xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจตรังแห่ทำ “รังนกบ้าน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตรัง – นักธุรกิจตรังแห่ทำอาชีพรังนกบ้าน บางรายถึงขั้นย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อสละบ้านให้นกนางแอ่น เผยผลตอบแทนสูงเรือนแสนต่อเดือน จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย

นายบุญโชค ชัยเกษตรสิน หรือ โกลาภ นายกเทศมนตรี ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรังนกบ้านรายใหญ่แห่งหนึ่งของ จ.ตรัง เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปี ที่ผ่านมานี้ ถือเป็นยุคทองของธุรกิจรังนกอีแอ่น หรือรังนกนางแอ่น โดยเฉพาะรังนกบ้าน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงใน จ.ตรัง จากเดิมที่มีเพียงไม่กี่หลัง และหวังรายได้แค่เพียงเดือนละไม่กี่พันบาท แต่กลับกลายมาเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้เป็นล่ำเป็นสัน จนเกิดกระแสการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในช่วงหลังๆ มา มีบ้านจำนวนหลายหลังที่มีนกเข้าไปอยู่เพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการบางรายจึงตัดสินใจย้ายออกไปอาศัยที่อื่นแทน โดยยอมยกบ้านทั้งหลังให้นกนางแอ่นอยู่กันอย่างเต็มที่ และบางรายถึงขั้นหยุดกิจการที่ทำอยู่แต่เดิมเพื่อให้นกนางแอ่นใช้เป็นที่อาศัยไปเลยก็มี โดยเฉพาะบ้านที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเขตเทศบาลนครตรัง แถวๆ ถนนราชดำเนิน ถนนท่ากลาง และถนนห้วยยอด เนื่องจากเห็นว่ารายได้ที่เข้ามาจากธุรกิจรังนกสดใสมากกว่า เพราะในเดือนหนึ่งๆ บางรายมีเงินไหลเข้ามานับแสนนับล้านบาท แม้ว่าธุรกิจดังกล่าวนี้จะมีความเสี่ยงไม่น้อยก็ตาม

จากการคาดการณ์ ระบุว่า ขณะนี้ จ.ตรัง น่าจะมีธุรกิจรังนกบ้านอยู่ประมาณ 300 หลัง โดยอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.กันตัง แห่งละประมาณ 100 หลัง ส่วนที่เหลือกระจัดกระจายอยู่ในอำเภอที่ตั้งอยู่ริมทะเลอันดามัน เช่น อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว อ.หาดสำราญ และ อ.สิเกา

นายบุญโชค กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ประกอบการหน้าใหม่มักจะเรียกใช้ทีมงานที่บอกว่ามีประสบการณ์ เข้ามาดูแลจัดการธุรกิจทั้งระบบแบบครบวงจร โดยจะเรียกค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นตามแต่ตกลงกันตั้งแต่ 1-2 แสนบาท แต่เมื่อเก็บรังนกได้แล้วจะขอส่วนแบ่งครั้งละ 30 %

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัญหาอะไรมาทำให้ธุรกิจนี้สะดุด ในบ้าน 1 หลัง ที่ลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปอย่างยาวนานไม่น้อยกว่า 20 ปี และหากวางระบบไว้ดีจะมีรายได้เข้ามาต่อเนื่องกันทุกๆ เดือน ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดยืนยาวไปได้ไกลถึงขนาดนั้น เท่ากับว่าจะสามารถกอบโกยกำไรได้อย่างมาก อีกทั้งคุณภาพรังนกบ้านของ จ.ตรัง เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ด้วยกัน หรือในภาคกลาง ยังถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ จึงมีออเดอร์หรือตัวเลขการสั่งซื้อรังนกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ด้วยความต้องการบริโภครังนกที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ขณะที่รังนกธรรมชาติเริ่มมีจำนวนลดลงตามสภาพธรรมชาติ แถมปัจจุบันยังมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 70,000 – 80,000 บาท ทั้งที่เมื่อปี 2550 หรือ 4 ปีที่แล้ว ยังมีราคาแค่กิโลกรัมละ 20,000 บาทเท่านั้น รังนกบ้านจึงกลายเป็นทางเลือกของตลาด แม้จะมีคุณภาพแตกต่างจากรังนกธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ด้วยตัวเลขที่สูงที่เช่นนี้ จึงมีผู้ประกอบการมากมาย ทั้งใน จ.ตรัง จากต่างจังหวัด หรือจากต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย สนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น