อุตรดิตถ์ - ตำรวจ สภ.อุตรดิตถ์จับหนุ่มวัย 19 ปีหลังแอบอ้างเป็นญาติ-รู้จักเจ้าของรถ ก่อนสวมรอยรับรถที่นำไปล้างตามคาร์แคร์ พบทำเนียนอ้างเจ้าของใช้มาแทนแถมจ่ายเงินทำคาร์แคร์ตายใจก่อนเชิดรถหาย สุดท้ายไปไม่รอดโดนรวบตัวหลังเอารถไปเร่ขายไกลถึงปราจีนบุรี
วันนี้ (28 เม.ย.55) พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กวี พิมพ์ปรีชา ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายทรงสิทธิ์ หมั่นปรุ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/2 หลังโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ 92/2555 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2555 ในข้อหาลักทรัพย์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่านายทรงสิทธิ์ได้ทำการแอบอ้างเป็นเจ้าของรถ ก่อนจะฉวยโอกาสขโมยรถที่นำมาใช้บริการตามคาร์แคร์ไปจำหน่าย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมีผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุตรดิตถ์ว่า ถูกคนร้ายโจรกรรมรถด้วยการแอบอ้างว่าเป็นคนรู้จัก ก่อนจะขอรับรถที่นำไปใช้บริการร้านคาร์แคร์แล้วหลบหนีไป โดยเมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา นางสาวนวรัตน์ ศุภโชควีรกุล อยู่บ้านเลขที่.6 ถนนเพลินฤดี ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ได้นำรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9915 อุตรดิตถ์ มาล้างอัดฉีดที่ร้านรักรถคาร์แคร์ ตั้งอยู่ที่บริเวณริมถนนเจษฎาบดินทร์เหนือ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
ต่อมามีผู้แอบอ้างว่าเป็นแฟนของผู้เสียหายได้โทรศัพท์มาที่ร้านคาร์แคร์ว่าให้นำรถไปส่งที่บริเวณหน้าโรงเรียนสอนเด็กเล็กดีศิริเนอร์เซอรี่ เมื่อพนักงานของร้านนำรถไปส่ง พบชายวัยรุ่นใส่หมวกแก็ปปิดบังใบหน้า สวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนส์ยืนอยู่ พร้อมทั้งอ้างว่าเป็นลูกน้องของผู้เสียหายให้มารอรับรถแทน และยังได้มอบเงินค่าล้างรถให้กับพนักงานของร้านคาร์แคร์ก่อนจะขับรถยนต์คันดังกล่าวออกไป ต่อมาภายหลัง น.ส.นวรัตน์ได้เดินทางมารับรถจึงทราบว่ารถเก๋งของตนถูกคนแอบอ้างมารับรถไปแล้ว
ส่วนอีกรายเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่าน นางสุวรรณา อินต๊ะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ที่ 1 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์.ได้ขับรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตู สีเทา หมายเลขทะเบียน กข. 9364 อุตรดิตถ์ มาล้างที่ร้านแม่พร่องคาร์แคร์ในสถานีบริการน้ำมันวิน ถนนบรมอาสน์ ต.ท่าอิฐอ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดยมอบกุญแจรถไว้กับนางสุวรรณ สาวะดี ซึ่งเป็นเจ้าของคาร์แคร์พร้อมทั้งระบุว่าจะมารับรถในภายหลัง
ต่อมาได้มีชายวัยรุ่นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาว สวมหมวกแก็ป อ้างว่าเป็นน้องชายเจ้าของรถมาขอรับรถคันดังกล่าว โดยเมื่อจ่ายเงินค่าล้างรถแล้วก็ขับรถออกไป มาณ 12.00 น. นายประสิทธิ์ อินต๊ะ สามีของนางสุวรรณาได้มาติดต่อรับรถจึงทราบว่ามีคนแอบอ้างมารับรถไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์เพื่อสอบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป
ทั้งนี้ จากทั้งสองกรณี พ.ต.อ.กวี พิมพ์ปรีชา ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สมบูรณ์ คล่องใจ สว.สส.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ออกทำการสืบสวน จนทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองคดีคือนายทรงสิทธิ์ซึ่งได้หลบหนีไปอยู่ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.พงศ์พิสิษฐ์ ปัญญา รอง สว.สส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์เดินทางไปประสานกับ พ.ต.อ.ไพบูลย์ วังทะพันธ์ ผกก.สส.สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อติดตามตัวนายทรงสิทธิ์
ในระหว่างนั้นนายทรงสิทธิ์ ผู้ต้องหาได้ขับรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้าที่ขโมยมาจาก จ.อุตรดิตถ์ นำมาเร่ขายที่เต๊นท์รถชื่อร้านสุธีย์ 99 ถนน 304 ต.เมือง เก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แต่เจ้าของร้านเห็นว่านายทรงสิทธิ์มีท่าทีมีพิรุธประกอบกับไม่มีคู่มือการจดทะเบียนรถมาแสดง จึงถ่วงเวลาพร้อมทั้งโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองกบินทร์บุรีจึงรีบเดินทางไปจับกุมตัวนายทรงสิทธิ์ไว้ได้พร้อมของกลาง รวมทั้งได้ติดตามยึดรถเก๋งฮอนด้าคันที่นายทรงสิทธิ์ขโมยมาจาก จ.อุตรดิตถ์ และขายไปในราคา 140,000 บาทคืนกลับมาด้วย
ภายหลังการแถลงแถลงข่าวที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เจ้าของร้านคาร์แคร์และเจ้าของรถยนต์ทั้งสองคันต่างนำช่อดอกไม้มาขอบคุณ ผบก.และผกก. ขณะที่ พล.ต.ต.พิเชษฐกล่าวว่า ต่อไปนี้จะขอความร่วมมือจากเจ้าของคาร์แคร์และเจ้าของรถบนต์ที่นำรถมาล้างให้ทำการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ของกันและกันไว้ เพื่อจะได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามว่าจะเจ้าของรถจะเป็นผู้มารับรถด้วยตนเอง หรือจะมอบหมายให้ผู้อื่นมารับรถแทน เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพแอบอ้างว่ารู้จักหรือเป็นตัวแทนของเจ้าของรถมารับรถเแล้วหลบหนีเหมือนในคดีนี้อีก