ระนอง - สุดอัศจรรย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าช้าระนอง มรณภาพ 28 ปี สังขารไม่เน่าเปื่อย ชาวบ้านทราบข่าวทยอยเดินทางไปกราบไหว้ตลอดทั้งวันดทั้งวัน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (9 เม.ย.) ได้มีข่าวลือสะพัดว่าที่วัดมัชฌิมเจริญธรรม หรือวัดป่าช้า หมู่ที่ 1 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง มีการขุดพบศพของพระสงฆ์ไม่เน่าเปื่อย ผู้สื่อข่าวจึงรุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงวัด พบศพของพระสงฆ์นอนหงายห่มจีวรอยู่บนเตียง โดยมีมุ้งครอบไว้ ภายในกุฏิที่ระลึกพระครูปัญญาวิมล (โชติ วิมโล) มีคณะสงฆ์พร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งกำลังประกอบพิธีทางศาสนา จากการสังเกตพบว่า สภาพศพแห้งกรัง มีหนังหุ้มกระดูก หนังศีรษะแห้ง ฟันล่างยังไม่หลุดล่อน ส่วนฟันบนหลุดคาปากอยู่
พระฉันทธรรมโม (สุวรรณ ช่วยอุปการ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมเจริญธรรม เปิดเผยว่า ศพดังกล่าวคือพระครูปัญญาวิมล (โชติ วิมโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมเจริญธรรมรูปแรก มรณภาพเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2527 ซึ่งหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ทางญาติ และลูกศิษย์ได้นำสังขารที่บรรจุในโลงไม้ไปเก็บไว้ในที่เก็บศพที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเมื่อปี 2530
ตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยมีใครไปทำอะไรอีกเลย จนกระทั่งหลวงพ่อได้มาเข้าฝันว่าให้ช่วยเอาร่างหลวงพ่อออกจากที่เก็บศพด้วย เพราะมองอะไรไม่เห็นแล้ว หายใจไม่ออก มีมดแมลงมาไต่ตอมตามใบหน้า เมื่อเอาศพออกมาแล้วให้ตั้งสวดเป็นเวลา 3 วัน จากนั้น ตนได้บอกกับทางญาติ และลูกศิษย์ของหลวงพ่อให้รับทราบฝันดังกล่าว และปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทุกคนเห็นพ้องกันว่า ให้ขุดศพหลวงพ่อออกมาดูเพื่อความสบายใจ
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ขุดที่เก็บศพของหลวงพ่อ พบว่า ศพของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย นอนหงายอยู่ในโลงไม้ที่ผุพังหมดแล้ว โดยมีชิ้นส่วนของโลงศพพังลงมาปิดหน้าของหลวงพ่อไว้ มีมดไต่ตอมตามใบหน้า และร่างกาย ส่วนจีวร และสบงได้เปื่อยยุ่ยจนหมด เหลือเพียงอังสะเท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพพอใช้ได้ สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน จากนั้น ได้ช่วยกันนำสังขารของหลวงพ่อมาทำความสะอาด และห่มจีวรให้ใหม่พร้อมทั้งตั้งศพไว้ที่กุฏิเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
พระฉันทธรรมโมกล่าวต่อว่า หลังจากมีการสวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วันตามที่ได้ฝันแล้ว ในวันที่ 12 เมษายน 55 จะมีการสวดพระอภิธรรม จากนั้น จะนำสังขารของหลวงพ่อบรรจุไว้ในโลงแก้วตั้งไว้ในวัดเพื่อให้ญาติโยม ลูกศิษย์ และผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้ต่อไป
นายเฉลิมวุฒิ วังบุญคง อายุ 51 ปี กล่าวว่า ตนมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อ เคยมาอยู่ที่วัดกับหลวงพ่อเมื่อปี 2519 ซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้ก่อตั้งวัดมัชฌิมเจริญธรรม และเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกด้วย สำหรับบ้านเดิม บิดามารดาของหลวงพ่ออยู่ที่ตำบลสามตำบล อ.ร่อนพิบูลย์ (ปัจจุบันเป็น อ.จุฬาภรณ์) จ.นครศรีธรรมราช แต่หลวงพ่อเกิดที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางไปกราบไหว้ร่างของพระครูปัญญาวิมลตลอดทั้งวัน
สำหรับประวัติของพระครูปัญญาวิมล ชื่อเดิมโชติ ศิริมาศ เกิดที่ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2465 มีพี่น้องรวม 7 คน หลวงพ่อเป็นคนที่ 3 บรรพชาและอุปสมบทเมื่ออายุ 33 ปี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2498 ที่วัดอุปนันทาราม (วัดด่าน) อ.เมือง จ.ระนอง ปี 2500 สร้างสำนักสงฆ์ที่เป็นสุสานป่าช้าบ้านบางกลาง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ปี 2505 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลเขานิเวศน์ ปี 2510 สอบได้นักธรรมชั้นเอก ปี 2513 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูปัญญาวิมล” และปี 2518 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์สัญญาบัตรชั้นโท วันที่ 25 ก.ค. 2527 มรณภาพ สิริอายุ 61 ปี 8 เดือน 18 วัน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (9 เม.ย.) ได้มีข่าวลือสะพัดว่าที่วัดมัชฌิมเจริญธรรม หรือวัดป่าช้า หมู่ที่ 1 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง มีการขุดพบศพของพระสงฆ์ไม่เน่าเปื่อย ผู้สื่อข่าวจึงรุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงวัด พบศพของพระสงฆ์นอนหงายห่มจีวรอยู่บนเตียง โดยมีมุ้งครอบไว้ ภายในกุฏิที่ระลึกพระครูปัญญาวิมล (โชติ วิมโล) มีคณะสงฆ์พร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งกำลังประกอบพิธีทางศาสนา จากการสังเกตพบว่า สภาพศพแห้งกรัง มีหนังหุ้มกระดูก หนังศีรษะแห้ง ฟันล่างยังไม่หลุดล่อน ส่วนฟันบนหลุดคาปากอยู่
พระฉันทธรรมโม (สุวรรณ ช่วยอุปการ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมเจริญธรรม เปิดเผยว่า ศพดังกล่าวคือพระครูปัญญาวิมล (โชติ วิมโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมเจริญธรรมรูปแรก มรณภาพเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2527 ซึ่งหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ทางญาติ และลูกศิษย์ได้นำสังขารที่บรรจุในโลงไม้ไปเก็บไว้ในที่เก็บศพที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเมื่อปี 2530
ตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยมีใครไปทำอะไรอีกเลย จนกระทั่งหลวงพ่อได้มาเข้าฝันว่าให้ช่วยเอาร่างหลวงพ่อออกจากที่เก็บศพด้วย เพราะมองอะไรไม่เห็นแล้ว หายใจไม่ออก มีมดแมลงมาไต่ตอมตามใบหน้า เมื่อเอาศพออกมาแล้วให้ตั้งสวดเป็นเวลา 3 วัน จากนั้น ตนได้บอกกับทางญาติ และลูกศิษย์ของหลวงพ่อให้รับทราบฝันดังกล่าว และปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทุกคนเห็นพ้องกันว่า ให้ขุดศพหลวงพ่อออกมาดูเพื่อความสบายใจ
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ขุดที่เก็บศพของหลวงพ่อ พบว่า ศพของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย นอนหงายอยู่ในโลงไม้ที่ผุพังหมดแล้ว โดยมีชิ้นส่วนของโลงศพพังลงมาปิดหน้าของหลวงพ่อไว้ มีมดไต่ตอมตามใบหน้า และร่างกาย ส่วนจีวร และสบงได้เปื่อยยุ่ยจนหมด เหลือเพียงอังสะเท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพพอใช้ได้ สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน จากนั้น ได้ช่วยกันนำสังขารของหลวงพ่อมาทำความสะอาด และห่มจีวรให้ใหม่พร้อมทั้งตั้งศพไว้ที่กุฏิเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
พระฉันทธรรมโมกล่าวต่อว่า หลังจากมีการสวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วันตามที่ได้ฝันแล้ว ในวันที่ 12 เมษายน 55 จะมีการสวดพระอภิธรรม จากนั้น จะนำสังขารของหลวงพ่อบรรจุไว้ในโลงแก้วตั้งไว้ในวัดเพื่อให้ญาติโยม ลูกศิษย์ และผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กราบไหว้ต่อไป
นายเฉลิมวุฒิ วังบุญคง อายุ 51 ปี กล่าวว่า ตนมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อ เคยมาอยู่ที่วัดกับหลวงพ่อเมื่อปี 2519 ซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้ก่อตั้งวัดมัชฌิมเจริญธรรม และเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกด้วย สำหรับบ้านเดิม บิดามารดาของหลวงพ่ออยู่ที่ตำบลสามตำบล อ.ร่อนพิบูลย์ (ปัจจุบันเป็น อ.จุฬาภรณ์) จ.นครศรีธรรมราช แต่หลวงพ่อเกิดที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดออกไป ได้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางไปกราบไหว้ร่างของพระครูปัญญาวิมลตลอดทั้งวัน
สำหรับประวัติของพระครูปัญญาวิมล ชื่อเดิมโชติ ศิริมาศ เกิดที่ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2465 มีพี่น้องรวม 7 คน หลวงพ่อเป็นคนที่ 3 บรรพชาและอุปสมบทเมื่ออายุ 33 ปี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2498 ที่วัดอุปนันทาราม (วัดด่าน) อ.เมือง จ.ระนอง ปี 2500 สร้างสำนักสงฆ์ที่เป็นสุสานป่าช้าบ้านบางกลาง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ปี 2505 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลเขานิเวศน์ ปี 2510 สอบได้นักธรรมชั้นเอก ปี 2513 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สัญญาบัตรชั้นตรีที่ “พระครูปัญญาวิมล” และปี 2518 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์สัญญาบัตรชั้นโท วันที่ 25 ก.ค. 2527 มรณภาพ สิริอายุ 61 ปี 8 เดือน 18 วัน