กระบี่ - กรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏร ลงพื้นที่ จ. กระบี่ ตรวจสอบโครงการการสร้างแฟลตตำรวจ หลังพบไม่มีความคืบหน้า ด้านชูวิทย์ฯแฉเหลืออีก 5 เดือนก็จะหมดสัญญา และอยู่ในพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม เตรียมนำเสนอสภาผู้แทนและ ผบ.ตร.พิจารณา พร้อมตรวจสอบกรณีมีพนักงานสอบสวนถูกร้องเรียนว่าเข้าข้างผู้ต้องหาจ้างวานฆ่า
ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฏร พร้อมคณะนำโดยนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ประธานกรรมาธิการฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ รองประธานกรรมาธิการคนที่ 1 นายอาคม เอ่งฉ้วน ที่ปรึกษากรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ นายสาคร เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ นายสุชีน เอ่งฉ้วน สส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษากรรมาธิการ ได้ประชุมร่วมกับทางตำรวจกระบี่นำโดย พล.ต.ต.จำรูญ รื่นรมย์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ และ ผกก. สวญ. ทุกสถานีเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการติดตามการบริหารงานของตำรวจและการดำเนินงานด้านต่างๆ และได้ให้ทางตำรวจชี้แจงกรณี การก่อสร้างแฟลตตำรวจ โดย พ.ต.อ.ทักษิณ โภชากรณ์ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ชี้แจงว่า ในจังหวัดกระบี่มีแฟลตตำรวจที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมา 1 แห่ง จากงบไทยเข้มแข็ง วงเงิน 22 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างงวดที่ 5 จากทั้งหมด 11 งวด และจะหมดสัญญาในวันที่ 12 เมษายน 2555 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จไม่ทันตามกำหนด และจากสภาพพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งทางตนไม่เคยรับทราบมาก่อน ทางโยธาธิการและผังเมืองเข้าตรวจสอบเมื่อปี 2554 หลังเกิดฝนตกหนักแผ่นดินถล่มในพื้นที่จังหวัดกระบี่และภาคใต้ พบว่าจุดก่อสร้างมีโอกาสดินสไลด์ได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่ข้าราชการตำรวจที่จะเข้าพัก
พ.ต.อ.ทักษิณ ชี้แจงต่อไปว่า ส่วนกรณีการจัดหาสถานที่ก่อสร้าง สภ.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถจัดหาได้ เนื่องจากติดขัดปัญหาเดิมได้สถานที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเป็นพื้นที่เสื่อมโทรม แต่เมื่อจะสร้างกลับมีเอกชนอ้างสิทธิครอบครอง เรื่องอยู่ในชั้นศาลกับทางป่าไม้ และอีกพื้นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขอใช้ แต่พื้นที่ในเมืองกระบี่กำลังเติบโตจึงยากที่เอกชนจะบริจาค เพราะมีราคาสูงมาก
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ รองประธานกรรมาธิการคนที่ 1 กล่าวว่า การเดินทางมาติดตามหลังการร้องเรียนในจังหวัดกระบี่นั้นมีด้วยกัน 3 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งไปร้องเรียนว่าถูกตำรวจข่มขู่และให้การช่วยเหลือคู่กรณีคดีจ้างวานฆ่า ซึ่งขณะนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนแต่ก็เริ่มที่จะมีความกระจ่างมากขึ้น โดยได้รับการชี้แจงจากทางตำรวจและผู้เสียหายมาแล้วบางส่วน แต่การสอบสวนยังไม่จบต้องไปสอบสวนเพิ่ม
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของแฟลตตำรวจที่กระบี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นพบว่าสภาพงานไม่คืบหน้าเหลือเวลาแค่ 4-5 เดือนก็จะหมดสัญญา เพราะมีการขยายเพิ่ม แต่ก็ไม่เสร็จแน่นอน และที่ซ้ำร้ายแฟลตที่กำลังก่อสร้างก็อยู่ในจุดเสี่ยงที่พร้อมถล่มได้ เรื่องนี้คงต้องฝากไปยัง ผบ.ตร.ให้ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ เพราะยังไม่มีที่อยู่ แต่จะมาบริการประชาชนก็คงจะลำบาก เพราะต้องดูแลครอบครัว และอยากจะฝากถึงผู้ที่รับผิดชอบ อย่ามัวเมารักอยู่ ต้องมาดูแลในส่วนนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา เพราะดูแล้ว แฟลตตำรวจและสถานีตำรวจจำนวน 398 แห่งงบประมาณ 5,800 ล้านบาททั่วประเทศ เสร็จไปแค่ 20-30 แห่ง เหลือเวลาไม่มากเสร็จไม่ทันแน่นอน
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ตั้งสภ.อ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกระบี่ ล่าสุดนี้ตนได้ไปพักและช่วงเช้าออกมาเดินดูพบฝรั่งคนหนึ่งที่ทำให้ตนอายมาก ฝรั่งชี้ไปที่ป้อมตำรวจเก่าๆ หลังหนึ่งแล้วบอกว่า เป็นสถานีตำรวจ ทั้งๆที่อ่าวนาง เทียบชั้นกับภูเก็ตแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาในด้านนี้ ซึ่งคงต้องฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน