ตรังเสนอนำเกาะเหลาเหลียงเปิดสัมปทานรังนก หลังอุทยานฯทำผิดเงื่อนไข

ตรัง - คณะกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่น เสนอให้นำเกาะเหลาเหลียงเหนือ อ.ปะเหลียน กลับมาให้เปิดสัมปทานทำรังนกอีแอ่นเหมือนเดิม หลังจากที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-เหลาเหลียง ทำผิดเงื่อนไข ขณะที่นายอำเภอปะเหลียน เห็นต่างควรอนุรักษ์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่นเดิม

วันนี้ (8 มี.ค.) นายไชยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานประชุมหารือคณะกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดตรัง พร้อมกับ นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง และคณะกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดตรัง เช่น หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-เหลาเหลียง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสุกร ซึ่งเป็นพื้นที่มีการจัดเก็บรังนกอีแอ่นมากที่สุดของจังหวัดตรัง นายอำเภอปะเหลียน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง สรรพากรเขตพื้นที่ตรัง อัยการจังหวัดตรัง พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิ ประมาณ 30 คน ร่วมประชุมหารือ ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้หารือต่อคณะกรรมการจัดเก็บภาษีรังนกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดตรัง ว่า จากสถานการณ์ที่ผ่านมา การเก็บภาษีรังนกอีแอ่นจากจำนวน 5% ของรายได้ทั้งหมด ในพื้นที่จังหวัดตรังมีรายได้ลดลง ซึ่งจากที่เคยมีการประมูลสูงถึง 135 ล้านบาท ต่อการให้ประมูลสัมปทาน 5 ปี แต่จากการการที่ปริมาณนกอีแอ่นมีจำนวนลดลง ได้ทำให้รังนกลดลงด้วย ส่งผลให้ผู้สัมปทานประมูลรังนก ลดค่าสัมปทานเหลือแค่ประมาณ 60 ล้านบาท ต่อการทำสัญญา 5 ปี จึงส่งผลให้การเก็บค่าสัมปทาน 5 ปี ส่วนแบ่งของการเก็บรังนก 5% ลดลงเป็นอย่างมาก

ดังนั้น คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บภาษีรังนกอีแอ่น จึงมีมติให้ลดเงินที่จะอุดหนุนแต่ละอำเภอของจังหวัดตรัง จำนวน 10 อำเภอ จากเดิมอำเภอละ 50,000 บาทต่อปี เหลือแค่อำเภอละ 30,000 บาทต่อปี

นอกจากนั้น ยังได้หารือเกี่ยวกับมติการยกเลิกการให้สัมปทานเกาะเหลาเหลียงเหนือ จากที่เดิมที่เคยเป็นเกาะรังนกอีแอ่นในพื้นที่อำเภอปะเหลียน หลังจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-เหลาเหลียง ได้ร้องขอเพื่อนำไปจัดทำเป็นเกาะอนุรักษ์พันธุ์นกอีแอ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว

แต่ต่อมากลับถูกร้องเรียนจากนายก อบต.เกาะสุกร ว่า อุทยานฯ ทำผิดสัญญาและเงื่อนไขที่ประกาศไว้ โดยการปล่อยให้มีการเข้าไปเก็บรังนกอีแอ่น หาผลประโยชน์จากการเก็บรังนกอีแอ่น จึงได้ทำหนังสือต่อ นายไมตรี อินทสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สมัยนั้นให้ขอเกาะเหลาเหลียงเหนือคืนจากอุทยานฯ และประกาศเป็นเกาะรังนกเช่นเดิม เพื่อหารายได้สู่ท้องถิ่นต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คณะกรรมการจัดเก็บภาษีรังนกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดตรัง ได้มีมติขอคืนเกาะเหลาเหลียงเหนือ เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับตั้งคณะกรรมการชุดเล็กขึ้นมา เพื่อพิจารณาและหาข้อมูล โดยมี นายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอปะเหลียน เป็นประธานนั้น กลับเห็นแย้งกับคณะกรรมการจัดเก็บภาษีรังนกอีแอ่นจังหวัดตรัง ว่า ยังควรสนับสนุนให้เกาะเหลาเหลียงเหนือ ยังคงเป็นเกาะอนุรักษ์พันธุ์นกอีแอ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นเดิม

โดยมีเหตุผลว่าที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้าชมธรรมชาติทางทางทะเล และดำน้ำชมปะการัง จำนวนมาก เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใส มีความเป็นธรรมชาติ และมีปะการังที่สวยงามนานาชนิด จึงไม่เหมาะแก่การประกาศเป็นเกาะรังนกอีแอ่น ที่สำคัญ ก็คือ ในแต่ละปีสามารถเก็บรังนกได้แค่ 8 กิโลกรัม หรือประมาณ 2 ล้านบาทเท่านั้น

นางราตรี ปักษี นายก อบต.เกาะสุกร กล่าวว่า เนื่องจากการเปิดประมูลรังนกอีแอ่นจังหวัดตรังครั้งต่อไป จะต้องรออีกประมาณ 3 ปี จึงอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับรัฐได้ จึงเห็นควรจัดให้มีการเปิดประมูลรังนกอีแอ่นเฉพาะเกาะเหลาเหลียงเหนือ ไปก่อน หลังจากที่ยึดกลับคืนมาจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-เหลาเหลียงแล้ว เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข คือ อนุรักษ์รักษ์นกอีแอ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่กลับปล่อยให้มีการเข้าไปขโมยรังนก หาผลประโยชน์จากการเก็บรังนกอีแอ่น และมีการหารายได้จากบุคลบางกลุ่มในการเข้าท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการเปิดประมูลรังนกอีแอ่นของเกาะเหลาเหลียงเหนือใหม่ ควรให้คณะกรรมการทุกชุดได้ลงพื้นที่สำรวจเกาะเหลาเหลียง รวมไปถึงเกาะอื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับสัมปทานครั้งต่อไปด้วย