ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และ สภ.คอหงส์ นำหมายค้นศาล จ.สงขลา เข้าตรวจค้นบ้านเช่าในหมู่บ้านการเคหะน้ำน้อย อ.หาดใหญ่ ต้องสงสัยตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบคนไทย ชาวจีน และชาวมาเลเซีย รวม 9 คนอยู่ในบ้าน ยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารไปตรวจสอบ
วันนี้ (16 ก.พ.) เวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล รองผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.ท ชำนาญ รัตนพร สว.สส. สภ.คอหงส์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และ สภ.คอหงส์ นำหมายค้นของศาล จ.สงขลา เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่125/37-38 ภายในหมู่บ้านการเคหะน้ำน้อย ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ เนื่องจากต้องสงสัยว่าใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการของแก็งคอลเซ็นเตอร์ ที่โทรศัพท์หลอกเหยื่อให้โอนทางตู้เอทีเอ็ม
โดยภายในบ้านพบชายสัญชาติจีน 5 คน ชายสัญชาติมาเลเซีย 3 คน และ น.ส.เยาวพร อุดมพฤกษา อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นชาวไทยกำลังนั่งทำงานอยู่ในบ้าน นอกจากนี้ ยังพบเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 8 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นชาวต่างชาติทั้ง 8 คน กำลังนั่งทำงานอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์คนละตัว โดยได้รีบบล็อกสัญญาณอินเทอร์เน็ตและปิดการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือทันที อีกทั้งพยายามวิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเอาไว้
จากการตรวจค้นภายในบ้านยังพบเอกสารต้องสงสัยหลายรายการ ทั้งเอกสารรายชื่อบุคคล พร้อมเบอร์โทรศัพท์ แผนที่ เครื่องโปรเจกเตอร์ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก รวมทั้งข้อความภาษาจีนบนป้ายกระดานไวท์บอร์ด เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไปตรวจสอบ
จากการสอบสวน น.ส.เยาวพร ซึ่งทำหน้าที่ดูแลเอกสารให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวได้เช่ามา 6 เดือน เพื่อทำเป็นออฟฟิศชั่วคราวของบริษัท แซดทีอี (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2005-2007 เลขที่ 195 อาคารเอ็มไพร์ ถ.สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ เพื่อรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมระบบ 3 จี ของทรูมูฟในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นเป็นบริษัทของประเทศจีน ส่วนชายชาวจีนและมาเลเซียทั้ง 8 คนเป็นวิศวกรที่ทางบริษัทส่งลงมาทำงานในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารของชาวต่างชาติทั้ง 8 คน มีเพียงพาสปอร์ต แต่ไม่มีเวิร์คเปอร์มิตหรือใบอนุญาตทำงานแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน รวมทั้งยึดเอกสารไปตรวจสอบที่มาที่ไป ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องและใช้เป็นศูนย์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต
