xs
xsm
sm
md
lg

ดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก 2 ทหารข่มขืนสาวมุสลิม ที่ปัตตานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - คดีทหารเกณฑ์ ภาคที่ 2 จำนวน 2 นาย ร่วมกับข่มขืนสาวมุสลิมอายุ 16 ปี ที่ปัตตานี เข้ามอบตัวที่ สภ.ยะรังแล้ว ถูก 3 ข้อหาหนัก ขณะที่หญิงสาวผู้เสียหายให้อัยการสอบปากคำ ขณะที่ทางโรงเรียนไม่ให้เรียนต่อ

จากกรณีเหตุเกิดสลดใจในสังคมมุสลิมระหว่าง 22-24 มกราคม ที่ผ่านมาทหารเกณฑ์ กองทัพภาคที่ 2 จำนวน 2 นาย ประจำฐานปฏิบัติการ ร้อย ร. 1333/1 ที่บริเวณ อบต.ตำบลระแว้ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยมีกำลังพล 30 นาย เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้าน จนกระทั่งเมื่อวันเวลาดังกล่าว ได้มีทหารเกณฑ์ละเมิดทางเพศหญิงสาวมุสลิมในพื้นที่ ที่มีอายุเพียงแค่ 16 ปี ซึ่งกำลังศึกษาในสถาบันเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัดยะลา โดยใช้ที่บริเวณด้านข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลระแว้ง (ซึ่งอยู่ติดกับฐาน) เป็นที่ขืนใจเด็กสาวดังกล่าว

จากนั้นเพื่อนทหารเกณฑ์ได้ถ่ายทำเป็นวิดีโอคลิป และเผยแพร่ทางโทรศัพท์ให้กับสาวที่เสียหาย ทำให้รู้กันทั่ว สร้างความอับอายให้กับสาวผู้เสียหาย และครอบครัวดังกล่าว และประชาชนในพื้นที่ต่างไม่พอใจกับการกระทำของทหารดังกล่าว มีการข่มขู่จะประท้วงขับไล่ทหารออกจากพื้นที่ แต่ก็สามารถเจรจา โดยชาวบ้านยื่นข้อเสนอให้ทหารย้ายฐานออกไป และให้ดำเนินคดีกับทหารเกณฑ์ทั้งสอง และเยียวยาเด็กสาวคนดังกล่าว จนกระทั่งมีการแจ้งความดำเนินคดีกับทหารชุดดังกล่าว และทหารทั้ง 2 นาย ถูกนำไปคุมขังในเรือนจำทหารที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ล่าสุดวันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้มีทหารพร้อมกำลังทหาร 10 นาย ได้นำตัว พลทหารวินัย กลางวิชัย อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาข่มขืนหญิงสาวอายุ 16 ปี พร้อมด้วย พลทหารสมยศ จันทรพุฒ ผู้ที่ทำหน้าที่ถ่ายคลิปไปเผยแพร่ ในสภาพผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกโซ่ตรวน และล๊อกด้วยกุญแจที่ขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนี นำมามอบตัวกับ พ.ต.ท.อันธีร์ ก่ออารีย์ รอง ผกก.สอบสวน และร้อยเวร พนักงานสอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี

จากนั้นตำรวจรับตัวทั้ง 2 นายแล้วจึงนำไว้ในห้องขัง สภ.ยะรัง ในระหว่างรอเรียกตัวมาสอบปากคำทีละคน โดยมี ร.ท.ธิติพงษ์ หลงสุพรหม ผบ.ร้อย ร.1331 ฉก.ปัตตานี 21 ร่วมรับฟังการสอบสวน พร้อมทั้ง สอบปากคำ โดยผู้ต้องหาได้ลำดับเหตุการณ์ ก่อนวันเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้นำคลิปวีดีโอมาให้ทหารเกณฑ์ทั้งสองคนดู ซึ่งปรากฏว่า ทั้ง 2 ยอมรับสารภาพ ว่าเป็นภาพถ่ายของตัวเอง

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาจำนวน 3 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา, 2.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร และ 3.ร่วมกันพาเด็ก อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยหญิงไม่เต็มใจ

หลังจากทราบข้อกล่าวหาทำให้ทหารเกณฑ์ทั้ง 2 นายสีหน้าไม่ค่อยดี จนกระทั่งเย็นวันเดียวกันนี้ ร.ท.ธิติพงษ์ หลงสุพรหม ได้นำทหารเกณฑ์ทั้ง 2 นาย ไปฝากขังต่อที่เรือนจำค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อีก 12 วันต่อไป

ทางด้าน พ.ต.ท.อันธีร์ ก่ออารีย์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี เผยว่า จากนี้ไปก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อสรุปคดี ส่งให้อัยการ และศาลเพื่อดำเนินคดีต่อไป แต่ยังต้องรอใบรับรองทางการแพทย์จากการชันสูตร เรื่องของร่องรอยการถูกข่มขืน และสารคัดหลั่ง เมื่อได้ใบรับรอง เรียบร้อยก็สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่สำคัญ และเป็นที่สนใจของประชาชน และสะเทือนใจส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งทางครอบครัว และหญิงสาว รวมถึง ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทางพนักงานสอบสวน จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดภายในเดือนนี้คงจะเรียบร้อย

ด้าน ร.ต.ท.วิรุฬท์ โต๊ะเอียด พนักงานสอบสวน สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยพ่อแม่ ของหญิงสาวมุสลิมที่ถูกข่มขืนนั้น ได้นำ ผู้เสียหาย ไปสอบปากคำ ที่ห้องสอบปากคำเด็ก ที่สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักสังคมจิตวิทยา, ทนายความ ,อัยการ, พ่อแม่ของหญิงสาว ร่วมรับฟัง โดยให้ผู้เสียหายลำดับเหตุการณ์ความเป็นมา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ทางฝ่ายพ่อเปิดเผยว่า สงสารลูก ร้องไห้ตลอดเวลา รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่ซ้ำเติมกับครอบครัวและอนาคตของลูก โดยทางโรงเรียนที่ต้นสังกัดที่เรียนอยู่ ได้รับแจ้งว่าไม่ให้ลูกสอบปลายเทอม ทำให้ลูกสาวหมดอนาคตทันที ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงเรียนไม่น่าทำร้ายเด็กเมื่อลูกสาวถูกเหตุการณ์ไปแล้ว น่าจะยื่นมือมาช่วยบ้างหรือเห็นใจ แต่เป็นการตัดอนาคตของเด็ก วอนให้ทุกฝ่ายฝากดูแลด้วย ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการเยียวยานั้น เงินตีค่าความเสียหายที่ทหารทำขึ้นไม่ได้ แต่อนาคตของเด็กต้องเยียวยาตามความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พันเอกชินกาจ รัตนจิตติ รอง ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมด้วย พันโทนิสิต สมานมิตร ผบ.ฉก.ปัตตานี 21 ได้เดินทางไปพบกับ พ่อ และแม่ของเด็ก และเล่าถึงดำเนินการไปแล้ว ทั้งย้ายฐาน และดำเนินคดีกับทหารเกณฑ์ทั้ง 2 นาย แต่ยังมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับค่าเยียวยานั้น จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งทางพ่อแม่ ไม่สามารถที่จะบอกได้ โดยอ้างว่า เรื่องค่าของเงินไม่ใช่เป็นปัญหาสำคัญ แต่อนาคตของเด็กที่ถูกประจานไปทั่ว รวมถึงไม่สามารถเรียนต่อได้ ซึ่งทางพ่อแม่ให้ไปพิจารณาเองว่าความเหมาะสมอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น