นราธิวาส - ประธานสมาพันธ์ครูนราธิวาส วอนเจ้าหน้าที่ รปภ.ครู อุดช่องโหว่ เน้นย้ำครูไม่เป็นเหยื่อโจรใต้ซ้ำซาก ขณะที่ 3 เขตการศึกษาเปิดเรียนแล้วกว่า 50%
สำหรับบรรยากาศการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2555 ทั้ง 13 อำเภอใน 3 เขตพื้นที่การศึกษาของ จ.นราธิวาส ในวันนี้ปรากฏว่า มีโรงเรียนที่เปิดทำการเรียนการสอนแล้วประมาณ 180 โรง จากทั้งหมดที่มีจำนวน 327 แห่ง โดยโรงเรียนที่เหลืออีก 147 โรงจะเปิดทำการเรียนการสอนในวันที่ 16 พ.ค.นี้ อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยภาพรวมของการ รปภ.ของเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม 3 ฝ่ายที่มีการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ ได้ปฏิบัติตามแผน รปภ.ครูที่ได้กำหนดกรอบไว้อย่างชัดเจนเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ครูในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
โดยที่โรงเรียนบ้านกาลิซา ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ.ที่ 4508 ซึ่งมี ร.อ.อนันต์ เอ้งฉ้วน เป็น ผบ.ร้อย ได้นำกำลังร่วมกับ ชุด ชรบ.คุ้มครองครูขณะเดินทางรวมทั้ง รปภ.บริเวณโรงเรียนอย่างเข้มข้น โดยมีครู และนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนอย่างคับคั่ง ขณะที่แต่ละพื้นที่ได้จัดกำลังปฏิบัติเป็น 3 ชุด เช่นกันคือ ชุด รปภ.ในโรงเรียน ชุดคุ้มครองและลาดตระเวนเส้นทาง รวมทั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว รวม 20 นาย กระจายกำลังเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ครู
ซึ่งในปีนี้มติที่ประชุมครูของ จ.นราธิวาส เห็นพ้องต้องกันว่า บางพื้นที่ อส.และตำรวจจะนั่งรถยนต์นำขบวนคณะครู เพื่อทำหน้าที่คุ้มครองหลังออกจากจุดรวมพล ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารวางกำลัง รปภ.ตามเส้นทางโดยเฉพาะจุดที่ล่อแหลม รวมทั้งรถวีว่าที่จะเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว โดยครูทุกคนต้องตรงต่อเวลา และไม่ออกนอกเส้นทางเด็ดขาด ส่วนนอกเวลาซึ่งเป็นภารกิจส่วนตัวให้แจ้งตรงต่อกองร้อยในพื้นที่นั้นๆ
ทางด้าน นางสุดสาย บุญช่วย ผอ.รร.บ้านตันติการาม มิตรภาพที่ 109 อ.ระแงะ และรองประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ รวมทั้งกรรมการสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย มองว่า ครูและกองกำลัง 3 ฝ่ายต้องสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน หากเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญของครูต้องประเมินว่าตรงไหนคือจุดบกพร่อง แล้วมาปรับการปฏิบัติร่วมกัน ที่ผ่านมาช่องโหว่คือห้วงเวลาที่สับเปลี่ยนกำลังของชุด รปภ. รวมทั้งพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างอำเภอที่มักจะเกี่ยงการปฏิบัติ
ขณะที่ทางด้าน นายสงวน อินทร์รักษ์ ประธานสมาพันธ์ครู จ.นราธิวาสกล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งครูทุกโรงเรียนทั้ง 3 เขตการศึกษาประสานการปฏิบัติร่วมกันให้รัดกุมและชัดเจน เนื่องจากบางโรงเปิด บางโรงยังไม่เปิด หากมีเหตุเกิดขึ้นจะได้ไม่ต้องเป็นประเด็นว่าฝ่ายไหนทำหน้าที่บกพร่อง ส่วนยุทธวิธีการปฏิบัติของกองกำลังเชื่อมั่นว่าดีเยี่ยมอยู่แล้ว เพราะได้ศึกษาและฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญ ครูเพียงชี้แนะตามหลักการเท่านั้น ที่สำคัญบางพื้นที่ที่มีการปิดล้อมตรวจค้น กองกำลังต้องประเมินว่าจะเป็นความเสี่ยงของครูที่จะเดินทางเข้าไปสอนหรือไม่อีกด้วย
สำหรับบรรยากาศการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2555 ทั้ง 13 อำเภอใน 3 เขตพื้นที่การศึกษาของ จ.นราธิวาส ในวันนี้ปรากฏว่า มีโรงเรียนที่เปิดทำการเรียนการสอนแล้วประมาณ 180 โรง จากทั้งหมดที่มีจำนวน 327 แห่ง โดยโรงเรียนที่เหลืออีก 147 โรงจะเปิดทำการเรียนการสอนในวันที่ 16 พ.ค.นี้ อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยภาพรวมของการ รปภ.ของเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม 3 ฝ่ายที่มีการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ ได้ปฏิบัติตามแผน รปภ.ครูที่ได้กำหนดกรอบไว้อย่างชัดเจนเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ครูในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
โดยที่โรงเรียนบ้านกาลิซา ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ.ที่ 4508 ซึ่งมี ร.อ.อนันต์ เอ้งฉ้วน เป็น ผบ.ร้อย ได้นำกำลังร่วมกับ ชุด ชรบ.คุ้มครองครูขณะเดินทางรวมทั้ง รปภ.บริเวณโรงเรียนอย่างเข้มข้น โดยมีครู และนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนอย่างคับคั่ง ขณะที่แต่ละพื้นที่ได้จัดกำลังปฏิบัติเป็น 3 ชุด เช่นกันคือ ชุด รปภ.ในโรงเรียน ชุดคุ้มครองและลาดตระเวนเส้นทาง รวมทั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว รวม 20 นาย กระจายกำลังเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ครู
ซึ่งในปีนี้มติที่ประชุมครูของ จ.นราธิวาส เห็นพ้องต้องกันว่า บางพื้นที่ อส.และตำรวจจะนั่งรถยนต์นำขบวนคณะครู เพื่อทำหน้าที่คุ้มครองหลังออกจากจุดรวมพล ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารวางกำลัง รปภ.ตามเส้นทางโดยเฉพาะจุดที่ล่อแหลม รวมทั้งรถวีว่าที่จะเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว โดยครูทุกคนต้องตรงต่อเวลา และไม่ออกนอกเส้นทางเด็ดขาด ส่วนนอกเวลาซึ่งเป็นภารกิจส่วนตัวให้แจ้งตรงต่อกองร้อยในพื้นที่นั้นๆ
ทางด้าน นางสุดสาย บุญช่วย ผอ.รร.บ้านตันติการาม มิตรภาพที่ 109 อ.ระแงะ และรองประธานสมาพันธ์ครูภาคใต้ รวมทั้งกรรมการสภามนตรีสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย มองว่า ครูและกองกำลัง 3 ฝ่ายต้องสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน หากเกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อขวัญของครูต้องประเมินว่าตรงไหนคือจุดบกพร่อง แล้วมาปรับการปฏิบัติร่วมกัน ที่ผ่านมาช่องโหว่คือห้วงเวลาที่สับเปลี่ยนกำลังของชุด รปภ. รวมทั้งพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างอำเภอที่มักจะเกี่ยงการปฏิบัติ
ขณะที่ทางด้าน นายสงวน อินทร์รักษ์ ประธานสมาพันธ์ครู จ.นราธิวาสกล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้งครูทุกโรงเรียนทั้ง 3 เขตการศึกษาประสานการปฏิบัติร่วมกันให้รัดกุมและชัดเจน เนื่องจากบางโรงเปิด บางโรงยังไม่เปิด หากมีเหตุเกิดขึ้นจะได้ไม่ต้องเป็นประเด็นว่าฝ่ายไหนทำหน้าที่บกพร่อง ส่วนยุทธวิธีการปฏิบัติของกองกำลังเชื่อมั่นว่าดีเยี่ยมอยู่แล้ว เพราะได้ศึกษาและฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญ ครูเพียงชี้แนะตามหลักการเท่านั้น ที่สำคัญบางพื้นที่ที่มีการปิดล้อมตรวจค้น กองกำลังต้องประเมินว่าจะเป็นความเสี่ยงของครูที่จะเดินทางเข้าไปสอนหรือไม่อีกด้วย
