ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ร้องนายก นสพ.ใต้ กรณีตำรวจเข้าค้นบ้านต้องสงสัยในเคหะน้ำน้อยไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามที่สงสัยและเสนอข่าว
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำหมายค้นของศาล จ.สงขลา เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่125/37-38 ภายในหมู่บ้านการเคหะน้ำน้อย ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ เนื่องจากต้องสงสัยว่าใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแจ้งข้อหาชายชาวต่างชาติรวม 8 คน สัญชาติจีน 5 คน ชายสัญชาติมาเลเซีย 3 คน ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุดในวันนี้ (10 มี.ค.) นางเยาวพร อุดมพฤกษา อายุ 32 ปี ซึ่งอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว กับ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนรวมทั้งชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องหรือใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามที่ตำรวจสงสัยและมีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด
โดยระบุว่า สถานที่ที่ตำรวจเข้าค้นนั้นใช้ เป็นออฟฟิศชั่วคราวของบริษัท แซดทีอี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2005-2007 เลขที่ 195 อาคารเอ็มไพร์ ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ เพื่อรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมระบบ 3 จี ของทรูมูฟในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นบริษัทของประเทศจีน ส่วนชายชาวจีนและมาเลเซียทั้ง 8 คนเป็นวิศวกรที่ทางบริษัทส่งลงมาทำงานในพื้นที่ ซึ่งมีหลักฐานและเอกสารการดำเนินงานต่างชัดเจนสามารถตรวจสอบได้
ซึ่งการเข้าตรวจค้นและข่าวที่มีการนำเสนอผ่านทางสื่อมวลชน โดยเฉพาะข่าวออนไลน์ที่มีการกระจายไปอย่างกว้างขวางทำให้ตนและบริษัทได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหาย เพราะสังคมเข้าใจผิด ทั้งที่การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมและชี้แจงข้อเท็จจริงกับทุกฝ่าย
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำหมายค้นของศาล จ.สงขลา เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่125/37-38 ภายในหมู่บ้านการเคหะน้ำน้อย ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ เนื่องจากต้องสงสัยว่าใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแจ้งข้อหาชายชาวต่างชาติรวม 8 คน สัญชาติจีน 5 คน ชายสัญชาติมาเลเซีย 3 คน ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุดในวันนี้ (10 มี.ค.) นางเยาวพร อุดมพฤกษา อายุ 32 ปี ซึ่งอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว กับ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากตนรวมทั้งชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องหรือใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามที่ตำรวจสงสัยและมีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด
โดยระบุว่า สถานที่ที่ตำรวจเข้าค้นนั้นใช้ เป็นออฟฟิศชั่วคราวของบริษัท แซดทีอี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2005-2007 เลขที่ 195 อาคารเอ็มไพร์ ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ เพื่อรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมระบบ 3 จี ของทรูมูฟในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นบริษัทของประเทศจีน ส่วนชายชาวจีนและมาเลเซียทั้ง 8 คนเป็นวิศวกรที่ทางบริษัทส่งลงมาทำงานในพื้นที่ ซึ่งมีหลักฐานและเอกสารการดำเนินงานต่างชัดเจนสามารถตรวจสอบได้
ซึ่งการเข้าตรวจค้นและข่าวที่มีการนำเสนอผ่านทางสื่อมวลชน โดยเฉพาะข่าวออนไลน์ที่มีการกระจายไปอย่างกว้างขวางทำให้ตนและบริษัทได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหาย เพราะสังคมเข้าใจผิด ทั้งที่การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่อย่างใด จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมและชี้แจงข้อเท็จจริงกับทุกฝ่าย