสีและร่องรอย
ที่เกิดขึ้น

นอกจากนั้นยังพบว่า มีประเด็นในเรื่องของความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้องจากเข็มไมล์วัดความเร็วของรถปอร์เช่
ซึ่งหยุดอยู่ที่ 280 กิโลเมตรต่อ ชม. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญผู้จัดการของบริษัทผลิตรถยนต์ปอร์เช่มาตรวจสอบแล้วว่า หลังจากหยุดรถ เข็มไมล์วัดความเร็วจะต้องไปอยู่ที่ 0 แต่เนื่องจากการชนอย่างรุนแรงแล้วทำให้เข็มไมล์วัดความเร็วไปหยุดที่ 280 กิโลเมตรต่อ ชม. นั้นก็เป็นข้อสันนิษฐานว่า มีความเป็นไปได้ในเรื่องของความเร็วดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับตำแหน่งเกียร์ของรถปอร์เช่ ที่ค้างอยู่ที่เกียร์ 6 ซึ่งเป็นตำแหน่งเกียร์ของรถปอร์เช่ขณะที่ชนแล้ว ส่วนรถอีกคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วปกติ

นอกจากการตรวจสอบจากเข็มไมล์วัดความเร็วแล้ว ยังสามารถคำนวณได้จากกล้องวงจรปิด 16 ตัว ที่ติดตั้งไว้ เพราะจะมีระยะเวลาผ่านกล้องแต่ละตัวเป็นวินาที เมื่อคำนวณออกมาก็จะได้ความเร็วใกล้เคียงกับความเร็วที่เข็มไมล์วัดความเร็วชี้ ซึ่งจากการคำนวณ โดยใช้สมการเส้นตรงเป็นกราฟเส้นตรง ไม่ได้ดูจากเข็มไมล์วัดความเร็วอย่างเดียว หลังจากนั้นก็มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือด ซึ่งการขับขี่รถ ถ้ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือว่าผิดกฎหมาย ทางนิติเวชได้รายงานแล้วว่าทั้ง 2 คน มีการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ต่างกันไป

พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ผบ.ตร.จะมีการนำเทคโนโลยีตรวจจับความเร็วอัตโนมัติมาติดตั้งบริเวณทางด่วน ถ้าหากพบผู้กระทำผิดจะส่งจดหมายไปให้เสียค่าปรับ
กำลังโหลดความคิดเห็น