ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เร่งส่วนราชการสนองพระราชดำรัส “ในหลวง” แก้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า และการเพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา อ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้สั่งการส่วนราชการต่างๆ ในโอกาสประชุมหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งสนองพระราชดำรัสในหลวง ในการเพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ด้วยการให้ทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มพลังมวลชน ได้เร่งปลูกป่าให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจังโดยเร็ว
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ.และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ กยน.เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานเรื่อง การวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผนเพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ และรับพระราชทานพระราชดำริเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน
โดยในหลวงได้มีพระราชดำรัส ว่า “การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น ต้องหาวิธีระบายน้ำ ให้น้ำไหลได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้น ยังมีเรื่องดินและเรื่องป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าให้ได้ ด้วยการเพิ่มบทลงโทษผู้ตัดไม้ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนป่าไม้ ที่ถูกทำลาย โดยปลูกทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อนผสมกัน เพราะไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว แต่รากไม่ยึดดินเท่ากับไม้เนื้อแข็งที่โตช้ากว่า แต่หยั่งรากลึก ช่วยป้องกันดินถล่ม”
จากกระแสพระราชดำรัสดังกล่าว ขณะนี้จังหวัดสงขลา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสนองพระราชดำรัส ด้วยการสำรวจพื้นที่ที่จะใช้ปลูกป่าโดยจังหวัดกำหนดที่จะรวมกันปลูกต้นไม้ให้ครอบคลุมตั้งแต่ป่าต้นน้ำ พื้นที่สาธารณะ ป่าชายเลน เขตชุมชนเมือง เขตเส้นทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท และพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสม โดยกำหนดให้ทุกภาคส่วนทุกกลุ่มพลังมวลชนได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการปลูกต้นไม้และดูแลรักษา
ขณะนี้ จังหวัดได้กำหนดเจ้าภาพหลักและสั่งการในจัดทำแผน และเร่งดำเนินการตามแผนเพื่อให้การปลูกป่า เพิ่มพื้นที่ป่า เพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดสงขลา เห็นผลเป็นรูปธรรมในเร็ววัน