xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ปส.4 ชุมพรรวบ 4 พ่อค้ายาบ้า ได้ของกลางเกือบ 3 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 100 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชุมพร - ตำรวจ ปส.4 ชุมพร สกัดจับ 4 ผู้ต้องหาแก๊งขนยาบ้าเกือบ 3 แสนเม็ด มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท จากกรุงเทพฯส่งขาย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 12 พ.ค.55) พ.ต.ท.พิทยา สองเมือง สว.กก.2 บก.ปส.4 (ชุมพร) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาได้รับแจ้งสายข่าวว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบขนยาเสพติดจากกรุงเทพมหานครลงภาคใต้ โดยรถเก๋งจำนวน 2 คัน จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ปส. ตชด. ตำรวจภูธร นำกำลังออกตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร หมู่ 2 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

กระทั้งพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบอร์นทอง ทะเบียน ฆฒ - 7547 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถเก๋งตามที่ได้รับแจ้ง ขับผ่านมาถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบ ทราบชื่อคนขับชื่อ นายมะยีดิง สาเล็ง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ซ.7 ( รัตนกิจ ) ถ.รัตนกิจ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา

จากการตรวจค้นพบยาบ้ามัดห่อมาอย่างดีจำนวน 32 มัด ซุกอยู่ใต้เบาะนั่งด้านหลัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เครื่องมือเอ็กซเรย์ตรวจยาเสพติดรถคันเก๋งดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่ายังมีการซุกซ่อนยาเสพติดอีกจำนวนมาก ซึ่งจากการเอ็กซเรย์ยังมียาบ้าซุกอยู่บริเวณช่วงลับที่ทำอำพรางไว้อย่างดีบริเวณใต้ท้องช่วงท้ายของรถเก๋งอีก 143 มัด รวมยาบ้าที่พบทั้งหมด 175 มัด มีทั้งสิ้นจำนวน 286,000 เม็ด มูลค่ากว่า 100,100,000 บาท

ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการตรวจค้น ได้ทีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีดำ รุ่น 323ไอ ทะเบียน กย - 2579 สงขลา ซึ่งเป็นเครือข่ายร่วมขบวนการค้ายาเสพติดตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ จึงเรียกขอตรวจสอบ ทราบคนขับชื่อ นายดุลฮาดี กะลิง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 238/2 หมู่ที่ 12 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และมี นายยาการียา กาเจ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ที่ 7 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นั่งมาเบาะด้านซ้ายข้างคนขับ และมีนายมะนาเซ เจ๊ะโก๊ะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 7 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นั่งมาเบาะด้านหลัง การตรวจค้นรถคันดังกล่าวไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวทั้งสามมาแยกสอบปากคำ

จากการสอบสวน นายมะนาเซ เจ๊ะโก๊ะ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ตน และนายดุลฮาดี กะลิง นายยาการียา กาเจ ที่นั่งมารถคันเดียวกัน และ นายมะยีดิง สาเล็ง ที่ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบอร์นทอง ทะเบียน ฆฒ - 7547 กรุงเทพมหานคร ได้เดินทางจาก จ.นราธิวาส โดยรถเก๋ง 2 คัน เพื่อไปรับยาเสพติด ( ยาบ้า ) ที่กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อไปถึงได้เปิดห้องพักที่โรงแรม เดอะรีเจ็นท์ ห้องพักหมายเลข 508 และ 509 โดยได้จอดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบอร์นทอง ทะเบียน ฆฒ -7547 กรุงเทพมหานคร คันที่ นายมะยีดิง สาเล็ง เป็นคนขับ ไว้ที่ลานจอดรถของโรงแรม และได้ซ่อนกุญแจรถไว้ใต้ผ้ายางรองเท้า ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งให้ทางเครือข่ายนำรถไปบรรจุและซุกซ่อนยาบ้า ส่วนพวกตนทั้งหมดจะนอนพักรอจนกว่ารถเก๋งคันที่ถูกนำไปซุกซ่อนยาบ้าจะมีคนขับมาจอดไว้ที่เดิม และก็จะรีบเดินทางกลับภาคใต้ทันที

นายมะนาเซ เจ๊ะโก๊ะ เปิดเผยต่อว่า ตนเองจะนั่งมาเบาะหลังรถเก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู นายดุลฮาดี กะลิง เป็นคนขับ และนายยาการียา กาเจ นั่งมาเบาะข้างคนขับ เพื่อขับนำหน้าคอยสังเกตเส้นทางว่า มีตำรวจตั้งด่านตรวจหรือไม่ หากพบตนจะเป็นคนโทรศัพท์แจ้งให้ นายมะยีดิง สาเล็ง คนขับรถเก๋งคับที่ขนยาบ้าให้ทราบเพื่อจอดรถลงข้างทางรอจนกว่าตำรวจจะเลิกตั้งด่านระหว่างที่ทางรถเก๋งคันที่ตนนั่งมาได้แวะเข้าเติมน้ำมัน แต่รถที่ซุกยาบ้ามาไม่ยอมจอดรอหรือตามเข้าไปในปั้มน้ำมันด้วย จนมาเจอด่านและถูกจับกุมได้ในที่สุด

ด้านนายมะยีดิง สาเล็ง คนขับรถเก๋งขนยาบ้าให้การรับสารภาพว่า นายมะนาเซ เจ๊ะโก๊ะ ได้ว่าจ้างให้ตนขับรถซุกยาบ้าทั้งหมดมาจากกรุงเทพมหานคร พาไปจอดหน้าโรงเรียนเทศบาล 3 ใน จ.นราธิวาส ส่งต่อให้กับนายแบมะ ไม่ทราบนามสกุล เป็นคน 2 สัญชาติ ไทย – มาเลเซีย ที่มาคอยรอรับตามจุดนัดหมาย เพื่อนำยาบ้าทั้งหมดส่งไปจำหน่ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศมาเลเซีย โดยตนเองจะได้รับจ้างขับรถขนยาบ้า คิดตามจำนวนยาบ้า เม็ดๆละ 3 บาท ซึ่งเที่ยวนี้หากผ่านไปได้ตนก็จะได้รับเงินค่าจ้างประมาณ 800,000 บาท แต่ก็ไม่รอดถูกจับเสียก่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า )ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น