ตรัง - ควาญช้างชื่อดังอดีตเจ้าของพังนาตาลี ที่เหยียบคนกรีดยางตาย 3 ศพในคืนเดียวกัน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถูกช้างพลายมงคลคลุ้มคลั่งแทงทะลุหัวใจดับสยอง เผยมีประวัติเหยียบคนตายมาแล้ว 2 ศพ โดยก่อนเกิดเหตุนั้นควาญช้างได้นำช้างซึ่งอยู่ระหว่างอาการตกมันมาทำงานหนัก จนเกิดเหตุสยองดังกล่าว
วันนี้ (22 ก.พ.) พ.ต.ท.มนัส ไชยพันธ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.กันตัง จ.ตรัง รับแจ้งเหตุมีควาญช้างถูกช้างแทงเสียชีวิตที่บนเนินเขาปู่เจ้าเขากลอง หมู่ 2 บ้านควนมอง ต.กันตังใต้ อ.กันตัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัย
โดยที่เกิดเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด ทราบชื่อ นายสมโชค ชูบาล อายุ 58 ปี ควาญช้าง อยู่บ้านเลขที่ 135/1 หมู่ที่ 7 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยมีบาดแผลจากการถูกงาช้างทิ่มแทง เข้าที่บริเวณหน้าอกซ้ายทะลุหลัง เป็นแผลฉกรรจ์เหวอะหวะ จำนวน 1 แผล และกระดูกซี่โครงแขนซ้ายหัก ใกล้กันยังพบหอกตกหล่นอยู่ จำนวน 1 เล่ม
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมโชคพร้อมด้วยนายธวัช ไหมสวัสดิ์ เพื่อนควาญช้าง ได้นำช้างมารับจ้างชักลากไม้ยางพาราให้กับบริษัท เอเชียแปซิฟิค จำกัด พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ อีกประมาณ 30 คน
โดยขณะที่กำลังขึ้นขี่บนหลังช้าง เพื่อพาไปชักลากไม้ยางพารานั้น ช้างพลายมงคลก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งตกมันสะบัดนายสมโชคจนหล่นลงมากับพื้น ซึ่งในจังหวะดังกล่าวนายสมโชคพยายามลุกขึ้นวิ่งหนี ก็ถูกช้างพลายมงคลใช้งวงรัดและเหวี่ยงร่างกระเด็นไปถูกต้นยางพาราจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะพุ่งปรี่เข้าไปใช้งวงแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายธวัชซึ่งอยู่ใกล้กันหลังจากตั้งสติได้ ก็ได้ตวาดไล่ช้างพลายมงคลจนตกใจ และเตลิดหนีเข้าไปในป่าดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ นายธวัช อุดมคณารัตน์ พร้อมด้วย นายสุชาติ บัวเกิด ประธานชมรมคนเลี้ยงช้าง จ.ตรัง ได้ระดมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์รวมทั้งควาญช้างจากทั่วทุกอำเภอใน จ.ตรังและชายฉกรรจ์กว่า 100 คน พร้อมปืนยิงลูกดอกยาสลบและอาวุธปืนลูกซองยาวครบมือ ลงพื้นที่ไล่ล่าช้างพลายมงคลที่กำลังวนเวียนอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยหากพบเห็นช้างให้ใช้ปืนยิงลูกดอกยาสลบเข้าใส่ และเมื่อช้างถูกยิงแล้วภายในประมาณ 5-10 นาทียาสลบจะออกฤทธิ์ แต่ถ้าหากไม่สามารถควบคุมช้างได้ก็สามารถใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงได้ในกรณีฉุกเฉิน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทีมล่าช้างอีกชุดหนึ่งได้ใช้ปืนลูกดอกยาสลบยิงใส่ช้างพลายมงคล จำนวน 1 ดอกแล้ว แต่ยังไม่สามารถหยุดช้างไว้ได้ เนื่องจากไม่เข้าถูกจุดที่สำคัญ ทำให้ช้างวิ่งเตลิดหนีกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่และทีมควาญช้างต้องออกไล่ล่า และใช้ปืนลูกซองยาวยิงใส่ช้างอีก 1 นัด เพื่อสกัดการหลบหนี แต่กระสุนพลาดไปถูกสายไฟฟ้าจนขาด ทำให้ไฟช็อตและไหม้ป่าหญ้าบริเวณดังกล่าว ต้องประสานไปยังเทศบาลเมืองกันตัง ขอรถน้ำดับเพลิงมาฉีดไฟที่กำลังไหม้หญ้า ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับช้างพลายมงคลไว้ได้
สำหรับช้างพลายมงคลนั้น เดิมเป็นช้างมาจาก จ.พังงา ต่อมาเจ้าของได้ขายต่อให้กับคนใน จ.สุราษฎร์ธานี และมาก่อเหตุเหยียบคนจนเสียชีวิต ก่อนที่จะถูกขายเปลี่ยนมือต่อมายัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งในครั้งนั้นช้างพลายมงคล ก็ได้ก่อเหตุเหยียบคนซ้ำอีกครั้ง ต่อมานายสมโชค ได้ตัดสินใจซื้อต่อมาในราคา 6.5 แสนบาท เพื่อนำมาใช้สำหรับรับจ้างชักลากไม้ยางพารา หลังจากที่ขายช้างพังนาตาลี วัย 35 ปี ที่มีประวัติเหยียบคนกรีดยางพาราตายพร้อมกันทั้ง 3 ศพในคืนวันที่ 1 ก.ค.52 ที่ผ่านมา ให้กับปางช้างใน จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคา 6 แสนบาท เพื่อนำไปบำบัดพฤติกรรมไปแล้ว กระทั่งมาถูกช้างพลายมงคล คลุ้มคลั่งแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว
นายธวัช อุดมคณารัตน์ ปศุสัตว์ จ.ตรัง กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ช้างพลายมงคล มีอาการตกมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตนได้เตือนให้นายสมโชคตีตรวนล่ามโซ่ไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างอาละวาดทำร้ายคน ซึ่งในครั้งนั้นโชคดีที่อาการตกมันไม่มากเกินไป สามารถควบคุมช้างไว้ได้ และมาในครั้งนี้นายสมโชคทราบดีว่าช้างกำลังอยู่ในอาการตกมัน แต่ก็ยังประมาทนำมาใช้ทำงานอย่างหนัก เนื่องจากเข้าใจว่า ถ้าช้างตกมันจะทำให้มีแรงทำงานดีกว่าช้างปกติทั่วไป จนช้างเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว
ดังนั้น ตนอยากฝากเตือนไปยังควาญช้างให้ระมัดระวังดูแลช้างในช่วงหน้าร้อนเป็นกรณีพิเศษ เพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ช้างเกิดอาการตกมันขึ้นมาได้ และถ้าหากสังเกตพบอาการดังกล่าวให้ตีปลอกล่ามโซ่ตรวนไว้ สำหรับช้างพลายมงคลนั้น แนะนำให้ญาติหาควาญช้างที่มีความชำนาญพิเศษดูแล และให้ตีปลอกล่ามโซ่ตรวนไว้ทั้ง 4 ขา หรือว่าหากดูแลไม่ได้ก็ให้ขายช้างนั้นไป