xs
xsm
sm
md
lg

เดือนเดียว "ช้าง" คลั่งฆ่า "ควาญตรัง" 2 ศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พลายติ๊กชีโร่ หลังตกมันและจ้วงแทงควาญช้างเสียชีวิตคาที่เพราะถูกนำมาใช้งานลากไม้ยางพารา
ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเมืองที่ไม่ใช้ถิ่นกำเนิดของสัตว์คู่บ้านคู่เมืองอย่าง "ช้าง" เนื่องจากเป็นเพียงแหล่งที่สัตว์ใหญ่ชนิดนี้เข้ามาอยู่เพียงเพื่อหากิน โดยเฉพาะธุรกิจชักลากไม้ยางพาราที่ถูกโค่นลงบนภูเขาสูงหรือที่ทุรกันดาร หรือธุรกิจนำพานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินั่งไปเที่ยวชมธรรมชาติ แต่ที่ไหนได้ในระยะเวลาเพียงแค่เดือนเดียว กลับปรากฏเหตุร้ายจน "ควาญ" ต้องเสียชีวิตไปถึง 2 ศพ

โดยรายแรกเกิดขึ้นเมื่อเช้าของวันที่ 22 ก.พ.55 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุ "ควาญ" ถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต ที่บริเวณเนินเขาปู่เจ้าเขากลอง หมู่ที่ 2 บ้านควนมอง ต.กันตังใต้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมโชค ชูบาล อายุ 58 ปี เป็นชาวหมู่ที่ 7 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มีบาดแผลจากการถูกงาช้างทิ่มแทง เข้าที่บริเวณหน้าอกทะลุหลัง 1 แผล รวมทั้งยังมีกระดูกซี่โครงด้านซ้ายหักด้วย

จากการสอบถาม "ควาญ" ที่ร่วมกันทำงาน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมโชค ได้นำช้างมารับจ้างชักลากไม้ยางพารา แต่ขณะที่ชายผู้เคราะห์ร้ายกำลังขึ้นขี่บนหลังช้างอยู่นั้น "พลายมงคล" วัย 25 ปี ก็เกิดอาการ "ตกมัน" แล้วอาวะวาดอย่างบ้าคลั่ง ก่อนสะบัด นายสมโชค จนหล่นลงมากับพื้น พร้อมใช้งวงรัดและเหวี่ยงร่างกระเด็นไปถูกต้นยางพารา ก่อนจะพุ่งปรี่เข้าใช้งวงแทง "ควาญ" จนเสียชีวิตในที่สุด

สำหรับ "พลายมงคล" เดิมเป็นช้างมาจาก จ.พังงา ต่อมาเจ้าของได้ขายต่อให้ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี และได้ก่อเหตุเหยียบคนจนเสียชีวิตไป 1 ราย ก่อนที่จะถูกขายเปลี่ยนมือมายังเจ้าของใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งครั้งนั้นช้างก็ได้ก่อเหตุเหยียบคนจนเสียชีวิตเป็นรายที่ 2 กระทั่งต่อมา นายสมโชค ได้ตัดสินใจซื้อต่อมาในราคา 6.5 แสนบาท เพื่อนำมาใช้งานสำหรับรับจ้างชักลากไม้ยางพารา

ก่อนหน้านี้ นายสมโชค เคยเลี้ยง "พังนาตาลี" วัย 35 ปี เอาไว้ แต่เนื่องจากคืนวันที่ 1 ก.ค.52 ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุเหยียบชาวบ้านในพื้นที่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จนเสียชีวิตพร้อมกันถึง 3 ศพ ทำให้เจ้าของต้องยอมขายต่อไปให้กับปางช้างใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปบำบัดพฤติกรรม แล้วซื้อ "พลายมงคล" มาเลี้ยงแทนเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยไม่นึกว่าช้างจะเกิดคลุ้มคลั่งทำร้ายตนเองจนเสียชีวิตเป็นรายที่ 3
เหตุควาญช้างตายเพราะช้างรายล่าสุด
ถัดจากเหตุการณ์เศร้าดังกล่าวไม่นาน กระทั่งมาถึงเช้าของวันที่ 10 มี.ค.55 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ก็ได้รับแจ้งเหตุ "ควาญ" ถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 3 บ้านไร่เหนือ ต.ในเตา ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุมล พรหมแก้ว อายุ 39 ปี เป็นชาวหมู่ที่ 5 เทศบาล ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง มีบาดแผลจากการถูกงาช้างทิ่มแทง เข้าที่บริเวณหน้าอกทะลุหลังถึง 4 แผล

จากการสอบถาม นายสุภัทร กลับจันทร์ อายุ 39 ปี เพื่อนคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุมล ได้นำ "พลายติ๊กชีโร่" วัย 21 ปี จาก จ.พัทลุง มาชักลากไม้ยางพารา แต่ขณะที่กำลังจะนำไปทำงานเป็นรอบที่ 3 ชายผู้เคราะห์ร้ายก็ได้สั่งให้ช้างหยุด เพื่อนำโซ่มาตีปลอกล่ามไว้ เนื่องจากขณะนั้นทราบดีว่าช้างมีอาการ "ตกมัน" มาหลายวันแล้ว และเกรงว่าจะอาละวาดทำร้ายคนงานที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่ นายสุมลจะล่ามโซ่ "พลายติ๊กชีโร่" ก็เกิดอาการ "ตกมัน" แล้วอาวะวาดอย่างบ้าคลั่ง ก่อนใช้งาแทงใส่ "ควาญ" 1 ครั้ง จนเสียหลักล้มลงไปในกองไม้ แต่ยังไม่ทันที่จะลุกขึ้น ช้างก็พุ่งปรี่เข้าไปใช้งาแทงซ้ำอีก 3 ครั้ง จนเสียชีวิต ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนคนงาน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะเกรงว่าจะถูกช้างทำร้าย ต้องใช้นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้

เพราะเหตุร้ายที่เกิดกับ "ควาญ" มาถึง 2 ครั้ง นายธวัช อุดมคณารัตน์ ปศุสัตว์ จ.ตรัง จึงต้องย้ำเตือนให้ดูแลช้างเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะหน้าร้อนนี้ เพราะเป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จนทำให้ช้าง "ตกมัน" ได้ง่าย และถ้าหากสังเกตุพบอาการดังกล่าว ต้องตีปลอกล่ามโซ่ตรวนไว้ทั้ง 4 ขา และไม่ควรที่จะนำมาใช้งานโดยเด็ดขาด แม้ว่าช้างจะมีพลังสูงกว่าช่วงปกติ แต่ก็เป็นอันตรายต่อ "ควาญ" หรือผู้คนรอบข้างอย่างมาก

ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่า
กำลังโหลดความคิดเห็น