นครศรีธรรมราช - “ตู่” ย่องเงียบพร้อมแกนนำแดงเปิด “หมู่บ้านเสื้อแดงเมืองคอน” แต่เปลี่ยนชื่อเป็น “หมู่บ้านประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด” ถ่ายทอดสดวิทยุชุมชนซัดคนใต้โง่เลือก ปชป.ทำพื้นที่ไม่พัฒนา
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ศาลาประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านเก้ากอ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโครงการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-31 มีนาคม 2555 โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายอารีย์ ไกรนรา ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และแกนนำ นปช.อีกหลายคนเข้าร่วมกิจกรรม โดยกิจกรรมดังกล่าวได้ถ่ายทอดเสียงผ่านวิทยุชุมชนคลื่น 87.6 เมกะเฮิรตซ์ ด้วย
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี กล่าวว่า จากการสำรวจใน ตำบลทอนหงส์ พบว่า มีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 500 คน แต่ละเดือนต้องใช้เงินเพื่อการซื้อยาบ้าและยาเสพติดประเภทต่างๆ มากถึงประมาณ 4.5 ล้านบาท ทำให้สูญเสียเงินโดยไม่เกิดประโยชน์ สุขภาพของประชาชนเสียหาย และได้รับผลกระทบด้านอื่นๆ ตามมาด้วย
“ผมเองจึงได้ประกาศตัวต่อต้านยาเสพติดและกระทำทุกวิถีทางที่จะให้ยาเสพติดหมดสิ้นไปจากพื้นที่และคนในชุมชนหมู่บ้าน โดยได้ดำเนินการมานานนับ 10 ปี มีการทำป้ายสีแดงแสดงเครื่องหมายบอกทางถึงจุดที่จำหน่ายยาเสพติดเป็นระยะๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ และชี้ป้ายผู้ค้า ผู้เสพ แต่ได้ถูกต่อต้าน ถูกข่มขู่ รู้สึกอ่อนล้าและท้อถอยในการปฏิบัติการถึงกับประกาศวางมือและเผาป้าย พร้อมทั้งยกหมู่บ้านให้กับผู้ค้ายามาครั้งหนึ่งแล้ว การขึ้นป้ายแดงของหมู่บ้านตนเกิดก่อนหมู่บ้านคนเสื้อแดงตั้งหลายปี แต่วัตถุประสงค์ของเราตรงกัน”
นายเฉลิม กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ประกาศให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ทุกฝ่ายได้ดำเนินการอย่างจริงจัง จึงตั้งใจมุ่งมั่นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าทุกฝ่ายจริงจัง โดยจะนำเยาวชนผู้ติดยาเสพติด จำนวนกว่า 20 คน เข้าบำบัดยาเสพติดในชื่อโครงการฝากลูกไว้กับผู้นำ “เขาหลวง ผู้กล้า” รุ่นที่ 1 ขึ้น
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นโครงการนำร่อง มุ่งให้เยาวชนในพื้นที่ซึ่งเป็นลูกหลานของเขาหลวงได้ใช้เขาหลวงเป็นสถานที่สำหรับการกลับตัวกลับใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ใช้วิธีการต่างๆ ด้วยการบำบัดในการผนวกรวมกันหลายรูปแบบให้กลายเป็นกายบำบัดแบบองค์รวม มีการเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ สร้างความรักความหวงแหนในธรรมชาติให้เกิดขึ้น หากดำเนินการได้สำเร็จจะเป็นโครงการนำร่องสำหรับพื้นที่อื่นต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนเพิ่งกลับมารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่เมื่อทราบว่า มีผู้ที่มุ่งมั่นทำงานในเรื่องการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังขนาดนี้มานานนับ 10 ปี แต่ไม่มีผู้สนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลด้านความปลอดภัย รู้สึกรับไม่ได้ ซึ่งตนเองได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ตั้งใจทำงาน ผู้ที่แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะปกป้องอย่างเต็มที่เนื่องจากเป็นพวกเดียวกับตน
จากนั้น นายจตุพร ได้ทำพิธีเปิดหมู่บ้านประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด หรือ “หมู่บ้านคนเสื้อแดง” บริเวณสี่แยกของชุมชน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และกลุ่มคนสวมเสื้อสีแดงจำนวนมากเข้าร่วม โดย นายจตุพร กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในการปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่คำนึงถึงเรื่องของพรรคการเมือง แต่ต้องการส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้น และจะมีการจัดตั้งหมู่บ้านในลักษณะนี้ให้เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ถึงแม้ว่าใต้จะไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ตาม
“หมู่บ้านประชาธิปไตยฯ แห่งนี้ เป็นหมู่บ้านตัวอย่างที่จะชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้นำ สภาพวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นประชาธิปไตย มีการบริหารจัดการที่มาจากคณะกรรมการ ความเห็นพ้องต้องกันของประชาชน ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ของหมู่บ้านเสื้อแดง และการเกิดหมู่บ้านประชาธิปไตยฯ นี้ก็ไม่ได้สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมเหมือนอย่างที่คนของประชาธิปัตย์ว่าเอาไว้ คนพวกนี้ชอบว่าแต่คนอื่น ให้ทำก็ไม่ทำ พอคนอื่นทำประสบความสำเร็จก็มาเยาะเย้ยเสียดสี คนพวกนี้โง่ยังอวดฉลาด”
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนไปภาคเหนือ ภาคอีสานมา แล้วกลับมาใต้ซึ่งเป็นบ้านเราเอง ตกใจว่ายังไม่ได้รับการพัฒนาที่ดี ไม่ใช่เพราะคนใต้ไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่เป็นเพราะคนใต้โง่ เลือกประชาธิปัตย์ เข้ามาบริหารงาน คนเก่งๆ อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนที่มีความคิดริเริ่ม มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นเพื่อต้องต้องการพัฒนา มันก็หาว่ามาทำลายประเทศ คนใต้เคยมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์ก็พูดกรอกใส่หูทุกวันว่าไม่ใช่คนใต้ เลยกลายเป็นว่า นายสมชาย ไม่ใช่คนใต้ จึงไม่เกิดความรักความหวงแหน ภาคใต้เลยไม่มีการพัฒนา
วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ศาลาประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านเก้ากอ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโครงการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-31 มีนาคม 2555 โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายอารีย์ ไกรนรา ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย และแกนนำ นปช.อีกหลายคนเข้าร่วมกิจกรรม โดยกิจกรรมดังกล่าวได้ถ่ายทอดเสียงผ่านวิทยุชุมชนคลื่น 87.6 เมกะเฮิรตซ์ ด้วย
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี กล่าวว่า จากการสำรวจใน ตำบลทอนหงส์ พบว่า มีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 500 คน แต่ละเดือนต้องใช้เงินเพื่อการซื้อยาบ้าและยาเสพติดประเภทต่างๆ มากถึงประมาณ 4.5 ล้านบาท ทำให้สูญเสียเงินโดยไม่เกิดประโยชน์ สุขภาพของประชาชนเสียหาย และได้รับผลกระทบด้านอื่นๆ ตามมาด้วย
“ผมเองจึงได้ประกาศตัวต่อต้านยาเสพติดและกระทำทุกวิถีทางที่จะให้ยาเสพติดหมดสิ้นไปจากพื้นที่และคนในชุมชนหมู่บ้าน โดยได้ดำเนินการมานานนับ 10 ปี มีการทำป้ายสีแดงแสดงเครื่องหมายบอกทางถึงจุดที่จำหน่ายยาเสพติดเป็นระยะๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ และชี้ป้ายผู้ค้า ผู้เสพ แต่ได้ถูกต่อต้าน ถูกข่มขู่ รู้สึกอ่อนล้าและท้อถอยในการปฏิบัติการถึงกับประกาศวางมือและเผาป้าย พร้อมทั้งยกหมู่บ้านให้กับผู้ค้ายามาครั้งหนึ่งแล้ว การขึ้นป้ายแดงของหมู่บ้านตนเกิดก่อนหมู่บ้านคนเสื้อแดงตั้งหลายปี แต่วัตถุประสงค์ของเราตรงกัน”
นายเฉลิม กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ประกาศให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ทุกฝ่ายได้ดำเนินการอย่างจริงจัง จึงตั้งใจมุ่งมั่นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าทุกฝ่ายจริงจัง โดยจะนำเยาวชนผู้ติดยาเสพติด จำนวนกว่า 20 คน เข้าบำบัดยาเสพติดในชื่อโครงการฝากลูกไว้กับผู้นำ “เขาหลวง ผู้กล้า” รุ่นที่ 1 ขึ้น
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นโครงการนำร่อง มุ่งให้เยาวชนในพื้นที่ซึ่งเป็นลูกหลานของเขาหลวงได้ใช้เขาหลวงเป็นสถานที่สำหรับการกลับตัวกลับใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ใช้วิธีการต่างๆ ด้วยการบำบัดในการผนวกรวมกันหลายรูปแบบให้กลายเป็นกายบำบัดแบบองค์รวม มีการเดินป่า ศึกษาธรรมชาติ สร้างความรักความหวงแหนในธรรมชาติให้เกิดขึ้น หากดำเนินการได้สำเร็จจะเป็นโครงการนำร่องสำหรับพื้นที่อื่นต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนเพิ่งกลับมารับตำแหน่งได้ไม่นาน แต่เมื่อทราบว่า มีผู้ที่มุ่งมั่นทำงานในเรื่องการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังขนาดนี้มานานนับ 10 ปี แต่ไม่มีผู้สนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลด้านความปลอดภัย รู้สึกรับไม่ได้ ซึ่งตนเองได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ตั้งใจทำงาน ผู้ที่แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะปกป้องอย่างเต็มที่เนื่องจากเป็นพวกเดียวกับตน
จากนั้น นายจตุพร ได้ทำพิธีเปิดหมู่บ้านประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด หรือ “หมู่บ้านคนเสื้อแดง” บริเวณสี่แยกของชุมชน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และกลุ่มคนสวมเสื้อสีแดงจำนวนมากเข้าร่วม โดย นายจตุพร กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในการปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช โดยไม่คำนึงถึงเรื่องของพรรคการเมือง แต่ต้องการส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างแท้จริงให้เกิดขึ้น และจะมีการจัดตั้งหมู่บ้านในลักษณะนี้ให้เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ถึงแม้ว่าใต้จะไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ตาม
“หมู่บ้านประชาธิปไตยฯ แห่งนี้ เป็นหมู่บ้านตัวอย่างที่จะชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้นำ สภาพวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นประชาธิปไตย มีการบริหารจัดการที่มาจากคณะกรรมการ ความเห็นพ้องต้องกันของประชาชน ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ของหมู่บ้านเสื้อแดง และการเกิดหมู่บ้านประชาธิปไตยฯ นี้ก็ไม่ได้สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมเหมือนอย่างที่คนของประชาธิปัตย์ว่าเอาไว้ คนพวกนี้ชอบว่าแต่คนอื่น ให้ทำก็ไม่ทำ พอคนอื่นทำประสบความสำเร็จก็มาเยาะเย้ยเสียดสี คนพวกนี้โง่ยังอวดฉลาด”
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนไปภาคเหนือ ภาคอีสานมา แล้วกลับมาใต้ซึ่งเป็นบ้านเราเอง ตกใจว่ายังไม่ได้รับการพัฒนาที่ดี ไม่ใช่เพราะคนใต้ไม่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่เป็นเพราะคนใต้โง่ เลือกประชาธิปัตย์ เข้ามาบริหารงาน คนเก่งๆ อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนที่มีความคิดริเริ่ม มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นเพื่อต้องต้องการพัฒนา มันก็หาว่ามาทำลายประเทศ คนใต้เคยมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์ก็พูดกรอกใส่หูทุกวันว่าไม่ใช่คนใต้ เลยกลายเป็นว่า นายสมชาย ไม่ใช่คนใต้ จึงไม่เกิดความรักความหวงแหน ภาคใต้เลยไม่มีการพัฒนา
