“วิทยา” คุมเข้มร้านยา-คลินิก ที่ไม่มีใบอนุญาตให้ขายยาซูโดฯ ตั้งแต่ 4 พ.ค.เป็นต้นไป มีโทษหนัก ยอดรวมคืนยาครบกำหนดวันที่ 3 พ.ค. 63 บริษัท รวม 21 ล้านเม็ด และชนิดน้ำ 11 ล้านซีซี
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการควบคุมป้องกันการนำยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนไปใช้ในทางที่ผิด ว่า วันที่ 3 พฤษภาคม 2555 นี้ เป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กำหนดให้ร้านขายยาและคลินิกต่างๆ ที่ไม่มีใบอนุญาตครอบครอง หรือใช้ประโยชน์วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ส่งยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน คืนให้ อย.หลังจากที่ออกประกาศกระทรวง ยกฐานะยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ ทุกชนิดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 2 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา
นายวิทยา กล่าวว่า ผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน-3 พฤษภาคม 2555 มียาส่งคืนบริษัทผู้ผลิตทั้งหมด 63 บริษัท เป็นยาเม็ดประมาณ 21 ล้านเม็ด และยาชนิดน้ำ 11 ล้านซีซี ขอย้ำว่า ยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯไม่ใช่ยาเสพติด โดยมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการขณะนี้ เป็นการป้องกันมิให้นำยาชนิดนี้ไปใช้ในทางมิชอบ ทั้งนี้ หากมีตัวยาใดที่ใช้แทนกันได้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข จะพิจารณา โดยจะมีการกำหนดเป็นบัญชียาออกมาภายหลัง
ทั้งนี้ เนื่องจากยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯยังมีความจำเป็นสำหรับผู้เจ็บป่วย ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้โรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน ที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนใช้ยาดังกล่าวได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 เม็ด ส่วนคลินิกที่มีใบอนุญาตฯ ให้ใช้ได้เดือนละไม่เกิน 5,000 เม็ด และหากจำเป็นจะครอบครองมากกว่าที่กำหนด จะต้องยื่นขออนุญาต และแจ้งแผนการใช้ยาที่กองยาเสพติด อย.ซึ่งจะมีการตรวจสอบการใช้ยาอย่างเข้มงวด ในการสั่งจ่ายยาทุกครั้งจะต้องเป็นไปตามใบสั่งแพทย์ และให้สถานบริการทำรายงานส่ง อย.ทุกเดือน ส่วนบริษัทผู้ผลิตหรือจำหน่าย ซึ่งมีทั้งหมด 63 บริษัททั่วประเทศ อย.จะมีระบบตรวจสอบข้อมูลการจ่ายยาได้ตลอดเวลาทางระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลนี้สามารถตรวจสอบเส้นทางการจ่ายยาได้ทั้งหมด
ด้าน นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า อย.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริษัททั้ง 63 บริษัท ที่ได้รับยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ คืน ซึ่งจากการตรวจเมื่อวานนี้ 3 แห่งที่ได้รับแจ้งยาคืนมากกว่า 1 ล้านเม็ด พบว่า ยอดตรงกับที่แจ้งกับ อย.หลังจากนี้ บริษัทจะต้องตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพของยาที่ได้รับคืนหากพบว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพ จะต้องส่ง อย.เพื่อรอทำลาย ขณะเดียวกัน อย.จะตรวจสอบร้านขายยาทั่วประเทศที่มี 17,000 แห่ง หากพบว่าครอบครองยาแก้หวัดสูตรซูโดฯ จะมีความผิดดังนี้ 1.หากครอบครองไม่เกิน 5 กรัมหรือประมาณ 101 เม็ด มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับ 20,000-100,000 บาท 2.หากครอบครองเกิน 5 กรัม มีโทษจำคุก 5-20 ปี และปรับ 100,000-400,000 บาท อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าขณะนี้ยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ ไม่มีปัญหาขาดแคลน มีปริมาณใช้ได้ต่อไปได้อีก 1 ปี แต่จะอนุญาตให้มีจำหน่ายได้เฉพาะโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกทีได้รับใบอนุญาตฯ ไม่มีขายในร้านขายยาทั่วไป
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการควบคุมป้องกันการนำยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนไปใช้ในทางที่ผิด ว่า วันที่ 3 พฤษภาคม 2555 นี้ เป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.กำหนดให้ร้านขายยาและคลินิกต่างๆ ที่ไม่มีใบอนุญาตครอบครอง หรือใช้ประโยชน์วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ส่งยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน คืนให้ อย.หลังจากที่ออกประกาศกระทรวง ยกฐานะยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ ทุกชนิดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 2 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2555 ที่ผ่านมา
นายวิทยา กล่าวว่า ผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน-3 พฤษภาคม 2555 มียาส่งคืนบริษัทผู้ผลิตทั้งหมด 63 บริษัท เป็นยาเม็ดประมาณ 21 ล้านเม็ด และยาชนิดน้ำ 11 ล้านซีซี ขอย้ำว่า ยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯไม่ใช่ยาเสพติด โดยมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการขณะนี้ เป็นการป้องกันมิให้นำยาชนิดนี้ไปใช้ในทางมิชอบ ทั้งนี้ หากมีตัวยาใดที่ใช้แทนกันได้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข จะพิจารณา โดยจะมีการกำหนดเป็นบัญชียาออกมาภายหลัง
ทั้งนี้ เนื่องจากยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯยังมีความจำเป็นสำหรับผู้เจ็บป่วย ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้โรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน ที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนใช้ยาดังกล่าวได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 เม็ด ส่วนคลินิกที่มีใบอนุญาตฯ ให้ใช้ได้เดือนละไม่เกิน 5,000 เม็ด และหากจำเป็นจะครอบครองมากกว่าที่กำหนด จะต้องยื่นขออนุญาต และแจ้งแผนการใช้ยาที่กองยาเสพติด อย.ซึ่งจะมีการตรวจสอบการใช้ยาอย่างเข้มงวด ในการสั่งจ่ายยาทุกครั้งจะต้องเป็นไปตามใบสั่งแพทย์ และให้สถานบริการทำรายงานส่ง อย.ทุกเดือน ส่วนบริษัทผู้ผลิตหรือจำหน่าย ซึ่งมีทั้งหมด 63 บริษัททั่วประเทศ อย.จะมีระบบตรวจสอบข้อมูลการจ่ายยาได้ตลอดเวลาทางระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลนี้สามารถตรวจสอบเส้นทางการจ่ายยาได้ทั้งหมด
ด้าน นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า อย.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริษัททั้ง 63 บริษัท ที่ได้รับยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ คืน ซึ่งจากการตรวจเมื่อวานนี้ 3 แห่งที่ได้รับแจ้งยาคืนมากกว่า 1 ล้านเม็ด พบว่า ยอดตรงกับที่แจ้งกับ อย.หลังจากนี้ บริษัทจะต้องตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพของยาที่ได้รับคืนหากพบว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพ จะต้องส่ง อย.เพื่อรอทำลาย ขณะเดียวกัน อย.จะตรวจสอบร้านขายยาทั่วประเทศที่มี 17,000 แห่ง หากพบว่าครอบครองยาแก้หวัดสูตรซูโดฯ จะมีความผิดดังนี้ 1.หากครอบครองไม่เกิน 5 กรัมหรือประมาณ 101 เม็ด มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับ 20,000-100,000 บาท 2.หากครอบครองเกิน 5 กรัม มีโทษจำคุก 5-20 ปี และปรับ 100,000-400,000 บาท อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าขณะนี้ยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯ ไม่มีปัญหาขาดแคลน มีปริมาณใช้ได้ต่อไปได้อีก 1 ปี แต่จะอนุญาตให้มีจำหน่ายได้เฉพาะโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกทีได้รับใบอนุญาตฯ ไม่มีขายในร้านขายยาทั่วไป