ศูนย์ข่าวศรีราชา-ตร.แสนสุข ล่อซื้อรถจากแก๊งคาร์แคร์ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางหลายรายการ เตรียมขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.ท. ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้ร่วมแถลงข่าวที่ สภ.แสนสุข หลังเจ้าหน้า ตร.แสนสุข จับกุมคนร้ายแก๊งลักรถยนต์รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 คน ขณะนำรถที่ขโมยมาเพื่อขายให้เจ้าหน้าที่ ตร. ที่ติดต่อซื้อขาย บริเวณห้างโลตัสบางนา
เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นรถก็เข้าจับกุมทันที พร้อมตรวจเช็กรถคันดังกล่าว พบว่า เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ฒฒ 2869 กทม. ที่เจ้าของได้แจ้งหายไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง เมื่อ 6 วันที่ผ่านมา ขณะนำรถไปล้างที่ร้านคาร์แคร์ จากนั้นมีแก๊งโจรกรรมมาสวมลอยขอรับรถจากทางร้านไป
สำหรับคนร้าย คือ นายจำเริญ บุญโต อายุ 56 ปี และนายสมหมาย หาดทรายชายทะเล อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 394 ซอยกำนันแม้น 13 แยก 27 ต.บางบอน เขตบางบอน กทม.ซึ่งเป็นรถสภาพใหม่ที่ซื้อมาไม่ถึง 3 เดือน ของ นายพลพัช แก้วสุขเรือ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213/94 ม.6 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังนำไปล้างที่ร้าน เคซี คาร์แคร์ พื้นที่เขตแหลมฉบัง และขโมยไปเปลี่ยนสภาพและตกแต่งใหม่ ออกมาขายในเขตพื้นที่ กทม. โดยใช้สื่อทางอินเทอร์เน็ตบอกขาย ในราคา 1 แสน 4 หมื่นบาท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ ตร.แสนสุขได้สงสัยพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ เพราะมีเจ้าทุกข์เคยมาแจ้งไว้หลายรายเมื่อ ปี พ.ศ.2554 ว่าถูกลักรถยนต์ในลักษณะเดียวกัน จึงได้ติดต่อขอซื้อรถยนต์คันดังกล่าวจากทั้ง 2 คนที่นัดพบ และเมื่อคนร้ายมาส่งของ เจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบเอกสารรถทั้งหมด แต่กลุ่มคนร้ายนำเอกสารปลอมมาให้เจ้าหน้าที่แทน
เมื่อตรวจหมายเลขเครื่องแล้ว ไม่ตรงกับที่นำมาขาย แต่กลับไปตรงกับรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง จึงเข้าทำการจับกุมทั้ง 2 คนไว้ พร้อมนำตัวไปค้นที่ ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่เป็นจุดพักรถที่ได้โจรกรรมมาทั้งหมด
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบหลักฐานสำคัญเป็นจำนวนมากเกือบ 100 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสมุดคู่มือจดทะเบียนรถที่ได้โจรกรรมมาทั้งหมด พร้อมกับป้ายทะเบียนปลอมอีกเป็นจำนวนมากด้วย
ด้านนายสมหมาย ผู้ต้องหา อ้างว่า สมุดทั้งหมดนั้นเป็นสมุดที่ตนเองกับพวกรับซื้อมาจากซากรถเก่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะมาสวมกับรถคันใหม่ที่ตนกับพวกขโมยมา ซึ่งสร้างความแปลกใจต่อคำให้การของนายสมหมาย เหมือนเป็นการกระทำที่ถูกต้อง จึงหยุดดำเนินการพร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปควบคุม พร้อมขยายผลเพื่อหาแก๊งที่ร่วมขบวนการ คาดว่าจะมีข้าราชการเข้าร่วมด้วยอย่างแน่นอน
