นครศรีธรรมราช - มือมืดวางแผนป่วนเรือนจำบุกเผากองต้นไม้และใบไม้ไฟท่วมกลางดึก ก่อนยิงปืนขู่ซ้ำ คาดเบี่ยงความสนใจและสร้างความตื่นตระหนกแก่ จนท.เรือนจำ แล้วเข้าประชิดพื้นที่ดอดขว้างของต้องห้าม กำนันเผยพบวัยรุ่นเปียกโชกช่วงเช้าเชื่อส่งของเข้าคุกสำเร็จแล้ว
การติดตามสืบสวนสอบสวนขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ขบวนการส่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำยังคงไม่ลดละพยายามก่อเหตุป่วน และส่งของเข้าเรือนจำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีค่าตอบแทนที่สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ เช่นโทรศัพท์มือถือจะมีมูลค่าถึงกว่า 400,000 บาทต่อเครื่อง ยาเสพติดทุกชนิดมีมูลค่าเพิ่มขึ้นราว 30 เท่าตัว แม้แต่ไฟแช็กมีราคาสูงถึง 1,500 บาทต่ออัน
โดยความคืบหน้าวันนี้ (5 พ.ค.) ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุนย์วิทยุเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งใช้นามข่ายเรียกขานว่า “ป้อมเพชร” ได้วิทยุด่วนขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.ท้ายสำเภา, อบต.นาสาร เข้าสนับสนุนเพื่อทำการดับเพลิงที่มีผู้ก่อเหตุวางเพลิงในบริเวณพื้นที่กันชนของเรือนจำที่มีกองเศษต้นไม้จำนวนมาก หลังจากการกวาดพื้นที่ป่ารกชัฎให้เป็นที่ราบโล่งป้องกันการเข้ามาก่อเหตุต่างๆ ของบุคคลภายนอกที่เชื่อมโยงกับนักโทษในเรือนจำ
โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่ในจุดใกล้กับแดนเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ของเรือนจำ และที่ก่อเหตุวางเพลิงยังใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่อย่างน้อย 7 นัดอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำต่างอยู่ในสภาพตระหนก และมีเพียง 4-5 นายเท่านั้น เนื่องจากเป็นกลางดึกของคืนวันศุกร์ เจ้าหน้าที่จึงมีน้อยกว่าปกติ ส่วนกองเพลิงดังกล่าวนั้นได้ถูกควบคุมไว้ได้
นายปานเทพ รัสสะมโน กำนันตำบลนาสาร อำเภอพระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ที่มีพื้นที่ติดอยู่กับด้านหลังของเรือนจำ เปิดเผยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าคนร้ายได้ก่อเหตุปั่นป่วนบริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเรือนจำ เพื่อสร้างความปั่นป่วนดึงความสนใจของเจ้าหน้าที่ และเข้าไปก่อเหตุขว้างสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในจุดเดิมคือ รอยต่อระหว่างแดน 4, 5 และ 6 ด้านทิศเหนือของเรือนจำ
“เมื่อคืนที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของรถจักรยานยนต์ และคนแปลกหน้าอย่างผิดปกติ และเมื่อช่วงเช้ามืดได้ไปดูเหตุการณ์พบวัยรุ่น 2 คนกำลังเดินเท้าในสภาพเปียกโชก ซึ่งเป็นไปได้ว่าเข้าไปก่อเหตุส่งของเข้าไปอีกก่อนที่จะออกมาซึ่งไม่พบหลักฐานใดๆ และเป็นคนนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมทั้งภาคประชาชน ภาคฝ่ายปกครองท้องที่ ได้ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง แต่ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดเข้าไปได้อีกในช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ” นายปานเทพกล่าว
ส่วนทางด้านการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลในส่วนของโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำโดยการซุกในอิฐบล็อก โดยมี นางจารีย์ แรกจำนง เจ้าของร้านจำนงก่อสร้างที่ปรากฏข้อมูลในการสั่งซื้ออิฐบล็อกล๊อตดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า มีชายหญิงคู่หนึ่ง ชื่อแอร์และดา มาวางอิฐบล็อกตั้งโชว์บอกว่าฝากไว้เผื่อมีคนซื้อ และหลังจากนั้น 4 วันมีคนซื้อ โดยคนมาสั่งซื้อนั้นมายืนดูอิฐบล็อกแล้วสั่งซื้อพร้อมทั้งสินค้าอีกหลายอย่าง โดยบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ และให้ไปส่งไม่มีปัญหาพร้อมทั้งบอกชื่อ และให้เบอร์โทร.ไว้
ส่วนการสืบสวนนั้นพบว่า ผู้ที่มาส่งนั้นผู้ประสานคนหนึ่งที่คือนางดา ที่นำเอาอิฐบล็อกมาส่งนั้นเป็นมารดาของนักโทษที่ชื่อว่า “เน” หรือตวงธิปัตย์ คงคุ้ม ซึ่งเป็นนักโทษคดียาเสพติดซึ่ง เอเยนต์ค้าโทรศัพท์รายสำคัญในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชที่มีความเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ร่วมกันมาสั่งของจากร้านแห่งนี้ โดยมีอิฐบล็อกที่นำมาส่งที่ร้านจากเครือข่ายของนายเน หรือตวงธิปัตย์นั่นเอง โดยที่เจ้าของร้านค้าวัสดุไม่รู้เรื่อง เนื่องจากมีการวางแผนกันมาอย่างเป็นขั้นตอน และแยบยล
ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้ว มีตำแหน่งเป็นถึงระดับหัวหน้าที่ควบคุมนักโทษในแดนที่เป็นเป้าหมายของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้ และกระบวนการสอบสวนในเรื่องนี้กระชั้นไปมากแล้ว และสามารถดำเนินการถึงขั้นจับกุมได้ในเร็วๆ นี้
การติดตามสืบสวนสอบสวนขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ขบวนการส่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำยังคงไม่ลดละพยายามก่อเหตุป่วน และส่งของเข้าเรือนจำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีค่าตอบแทนที่สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ เช่นโทรศัพท์มือถือจะมีมูลค่าถึงกว่า 400,000 บาทต่อเครื่อง ยาเสพติดทุกชนิดมีมูลค่าเพิ่มขึ้นราว 30 เท่าตัว แม้แต่ไฟแช็กมีราคาสูงถึง 1,500 บาทต่ออัน
โดยความคืบหน้าวันนี้ (5 พ.ค.) ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุนย์วิทยุเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งใช้นามข่ายเรียกขานว่า “ป้อมเพชร” ได้วิทยุด่วนขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.ท้ายสำเภา, อบต.นาสาร เข้าสนับสนุนเพื่อทำการดับเพลิงที่มีผู้ก่อเหตุวางเพลิงในบริเวณพื้นที่กันชนของเรือนจำที่มีกองเศษต้นไม้จำนวนมาก หลังจากการกวาดพื้นที่ป่ารกชัฎให้เป็นที่ราบโล่งป้องกันการเข้ามาก่อเหตุต่างๆ ของบุคคลภายนอกที่เชื่อมโยงกับนักโทษในเรือนจำ
โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่ในจุดใกล้กับแดนเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ของเรือนจำ และที่ก่อเหตุวางเพลิงยังใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่อย่างน้อย 7 นัดอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำต่างอยู่ในสภาพตระหนก และมีเพียง 4-5 นายเท่านั้น เนื่องจากเป็นกลางดึกของคืนวันศุกร์ เจ้าหน้าที่จึงมีน้อยกว่าปกติ ส่วนกองเพลิงดังกล่าวนั้นได้ถูกควบคุมไว้ได้
นายปานเทพ รัสสะมโน กำนันตำบลนาสาร อำเภอพระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ที่มีพื้นที่ติดอยู่กับด้านหลังของเรือนจำ เปิดเผยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าคนร้ายได้ก่อเหตุปั่นป่วนบริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเรือนจำ เพื่อสร้างความปั่นป่วนดึงความสนใจของเจ้าหน้าที่ และเข้าไปก่อเหตุขว้างสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในจุดเดิมคือ รอยต่อระหว่างแดน 4, 5 และ 6 ด้านทิศเหนือของเรือนจำ
“เมื่อคืนที่ผ่านมา พบความเคลื่อนไหวของรถจักรยานยนต์ และคนแปลกหน้าอย่างผิดปกติ และเมื่อช่วงเช้ามืดได้ไปดูเหตุการณ์พบวัยรุ่น 2 คนกำลังเดินเท้าในสภาพเปียกโชก ซึ่งเป็นไปได้ว่าเข้าไปก่อเหตุส่งของเข้าไปอีกก่อนที่จะออกมาซึ่งไม่พบหลักฐานใดๆ และเป็นคนนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมทั้งภาคประชาชน ภาคฝ่ายปกครองท้องที่ ได้ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง แต่ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดเข้าไปได้อีกในช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ” นายปานเทพกล่าว
ส่วนทางด้านการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลในส่วนของโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำโดยการซุกในอิฐบล็อก โดยมี นางจารีย์ แรกจำนง เจ้าของร้านจำนงก่อสร้างที่ปรากฏข้อมูลในการสั่งซื้ออิฐบล็อกล๊อตดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า มีชายหญิงคู่หนึ่ง ชื่อแอร์และดา มาวางอิฐบล็อกตั้งโชว์บอกว่าฝากไว้เผื่อมีคนซื้อ และหลังจากนั้น 4 วันมีคนซื้อ โดยคนมาสั่งซื้อนั้นมายืนดูอิฐบล็อกแล้วสั่งซื้อพร้อมทั้งสินค้าอีกหลายอย่าง โดยบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ และให้ไปส่งไม่มีปัญหาพร้อมทั้งบอกชื่อ และให้เบอร์โทร.ไว้
ส่วนการสืบสวนนั้นพบว่า ผู้ที่มาส่งนั้นผู้ประสานคนหนึ่งที่คือนางดา ที่นำเอาอิฐบล็อกมาส่งนั้นเป็นมารดาของนักโทษที่ชื่อว่า “เน” หรือตวงธิปัตย์ คงคุ้ม ซึ่งเป็นนักโทษคดียาเสพติดซึ่ง เอเยนต์ค้าโทรศัพท์รายสำคัญในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชที่มีความเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่เรือนจำที่ร่วมกันมาสั่งของจากร้านแห่งนี้ โดยมีอิฐบล็อกที่นำมาส่งที่ร้านจากเครือข่ายของนายเน หรือตวงธิปัตย์นั่นเอง โดยที่เจ้าของร้านค้าวัสดุไม่รู้เรื่อง เนื่องจากมีการวางแผนกันมาอย่างเป็นขั้นตอน และแยบยล
ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้ว มีตำแหน่งเป็นถึงระดับหัวหน้าที่ควบคุมนักโทษในแดนที่เป็นเป้าหมายของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้ และกระบวนการสอบสวนในเรื่องนี้กระชั้นไปมากแล้ว และสามารถดำเนินการถึงขั้นจับกุมได้ในเร็วๆ นี้
