xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.รุกพัฒนาทุกด้าน เชื่อ 3 จชต.มีศักยภาพสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.
ยะลา - ศอ.บต. รุกงานพัฒนาทุกด้าน หลังนายกรัฐมนตรี-รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ เชื่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพ

วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมือง จ.ยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า หลังจากได้มีการประชุมร่วมระหว่างรองนายกรัฐมนตรี กับหอการค้า สภาอุตสาหกรรมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนักธุรกิจ 100 ท่าน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ที่ได้ระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความเจริญรุ่งเรือง ทางกลุ่มนักธุรกิจก็ได้มีการยื่นข้อเสนอหลักๆ รวม 8 ข้อ ตั้งแต่เรื่องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจในพื้นที่ อย่างเช่น เรื่องมาตรการด้านภาษี เรื่องการประกันวินาศภัย เนื่องจากว่าถ้าจะรอให้รัฐดำเนินการเยียวยาก็อาจจะช้า รวมถึงแนวความคิดที่จะทำให้พื้นที่มีโอกาสแข่งขันทางการค้ากับพื้นที่อื่น เพราะว่ามีศักยภาพในการแข่งขันสูง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ระบุว่า ในเรื่องของก๊าซเอ็นจีวี ที่ทางผู้ประกอบการค้าในพื้นที่อยากจะให้ผลักดันให้มีการเปิดขายก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่บ้าง รวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งราคาเบนซินในประเทศเพื่อนบ้านลิตรละ 18 บาท แต่เบนซินของเราลิตรละ 42 บาท ซึ่งมีความแตกต่างในพื้นที่ชายแดน ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแล ทางท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้มอบหมายให้ท่านกิตติรัตน์ ดูแลว่าจะทำอย่างไรให้ราคาน้ำมันในพื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ฟรีโซน ราคาน้ำมันเท่ากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการยกตัวอย่างไว้

นอกจากนั้น ในเรื่องของรถไฟรางคู่ ที่จะเริ่มสร้างจากสุไหงโก-ลก เข้าไปยังกรุงเทพมหานคร ท่านรองนายกรัฐมนตรี ก็รับไปพิจารณ าและจะลงมาติดตามผลในเดือนมิถุนายนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็คงจะต้องนำความเชื่อมั่นในศักยภาพ และประสิทธิภาพของพื้นที่เป็นกำลังหลักมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อน

พ.ต.อ.ทวี ยังได้กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมก็มีการพูดถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการค้ารายย่อยในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะการหาแหล่งเงินกู้รายย่อยให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ก็มีความก้าวหน้าของธนาคารอิสลาม ที่จะให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการค้ารายย่อยในพื้นที่ ส่วนการเยียวยานั้น อยากจะทำความเข้าใจว่า ต้องการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บให้สามารถประกอบอาชีพ ไม่เป็นภาระใคร ส่วนเงินที่จะได้รับนั้นก็จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่จะพิจารณาเป็นกรณีไป

เลขาธิการ ศอ.บต.ยังกล่าวว่า ส่วนกรณีผู้ประกอบการค้าร้านต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซียมีความไม่สบายใจ หลังถูกกระแสข่าวลือว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุไม่สงบในพื้นที่นั้น ก็ไม่ได้มีการพูดถึง เพราะเป็นเรื่องข่าวลือจริงๆ แล้วคนไทยที่เดินทางไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านนั้นมี 2-3 แสนคน ก็อยากให้เราช่วยดูแลให้สามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย ตนเองเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มที่สร้างเศรษฐกิจให้แก่ภาคใต้ เนื่องจากจะส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวในพื้นที่ แต่เมื่อทางการมาเลเซียมีมาตรการเคร่งครัดให้แก่คนที่ทำงานนั้น โดยเฉพาะการศึกษา ก็เป็นหน้าที่ของ ศอ.บต. ที่จะสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่กลุ่มคนเหล่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น