ผบ.ทบ.รับสนองพระราชดำรัสในหลวง รักษาป่าป้องน้ำท่วม หนุนรัฐขุดคูคลอง ปลูกป่าต้นน้ำ ปัดวิจารณ์แก้ รธน. เหตุอยู่อีกหลายขั้นตอน ระบุพันธมิตรฯ ชุมนุมค้านเป็นไปตามประชาธิปไตย ไม่ห่วงมีการปะทะเพราะมีกฎหมายดูแล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหาบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนประเทศจีน ถึงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงการตัดไม้ทำลายป่าและการป้องกันอุทกภัยว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ทุกคนต้องรับใส่เกล้าใส่กระหม่อม พระองค์ท่านทรางเป็นห่วงเป็นใยในทุกเรื่อง ที่สำคัญรัฐบาลได้สบายใจว่าได้ทำถูกต้องตามพระราชประสงค์ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่พระองค์ท่านทรงทำมา ทั้งนี้ ทรงรับสั่งด้วยความห่วงใยแต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะรับสนองได้มากน้อยเพียงใด แต่คิดว่าไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ต้องทำ เมื่อพระองค์ท่านทรงรับสั่งมาด้วยหลักการและประสบการณ์ของพระองค์ คิดว่าทุกคนควรนำไปปฏิบัติให้เกิดผลมากที่สุด ทั้งรัฐบาล เอกชน ทหาร ต้องให้การสนับสนุนรัฐบาล โดยกองทัพเองก็ให้การสนับสนุนเรื่องการขุดลอกคูครอง
ส่วนจะทันภายใน 3 เดือนหรือไม่นั้น คิดว่าทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น โดยใช้กำลังทหารช่าง 27 กองร้อย รวมถึงยุทโธปกรณ์ ซึ่งจะเร่งให้เร็วที่สุดและจะให้เสร็จในเดือน พ.ค.นี้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าพื้นที่ไหนเข้ายากก็ปฏิบัติงานได้ช้า และเครื่องมือก็ขนย้ายลำบาก แต่ถ้าไม่ทันตามกำหนดก็จะเร่งให้ขุด 24 ชั่วโมง สำหรับการปลูกป่าต้นน้ำเพื่อรักษาป่าต้นน้ำด้านเหนือไว้ ก่อนจะไหลลงมาข้างล่าง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ต่อกรณีที่รัฐบาลปรับพื้นที่ 2 แสนไร่เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีเจ้าของ ซึ่งต้องมีประชาชนได้รับผลกระทบ ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะต้องแก้ปัญหาและชดเชย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ยังอยู่อีกหลายขั้นตอนและเป็นเรื่องของขบวนการประชาธิปไตย ก็มีส่วนร่วมด้วยกันทั้งหมด ในฐานะเจ้าหน้าที่ขอไม่ตอบในตอนนี้ เพราะยังอยู่ในหลายกระบวนการ ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมคัดค้านนั้น เขาก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตย ไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุการปะทะ เพราะกฎหมายบ้านเมืองมีอยู่แล้ว ถ้าทำผิดกฎหมายก็มีคดีเพิ่มขึ้นทุกฝ่าย เมื่อถามว่า หากเกิดการปะทะทหารจะเข้าไปควบคุมสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีใครสั่งหรือไม่ ถ้าไม่มีทหารคงออกไปไม่ได้
