สตูล - สสจ.สตูลสุ่มตรวจร้านขายยาในพื้นที่ หวั่นซุก “ซูโดอีเฟดรีน” ไม่ส่งคืนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พ.ค. พบยาใกล้หมดอายุอื้อให้ทำลายทิ้งต่อหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นการดูแลคุมครองผู้บริโภค
วันนี้ (4 พ.ค.) นายแพทย์สมกียรติ ขำนุรักษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล สั่งการให้นายนรงค์ ลือขจร นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ นำคณะสาธารณสุขจังหวัดสตูลลงสุ่มตรวจร้านขายยา และสถานพยาบาลในพื้นที่อำเภอเมืองสตูล จำนวน 46 ร้าน หวั่นมีร้านขายยาในพื้นที่จังหวัดสตูลไม่ส่งยาซูโดอีเฟดรีนที่เป็นส่วนผสมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ส่งกลับคืน
ทั้งนี้ จากการลงสุ่มตรวจไม่พบยาซูโดอีเฟดรีน แต่ส่วนใหญ่เป็นยาที่ใกล้หมดอายุ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงทำการตรวจยึด และให้เจ้าของร้ายขายยาทำลายต่อหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด โดยนำยามาละลายน้ำ เพื่อเป็นการดูแลคุมครองผู้บริโภค พร้อมกล่าวตักเตือนห้ามจำหน่ายยาใกล้หมดอายุ
นายนรงค์ ลือขจร นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับปัญหาการลักลอบนำยาซูโดอีเฟดรีนไปใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด จนนำไปสู่การยกระดับการควบคุมซูโดอีเฟดรีนและยาแก้หวัดทุกสูตรที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 นั้น ร้านขายยาทุกแห่งรวมทั้งสถานพยาบาล และคลินิกที่ไม่ประสงค์จะครอบครองยาต้องส่งคืนยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรให้แก่บริษัทผู้ผลิต หรือผู้นำเข้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 นี้
สำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เช่น คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไข้ละอองฟาง ต้องไปพบแพทย์ตามสถานพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิกแพทย์ เมื่อได้รับการสั่งจ่ายยาดังกล่าวโดยแพทย์ ประชาชนสามารถครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนได้ เพื่อใช้ในการรักษาตนเองตามเอกสารหลักฐานที่แสดงว่าเป็นการครอบครองยาดังกล่าวโดยคำสั่งแพทย์ เช่น ใบรับรองแพทย์ ใบสั่งยา หรือเอกสารกำกับบนซองยา ซึ่งแสดงชื่อ และที่อยู่ของสถานพยาบาลที่สั่งจ่าย และชื่อคนไข้ เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 63(2) แห่งพระชาบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท พ.ศ.2518
หากเป็นครอบครองโดยไม่ได้ไปพบแพทย์ ตามที่กล่าวข้างต้น จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฐานความผิดครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีบทกำหนดโทษ ดังนี้ กรณีครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตร 106 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท กรณีครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วเกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 400,000 บาท