เหยื่อวาตภัยพัทลุงฮึดสู้ เพาะถั่วงอกขายจนยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัว

พัทลุง - สองสามีภรรยาชาว อ.ปากพะยูน ผันตัวเองเพาะถั่วงอกขาย หลังจากต้องประสบกับวาตภัยเมื่อปลายปี 53 เข้าร่วมโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว เลือกอาชีพเพาะถั่วงอกแบบน้ำหยด เริ่มทดลอง และปรับปรุงวิธีการผลิตจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว

 
นางผอ้อน - นายกลิ้ม ด้ามทอง อยู่บ้านเลขที่ 100/3 ม.1 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง มีอาชีพทำการเกษตรและรับจ้าง โดย นายกลิ้ม ด้ามทอง ทำอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ส่วน นางผอ้อน มีอาชีพเก็บผักขาย มีรายได้พอเลี้ยงตัว และเลี้ยงบุตร 2 คนที่กำลังเรียน ระดับมัธยม แต่ชีวิตต้องมาพลิกผันเมื่อเกิดวาตภัยเมื่อในปลายปี 2553 พัดบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย แต่ยังโชคดีที่มีหลายหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วย ทั้งมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ได้สร้างบ้านใหม่ให้ โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ ต่อเติมบ้านให้ และอีกหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ จนสามารถใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง

ช่วงปลายปี 2553 หรือปีงบประมาณ 2554 บ้านฝาละมี ม.1 ต.ฝาละมี อำเภอปากพะยูน ได้รับโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว จากจังหวัดพัทลุง ซึ่งมีสำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุงเป็นเลขาโครงการ และหน่วยงานภาคีร่วมกันสนับสนุน นางผอ้อน เป็นหนึ่งในสมาชิกของโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวที่ได้มีโอกาสรับความรู้ด้านต่างๆ ได้รับปัจจัยการผลิต เพื่อใช้ชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง แต่ความรู้ที่นางผอ้อน สนใจเป็นพิเศษ คือ การเพาะถั่วงอกแบบน้ำหยด

 
หลังจากเรียนรู้มาแล้ว เริ่มทดลองทำตั้งแต่ 2 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 5 กิโลกรัม และ 10 กิโลกรัม และมีการปรับปรุงวิธีการผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และยึดหลักความปลอดภัยมาโดยตลอด

 
การเพาะถั่วงอกแบบน้ำหยดของนางผอ้อน เริ่มจากคัดเลือกเมล็ดถั่วเขียว เลือกเมล็ดเสีย เมล็ดดำ เมล็ดแตก ออกให้หมด ล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่น้ำนาน 3 ชั่วโมง นำไปใส่ถังพลาสติก สำหรับเพาะแล้วคลุมด้วยกระสอบป่าน รดน้ำทุก 2 ชั่วโมง เพาะเป็นเวลา 3 คืน ก็นำถั่วออกไปล้างทำความสะอาด บรรจุถุงขายได้ ในการเพาะ ใช้ถังพลาสติกขนาด 40 ลิตร ใส่ถั่วเขียวที่แช่น้ำแล้ว ถังละ 2.5 กิโลกรัม เพาะครั้งละ 4 ถัง แต่ละถังจะได้ถั่วงอก 15 กิโลกรัม ซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดวันละ 60 กิโลกรัม ขายส่งที่ตลาดปากพะยูน และตลาดหารเทา กิโลกรัมละ 20 บาท ถ้าขายหมดจะมีรายได้ 1,200 บาทต่อวัน หักค่าเมล็ดถั่วเขียวที่เพาะ 4 ถังๆ ละ 2.5 กิโลกรัม จำนวน 10 กิโลกรัม เป็นเงิน 300 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงงานอีก ประมาณ 300 บาท คงเหลือกำไรสุทธิประมาณ 600 บาท

 
นางผอ้อน บอกว่า สิ่งสำคัญของการเพาะถั่วงอก คือ ความสะอาด การผลิตทุกขั้นตอน น้ำที่ใช้ต้องใสสะอาด ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น จึงจะได้ถั่วงอกที่ ขาว อวบ สวยงาม การให้น้ำที่ต้องให้ทุก 2 ชั่วโมง เมื่อก่อนต้องคอยรดด้วยมือ ทำให้เสียเวลา และต้องพะวงมาก แต่สามีได้คิดระบบให้แบบอัตโนมัติ โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มีกระบอกรับน้ำที่ปล่อยให้น้ำไหลเข้ากระบอกตลอดเวลาพอครบ 2 ชั่วโมง กระบอกจะพลิกกลับทำให้วาวน้ำเปิด ปล่อยน้ำที่อยู่ในถังไหลไปรดถั่วที่เพาะไว้ ทำให้แบ่งเบาภาระไปได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องคอยตรวจดูอยู่ตลอด หากรดน้ำมากไป ถั่วงอกจะผอม ถ้าให้น้ำน้อยไป ถั่วงอกก็เน่าได้ จึงต้องให้น้ำให้พอดี

“ด้านการตลาดช่วงแรกถูกโจมตี ว่าถั่วงอกที่ขาว อวบ สวยงาม ใช้ยาหรือใช้สารเคมี แต่นางผอ้อน ยืนยันหนักแน่นว่า อย่าว่าแต่ใช้ยาเลย ยาที่เขาว่ากันยังไม่รู้จัก ไม่รู้แหล่งซื้อเลย จึงขอยืนยันว่า ถั่วงอกที่ ขาว อวบ สวยงาม มาจากขั้นตอนการผลิตที่สะอาด ให้น้ำสม่ำเสมอ คัดเลือกเมล็ดถั่วที่มีคุณภาพ”

 
สิ่งที่อยากจะต่อยอด มี 2 เรื่อง คือ การตรวจสอบความมาตรฐาน และความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการทำบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ดูดี นอกจากนั้น บริเวณบ้านได้นำกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผัก เลี้ยงไก่ไข่ ไว้บริโภคเอง เพื่อลดค่าครองชีพ ยังมีเหลือขายเป็นรายได้เสริมด้วย และวันนี้ สามีไม่ต้องไปทำงานก่อสร้างแล้ว แต่ช่วยกันผลิตถั่วงอกอย่างจริงจัง และได้อยู่กับครอบครัว สร้างความอบอุ่นให้ทุกคนเป็นอย่างดีด้วย ผู้สนใจติดต่อ นางผอ้อน ด้ามทอง โทร.08-4691-8451 หรือสำนักงานเกษตรอำเภอปากพะยูน 0-7469-9041