กระบี่ - รวบแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ส่งขายพม่า ตระเวนก่อเหตุในตัวเมืองกระบี่ สารภาพก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยนำรถที่ขโมยไปขายในราคาคันละ 3,000-4,000 บาท
พ.ต.ท.พิษณุ พ่วงพร้อม รองผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และ พ.ต.ท.ชัชวาล นิลจันทร์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายศาลจังหวัดกระบี่เข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถเก่าไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บนถนนเหมทานนท์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ หลังสืบทราบว่า มีการนำรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขโมยนำมาซุกซ่อนที่อู่ดังกล่าว
ขณะทำการตรวจค้น พบ นายชวลิต นวลจันทร์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่, นายปรีชา ทองทิพย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.3 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่, นายอัครเดช อุ่นนุช อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.1 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ อาศัยอยู่ภายในอู่ดังกล่าว จึงได้ทำการควบคุมตัว พร้อมตรวจค้นภายในอู่พบรถจักรยานยนต์จำนวนกว่า 10 คัน จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับการจับกุมแก๊งลักรถรายนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า เมื่อช่วงคืนวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรถจักรยายนต์ถูกขโมยไปจำนวน 7 คัน และเมื่อคืนวันที่ 8 มีรถถูกขโมยไปอีก 4 คัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงออกทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้าย กระทั่งสืบทราบว่า นาย น.(นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/9 ถนนอุตรกิจ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ และนายกอบกฤต งานแข็ง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226/134 ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นคนร้ายที่ขโมยรถในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวน โดยจับกุมตัวได้ขณะผู้ต้องขับรถของกลางอยู่บนถนนรอดบุญ ภายในตัวเมืองกระบี่ ซึ่งหลังจากจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนโดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ให้การซัดทอดว่า มีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน โดยจะนำรถไปพักไว้ที่ร้านซ่อมรถดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายศาล และเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ท.พิษณุ กล่าวว่า หนึ่งในผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมข้อหาลักรถมาแล้ว เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่านำรถจักรยายนต์ที่ขโมยมาไปขายให้นายโน้ต ไม่ทราบนามสกุล ในราคาคันละ 3,000-4,000 บาท โดยนายโน้ตจะนำไปส่งให้พ่อค้าที่จังหวัดระนอง ก่อนส่งต่อไปยังประเทศพม่า โดยรถที่นิยมส่วนใหญ่เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า
พ.ต.ท.พิษณุ พ่วงพร้อม รองผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และ พ.ต.ท.ชัชวาล นิลจันทร์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายศาลจังหวัดกระบี่เข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถเก่าไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บนถนนเหมทานนท์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ หลังสืบทราบว่า มีการนำรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขโมยนำมาซุกซ่อนที่อู่ดังกล่าว
ขณะทำการตรวจค้น พบ นายชวลิต นวลจันทร์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.2 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่, นายปรีชา ทองทิพย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ม.3 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่, นายอัครเดช อุ่นนุช อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.1 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ อาศัยอยู่ภายในอู่ดังกล่าว จึงได้ทำการควบคุมตัว พร้อมตรวจค้นภายในอู่พบรถจักรยานยนต์จำนวนกว่า 10 คัน จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับการจับกุมแก๊งลักรถรายนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า เมื่อช่วงคืนวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรถจักรยายนต์ถูกขโมยไปจำนวน 7 คัน และเมื่อคืนวันที่ 8 มีรถถูกขโมยไปอีก 4 คัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงออกทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้าย กระทั่งสืบทราบว่า นาย น.(นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/9 ถนนอุตรกิจ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ และนายกอบกฤต งานแข็ง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226/134 ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นคนร้ายที่ขโมยรถในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวน โดยจับกุมตัวได้ขณะผู้ต้องขับรถของกลางอยู่บนถนนรอดบุญ ภายในตัวเมืองกระบี่ ซึ่งหลังจากจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนโดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ให้การซัดทอดว่า มีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน โดยจะนำรถไปพักไว้ที่ร้านซ่อมรถดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายศาล และเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว
พ.ต.ท.พิษณุ กล่าวว่า หนึ่งในผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมข้อหาลักรถมาแล้ว เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง โดยจากการสอบสวนผู้ต้องหา ทราบว่านำรถจักรยายนต์ที่ขโมยมาไปขายให้นายโน้ต ไม่ทราบนามสกุล ในราคาคันละ 3,000-4,000 บาท โดยนายโน้ตจะนำไปส่งให้พ่อค้าที่จังหวัดระนอง ก่อนส่งต่อไปยังประเทศพม่า โดยรถที่นิยมส่วนใหญ่เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า