ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เสี่ยเจ้าของร้านจิวเวลรี ถึงคราวซวย ถูกโจรต่างชาติทุบกระจกรถฉกเพชรกว่า 30 ล้านหลบหนีลอยนวล ขณะช่วงกินข้าว 10 นาที ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติ 3 คนตามเข้าไปพักที่เดียวกับผู้เสียหาย ผบก.ภูเก็ตสั่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดล่าตัวทั่วเกาะ
เมื่อเวลา 09.45 น.วานนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนายธงศักดิ์ จิตตการเลิศ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 919/1 อาคารจิวเวลรีเทรดเซ็นเตอร์ ถนนสีลม เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เจ้าของการร้าน Expert Jems ว่า รถยนต์โตโยต้า หมายเลขทะเบียน ชง 8686 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหลังห้างบิ๊กซี สาขาภูเก็ต ถนนซอยบางใหญ่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถูกคนร้ายทุบกระจกฝั่งตรงข้ามคนขับ และเอาทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าภายในรถไปทั้งหมด ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย
เมื่อได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต นำโดยพ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รองผกก.ป. พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส. ร.ต.อ.วิวัฒน์ แท่นทอง ร้อยเวร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าของรถกำลังรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตกใจ
ที่เกิดเหตุพบรถโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ชง 8686 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ด้านหลังห้างบิ๊กซี สาขาภูเก็ต ตรงข้ามกับร้านขายข้าวแกงและอาหารตามสั่ง “น้องบูม” สภาพกระจกรถด้านข้างฝั่งตรงข้ามคนขับถูกทุบด้วยของแข็งแตกละเอียด เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งตรวจสอบลายนิ้วมือ และสอบปากคำผู้เสียหาย นอกจากนั้น ยังมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด รวมทั้งเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีสกัดจับรถต้องสงสัยทุกเส้นทาง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเบื้องต้น เห็นภาพคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีประมาณ 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ทั้งหมดเป็นต่างชาติ และมีรถต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ในเบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่ถูกเช่ามา ซึ่งเป็นรถที่ขับตามรถของผู้เสียหายเข้ามาในที่พักเมื่อคืนนี้ และจากการตรวจสอบบุคคลเข้าพักที่บ้านสวนเพลส ปรากฏว่า ผู้ต้องสงสัยได้เข้าพักที่เดียวกับผู้เสียหายตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการสอบถามนายธงศักดิ์ จิตตการเลิศ เจ้าของรถและทรัพย์สิน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถออกจากที่พัก ไปแวะรับประทานอาหารที่ร้าน “น้องบูม” ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 50 เมตร จึงได้จอดรถไว้ฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งตนใช้เวลารับประทานอาหารประมาณ 10 นาที และในช่วงที่รับประทานอาหารอยู่นั้น ได้สังเกตรถอยู่ตลอด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติและไม่ได้ยินเสียงอะไร แม้กระทั่งสัญณาณเตือนภัยของรถดังกล่าว เมื่อรับประทานอาหารแล้วเสร็จจึงได้เดินกลับมาที่รถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ารถถูกทุบกระจกแตกและทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถหายไปทั้งหมด
โดยทรัพย์สินที่หายไปนั้นอยู่ในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ มีทั้งเพชร พลอย และทองคำ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งตนได้นำมาแสดงและจำหน่ายภายในงานจิวเวลรีแฟร์ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 10-16 พ.ค.2555 ซึ่งในแต่ละวันมีลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติมาขอดูจิวเวลรีเป็นจำนวนมาก ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
ด้าน พล.ต.ต.ชนะสิษฐ์ วัฒนวารางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในส่วนของชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว ซึ่งในทางสืบสวนขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบรถที่คนร้ายนำมาก่อเหตุแล้วว่าอยู่ที่จุดใด และในส่วนของผู้ต้องสงสัยที่ตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิดก็กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าประกบแล้ว
เมื่อเวลา 09.45 น.วานนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนายธงศักดิ์ จิตตการเลิศ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 919/1 อาคารจิวเวลรีเทรดเซ็นเตอร์ ถนนสีลม เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เจ้าของการร้าน Expert Jems ว่า รถยนต์โตโยต้า หมายเลขทะเบียน ชง 8686 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหลังห้างบิ๊กซี สาขาภูเก็ต ถนนซอยบางใหญ่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถูกคนร้ายทุบกระจกฝั่งตรงข้ามคนขับ และเอาทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าภายในรถไปทั้งหมด ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย
เมื่อได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต นำโดยพ.ต.ท.จำรูญ พลายด้วง รองผกก.ป. พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สว.สส. ร.ต.อ.วิวัฒน์ แท่นทอง ร้อยเวร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าของรถกำลังรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตกใจ
ที่เกิดเหตุพบรถโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ชง 8686 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ด้านหลังห้างบิ๊กซี สาขาภูเก็ต ตรงข้ามกับร้านขายข้าวแกงและอาหารตามสั่ง “น้องบูม” สภาพกระจกรถด้านข้างฝั่งตรงข้ามคนขับถูกทุบด้วยของแข็งแตกละเอียด เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งตรวจสอบลายนิ้วมือ และสอบปากคำผู้เสียหาย นอกจากนั้น ยังมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด รวมทั้งเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีสกัดจับรถต้องสงสัยทุกเส้นทาง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเบื้องต้น เห็นภาพคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีประมาณ 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ทั้งหมดเป็นต่างชาติ และมีรถต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ในเบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่ถูกเช่ามา ซึ่งเป็นรถที่ขับตามรถของผู้เสียหายเข้ามาในที่พักเมื่อคืนนี้ และจากการตรวจสอบบุคคลเข้าพักที่บ้านสวนเพลส ปรากฏว่า ผู้ต้องสงสัยได้เข้าพักที่เดียวกับผู้เสียหายตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
จากการสอบถามนายธงศักดิ์ จิตตการเลิศ เจ้าของรถและทรัพย์สิน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถออกจากที่พัก ไปแวะรับประทานอาหารที่ร้าน “น้องบูม” ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 50 เมตร จึงได้จอดรถไว้ฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งตนใช้เวลารับประทานอาหารประมาณ 10 นาที และในช่วงที่รับประทานอาหารอยู่นั้น ได้สังเกตรถอยู่ตลอด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติและไม่ได้ยินเสียงอะไร แม้กระทั่งสัญณาณเตือนภัยของรถดังกล่าว เมื่อรับประทานอาหารแล้วเสร็จจึงได้เดินกลับมาที่รถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ารถถูกทุบกระจกแตกและทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถหายไปทั้งหมด
โดยทรัพย์สินที่หายไปนั้นอยู่ในกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ มีทั้งเพชร พลอย และทองคำ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งตนได้นำมาแสดงและจำหน่ายภายในงานจิวเวลรีแฟร์ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 10-16 พ.ค.2555 ซึ่งในแต่ละวันมีลูกค้าที่เป็นคนต่างชาติมาขอดูจิวเวลรีเป็นจำนวนมาก ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ
ด้าน พล.ต.ต.ชนะสิษฐ์ วัฒนวารางกูร ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในส่วนของชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว ซึ่งในทางสืบสวนขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบรถที่คนร้ายนำมาก่อเหตุแล้วว่าอยู่ที่จุดใด และในส่วนของผู้ต้องสงสัยที่ตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิดก็กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าประกบแล้ว