xs
xsm
sm
md
lg

เมียควาญช้างประกาศขาย “พลายมงคล” หลังตกมันแทงสามีดับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตรัง - เมียควาญช้างประกาศขาย “พลายมงคล” ในราคา 1.3 ล้านบาท หลังตกมันคลุ้มคลั่งแทงสามีซึ่งเป็นควาญดับ และฆ่าคนมาแล้วอีก 3 ศพ เมื่อ 4 ปีก่อน

จากกรณีที่ช้างพลายมงคล วัย 30 ปีเศษ ตกมันและคลุ้มคลั่งทำร้าย นายสมโชค ชูบาล อายุ 58 ปี ควาญช้างซึ่งเป็นเจ้าของจนเสียชีวิต ขณะกำลังพาช้างเชือกดังกล่าวไปรับจ้างชักลากไม้ยางพาราให้กับบริษัท เอเชียแปซิฟิค จำกัด บนเนินเขาปู่เจ้าเขากลอง หมู่ที่ 2 บ้านควนมอง ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น

หลังเกิดเหตุทางชมรมผู้เลี้ยงช้าง จ.ตรัง ได้ระดมกำลังควาญช้างทั่วทั้งอำเภอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ออกไล่ล่าเพื่อใช้ปืนยิงลูกดอกยาสลบควบคุมไม่ให้ไปทำร้ายชาวบ้านได้อีก โดยใช้เวลากว่า 9 ชั่วโมง ก่อนจะนำตัวกลับมายังบ้าน
บรรยากาศในงานศพนายสมโชค ชูบาล เจ้าของช้างพลายมงคล
 
ล่าสุด วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้เดินทางไปที่วัดหน้าลา หมู่ที่ 7 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวชูบาลได้นำศพของนายสมโชค ชูบาล หัวหน้าครอบครัวที่ถูกพลายมงคลทำร้ายจนเสียชีวิต มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดดังกล่าว โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด มี นางวัชณา ชูบาล ภรรยา รวมทั้งลูกสาวทั้ง 5 คน ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านและคนสนิท ประมาณ 20 คน มาช่วยกันตกแต่งสถานที่และคอยต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน

นางวัชณา ชูบาล อายุ 53 ปี ภรรยานายสมโชค เล่าว่า รู้สึกเสียใจและคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับสามีของตนเอง เพราะที่ผ่านมามักจะเกิดขึ้นกับคนอื่น แต่พอมาเจอกับตนเองยอมรับว่ายังทำใจยอมรับกับการสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้ เพราะมันรวดเร็วเกินกว่าที่จะตั้งตัวทัน

ที่ผ่านมา ทั้งตนและญาติพี่น้องคนอื่นๆ เคยเตือนสามีให้ระมัดระวังตัวด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอว่าอย่าเชื่อใจช้างเชือกนี้มากนัก เพราะเคยมีบทเรียนจากพังนาตาลี ซึ่งเป็นช้างที่สามีตนซื้อมาเลี้ยง และเกิดคลุ้มคลั่งอาละวาดเหยียบคนกรีดยางพาราในละแวกดังกล่าวจนเสียชีวิตพร้อมกันทั้ง 3 ศพในคืนวันเดียวกัน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และต่อมาได้ขายต่อให้กับปางช้างใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปบำบัดพฤติกรรม แต่ก็ได้แค่เตือนเท่านั้น ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ เพราะสามีเป็นคนรักช้างมาก เสมือนสมาชิกในครอบครัว แต่ก็ประมาทจนกระทั่งเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น

ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับคนเลี้ยงช้างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะชำนาญหรือเชี่ยวชาญมากขนาดไหน สัตว์ก็ยังเป็นสัตว์อยู่วันยังค่ำ ยังคงมีสัญชาตญาณของสัตว์ป่าให้เห็นอยู่เสมอ เพราะขนาดสามีตนที่ยึดอาชีพเลี้ยงช้างมากว่า 36 ปี ก็ยังต้องจบชีวิตลงด้วยความประมาท ดังนั้น อยากจะฝากเตือนไปยังคนเลี้ยงช้างอย่าได้ประมาท หากพบช้างมีพฤติกรรมผิดสังเกตให้ตีปลอกล่ามโซ่ไว้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น

นางวัชณา กล่าวต่อไปว่า สำหรับช้างพลายมงคลนั้น หลังถูกจับได้เพื่อนควาญช้างด้วยกันก็นำมาส่งที่บ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีอาการปกติ ไม่ได้แสดงท่าทีดุร้ายว่าจะตกมัน และตอนเช้าของวันนี้ก็ได้นำกลับไปทำงานต่อที่ อ.กันตัง โดยมีควาญช้างอีกคนเป็นผู้ดูแล

และหลังจากทำงานเสร็จ ครอบครัวตนก็ตัดสินใจที่จะขายพลายมงคล ในราคา 1.3 ล้านบาท ตามที่สามีได้บอกขายก่อนจะเสียชีวิตประมาณ 4-5 วัน ซึ่งขณะนี้มีผู้มาติดต่อขอซื้อแล้ว ส่วนช้างสีดออีกเชือกซึ่งอายุไล่เลี่ยกัน ยืนยันว่าจะเก็บเอาไว้ไม่ขาย เพราะเป็นช้างที่มีนิสัยดีและขยันทำงาน

ส่วนสาเหตุที่สามีไม่ยอมขายพลายมงคลในช่วงแรก เป็นเพราะช้างเชือกนี้ขยันทำงานประกอบกับต้องการจะนำช้างไปรับจ้างชักลากไม้ยางพาราให้กับบริษัทดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะขายช้างเชือกนี้ และจะนำเงินที่ได้ไปซื้อช้างเชือกใหม่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มาแทน เพื่อนำมารับจ้างชักลากไม้ยางพาราอีก แต่ก็ถูกลูกๆ ทั้ง 5 คนคัดค้านไม่ให้ซื้อช้างมาเลี้ยงอีก เพราะเห็นว่าพ่ออายุมากแล้วประกอบกับมีโรคประจำตัวชอบเป็นลมบ่อยครั้ง ลูกๆ จึงอยากให้พักผ่อนอยู่กับบ้าน ไม่ต้องนำช้างไปชักลากไม้ยางอีก ซึ่งสามีตนก็รับปากว่าจะวางมือจากการเลี้ยงช้างแล้วหันไปทำสวนยางพาราแทน กระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าสลดเสียก่อน

ภรรยา นายสมโชค กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับศพของสามีนั้นจะตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัด โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมศพตั้งแต่วันที่ 23-24 ก.พ.และในวันที่ 25 ก.พ.จะเก็บศพไว้เพื่อรอฌาปนกิจต่อไปในวันที่ 3 พ.ค.เนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพิ่งจะผ่านพ้นการจัดพิธีมงคลสมรสของบุตรสาวคนโตไป ซึ่งตามประเพณีไทยมีความเชื่อว่า หากจัดงานมงคลพร้อมกับงานศพในปีเดียวกัน จะทำให้ไม่เป็นมงคลแก่ลูกหลาน ดังนั้นทางครอบครัวจึงต้องเลื่อนการฌาปนกิจศพนายสมโชคออกไปก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น