ศูนย์ข่าวศรีราชา - แก๊งต้มตุ๋น ออกอาระวาดในเขตเมืองจันท์ ทั้งหลอกเก็บเงินพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสด 2 แห่งกว่า 10 ราย ได้เงินกว่า 5 แสนบาท และยังใช้อุบายซื้อสินค้าในร้านจนพนักงานทอนเงินผิด ตำรวจเร่งตรวจสอบ พร้อมติดตามตัว หวั่นมีผู้เสียหายเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสดน้ำพุ และตลาดสดโบว์ลิ่งเทศบาลเมืองจันทบุรี ว่ามีคนร้ายเป็นหญิง เข้ามาหลอกบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายหมู ขายไก่ ว่าเจ้าของเขียงหมู ไก่ และเจ้าของร้านกระเบื้องได้ใช้ให้มาเก็บเงินค่าไก่และค่าหมูที่รับไปขาย และให้เก็บค่ากระเบื้องที่นำไปต่อเติมบ้านในการมุ้งหลังคา โดยคนร้ายสามารถบอกชื่อเจ้าของเขียงหมู เขียงไก่ และเจ้าของร้านขายกระเบื้องได้อย่างถูกต้อง จนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดทั้ง 2 แห่ง หลงเชื่อจนยอมจ่ายเงินให้กับคนร้ายรายละ 10,000-40,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 5 แสนบาท
เมื่อรู้ว่าถูกหลอก เพราะเจ้าของเขียงหมู เขียงไก่ และเจ้าของร้านขายกระเบื้อง ยืนยันว่าไม่มีการใช้ให้ลูกน้องมาเก็บเงินกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแต่อย่างไร และหากเก็บเงินจริงจะต้องมีใบเสร็จมายืนยัน หรือโทรมาบอกล่วงหน้า พ่อค้า แม่ค้าบางรายถึงกับตกใจแทบล้มทั้งยืน หลังจากนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายหมู ขายไก่กว่า 10 ราย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี
พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะหากปล่อยให้ วนเวียนอยู่ ก็อาจจะทำให้ พ่อค้าแม่ค้า คนอื่นๆเสียรู้อีกเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดนายนพสิทธิ์ กิตติกุลกันยากิจ เจ้าของร้านขายของกิ๊ฟช็อพ ยังถูกคนร้าย เป็นชาย ลักษณะคล้ายแขกขาว ทำทีเข้ามาซื้อของในร้าน และใช้อุบายหลอกล่อพนักงานจนถอนเงินผิด ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ พบว่าคนร้ายมีวิธีการพูดจาโน้มน้าว และใช้ภาษาพูดที่พนักงานในร้านไม่เข้าใจจนเกิดความสับสน ก่อนจะลงมือหยิบเงินทอนเข้ากระเป๋าไป
ด้านพ.ต.ท.ปิติ พาณิชย์ สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้านทั้ง 2 คน น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และเร่งติดตามคนร้ายทั้ง 2 มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พร้อมฝากเตือนประชาชน หรือ พ่อค้าแม่ค้าอย่าได้หลงเชื่อคำพูดของคนร้าย และควรที่จะตรวจสอบไปยังเจ้าของร้านต่างๆก่อน หรือ มีการขอดูบัตรประชาชนเพื่อความโปรงใส หรือ หากเห็นว่าไม่น่าไว้วางใจก็ขอให้ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและจดจำรูปพรรณนาสัณฐานของคนร้ายให้ได้เพื่อที่จะง่ายในการติดตามตัว
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดสดน้ำพุ และตลาดสดโบว์ลิ่งเทศบาลเมืองจันทบุรี ว่ามีคนร้ายเป็นหญิง เข้ามาหลอกบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายหมู ขายไก่ ว่าเจ้าของเขียงหมู ไก่ และเจ้าของร้านกระเบื้องได้ใช้ให้มาเก็บเงินค่าไก่และค่าหมูที่รับไปขาย และให้เก็บค่ากระเบื้องที่นำไปต่อเติมบ้านในการมุ้งหลังคา โดยคนร้ายสามารถบอกชื่อเจ้าของเขียงหมู เขียงไก่ และเจ้าของร้านขายกระเบื้องได้อย่างถูกต้อง จนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดทั้ง 2 แห่ง หลงเชื่อจนยอมจ่ายเงินให้กับคนร้ายรายละ 10,000-40,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 5 แสนบาท
เมื่อรู้ว่าถูกหลอก เพราะเจ้าของเขียงหมู เขียงไก่ และเจ้าของร้านขายกระเบื้อง ยืนยันว่าไม่มีการใช้ให้ลูกน้องมาเก็บเงินกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแต่อย่างไร และหากเก็บเงินจริงจะต้องมีใบเสร็จมายืนยัน หรือโทรมาบอกล่วงหน้า พ่อค้า แม่ค้าบางรายถึงกับตกใจแทบล้มทั้งยืน หลังจากนั้นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายหมู ขายไก่กว่า 10 ราย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี
พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะหากปล่อยให้ วนเวียนอยู่ ก็อาจจะทำให้ พ่อค้าแม่ค้า คนอื่นๆเสียรู้อีกเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดนายนพสิทธิ์ กิตติกุลกันยากิจ เจ้าของร้านขายของกิ๊ฟช็อพ ยังถูกคนร้าย เป็นชาย ลักษณะคล้ายแขกขาว ทำทีเข้ามาซื้อของในร้าน และใช้อุบายหลอกล่อพนักงานจนถอนเงินผิด ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ พบว่าคนร้ายมีวิธีการพูดจาโน้มน้าว และใช้ภาษาพูดที่พนักงานในร้านไม่เข้าใจจนเกิดความสับสน ก่อนจะลงมือหยิบเงินทอนเข้ากระเป๋าไป
ด้านพ.ต.ท.ปิติ พาณิชย์ สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้านทั้ง 2 คน น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และเร่งติดตามคนร้ายทั้ง 2 มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พร้อมฝากเตือนประชาชน หรือ พ่อค้าแม่ค้าอย่าได้หลงเชื่อคำพูดของคนร้าย และควรที่จะตรวจสอบไปยังเจ้าของร้านต่างๆก่อน หรือ มีการขอดูบัตรประชาชนเพื่อความโปรงใส หรือ หากเห็นว่าไม่น่าไว้วางใจก็ขอให้ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและจดจำรูปพรรณนาสัณฐานของคนร้ายให้ได้เพื่อที่จะง่ายในการติดตามตัว
