จับเพิ่มผู้ใหญ่บ้านร่วมทีมฆ่าโหด ด.ต.กันตัง

ตรัง - รวบเพิ่มอีกผู้ใหญ่บ้านคนดัง หนึ่งในทีมฆ่า ด.ต.หัวหน้าสายตรวจ อ.กันตัง จ.ตรัง แต่ยังปากแข็งอ้างไม่รู้เรื่อง ด้านรองผู้การเผย ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 6 คน ส่วนผู้บงการยังสาวไม่ถึง

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (7 มี.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผกก.สภ.กันตัง ได้ร่วมกันจับกุม นายมะน่ะ วันมูสา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146 หมู่ที่ 4 ต.บางสัก อ.กันตัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.บางสัก หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ตรัง คนที่ 2 ในคดีร่วมกันใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และ 9 มม.ฆ่า ด.ต.จรูญ ทุ่มพันธ์ อายุ 53 ปี ผบ.หมู่งาน ป.สภ.กันตัง และหัวหน้าตำรวจสายตรวจ ต.นาเกลือ อย่างอุกอาจ ที่บริเวณหน้าร้านขายของชำเลขที่ 205 หมู่ 4 บ้านคลองยาง ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อคืนวันที่ 12 พ.ย.54 ที่ผ่านมา

โดยจากการสอบสวน นายมะน่ะ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมอ้างว่า ขณะเกิดเหตุกำลังทำสวน และเพิ่งมาทราบข่าวจากทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ด.ต.จรูญ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในวันถัดมา ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายถูกยิงนั้น ไม่ทราบว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องใด ดังนั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนจึงไม่มีส่วนรู้เห็น และเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า รู้จักกับ ด.ต.จรูญ ในฐานะที่เป็นคนในชุมชนเดียวกัน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร

ด้าน พ.ต.อ.ธรรมนูญ เปิดเผยว่า ก่อนวันเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้ขับขี่รถมาดูลาดเลาเส้นทางที่เกิดเหตุถึง 2 ครั้ง เพื่อให้ทราบถึงเป้าหมายที่แน่ชัดและเส้นทางการหลบหนี กระทั่งเมื่อถึงวันเกิดเหตุ นายอนุพงษ์ องศารา อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคนที่ถูกจับกุมได้มาก่อนหน้านี้ ซึ่งรับหน้าที่เป็นคนขับขี่รถกระบะ มิตซูบิชิ สีบรอนด์เงิน ซึ่งเป็นรถของ นายเสรี โดยมี นายสมุทร และนายสนิท นั่งมาด้วย ทั้งนี้ เมื่อขับขี่มาใกล้จะถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กม.นายสมุทร และ นายสนิท ก็ได้ลงจากรถมานั่งซุ่มอยู่ท้ายกระบะหลัง พร้อมอาวุธปืนคนละกระบอก ก่อนจะสั่งให้ นายอนุพงษ์ ขับขี่รถต่อไป จนถึงร้านขายของชำ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แต่เมื่อมาถึงไม่สามารถจอดรถให้ตรงกับเป้าหมายได้ เพราะมีรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว ของ ด.ต.จรูญ บังอยู่

ดังนั้น นายอนุพงษ์ จึงได้ขับขี่รถจอดเลยไปด้านหน้า ก่อนจะขับขี่ย้อนกลับมาจอดที่หน้าร้านขายของชำอีกครั้ง จากนั้น นายสมุทร ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และ นายสนิท ใช้อาวุธปืน 9 มม. กระหน่ำยิงใส่ผู้ตาย ซึ่งกำลังนั่งรับประทานข้าวเย็น พร้อมด้วยภรรยา และเพื่อนบ้านประมาณ 4-5 คน ที่โต๊ะม้านั่ง จนเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขับขี่รถหลบหนีมาที่บริเวณหน้าร้านอาหารภูรีเทอร์เรซ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ก่อนที่จะมีการนำรถจักรยานยนต์มาเปลี่ยนให้มือปืนทั้ง 2 คน ขับขี่กลับบ้านที่ จ.สตูล หลังจากนั้น นายสมุทร ได้นัดให้ นายอนุพงษ์ และ นายสนิท มารับเงินค่าจ้างคนละ 8,000 บาท พร้อมสั่งปิดปากห้ามพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

พ.ต.อ.ธรรมนูญ เปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมกับขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา รวมจำนวน 6 คน คือ นายเสรี หนูหมาด อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ทุ่งบุหลัง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล และอดีต นายก อบต.ทุ่งบุหลัง นายวิชัย วรรณา อายุ 47 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง นายสมุทร กึกก้อง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.1 ต.มะหัง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล และ นายสนิท ละงู อายุ 29 ปี โดยในจำนวนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 2 คน คือ นายอนุพงษ์ และนายมะน่ะ ส่วนผู้ว่าจ้างนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวได้ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ยอมเปิดปากให้การซัดทอด

สำหรับแนวทางการสืบสวน ทราบว่า นายมะน่ะ ผู้ใหญ่บ้านคนดัง เป็นผู้รับงาน ก่อนจะส่งต่อให้ นายเสรี ไปจัดหามือปืนมาสังหาร ด.ต.จรูญ ดังกล่าว โดย 2 ในผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุ คือ นายอนุพงษ์ นั้น มีประวัติเป็นนักแข่งรถ จึงถูกว่าจ้างให้มาเป็นคนขับรถบรรทุกมือปืน ส่วน นายสมุทร 1 ในมือปืน มีหมายจับคดีฆ่าที่ จ.ภูเก็ต เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยาและลูกชาย ซึ่งขณะนี้ยังถูกควบคุมอยู่ในเรือนจำ จ.ภูเก็ต ขณะที่ นายวิชัย อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็เคยถูกจับคดีพกพาอาวุธปืนลูกซองสั้นที่ อ.เมืองตรัง และ นายสนิท พบว่า ที่ผ่านมาเป็นคนเร่ร่อน และไม่เคยทำบัตรประชาชนมาก่อน จึงทำให้ไม่มีทะเบียนประวัติในแฟ้มอาชญากรรมแต่อย่างใด ส่วนค่าหัวผู้ตายนั้น มีการว่าจ้าง 150,000 บาท แต่ต่อมาในทีมงานเกิดขัดแย้งกันเอง

ส่วนชนวนเหตุของการว่าจ้างสังหาร ด.ต.จรูญ นั้น พ.ต.อ.ธรรมนูญ ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปที่ประเด็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับผู้จ้างวาน ซึ่งคาดว่า นายมะน่ะ ผู้ใหญ่บ้านคนดัง น่าจะทราบดี เพราะเคยเป็นถึงเพื่อนสนิทกับผู้ตายมานานกว่า 30 ปี แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ยอมเปิดปากบอกรายละเอียดใดๆ ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการสังหารโหดที่แท้จริงต่อไป