ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โบ๊ทลากูน” นำสนามหญ้าทางเข้าโครงการมาพัฒนาเป็นตลาดท้ายเรือ หรือ “Boat Lagoon Weekend Market” เหมือนที่เมืองบริสเบน ออสเตรเลีย หวังให้เป็นสถานที่ซื้อขายสินค้าเกี่ยวกับเรือมือสองในภูเก็ต ของตกแต่งบ้านและอื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสันในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
นายบุญ ยงสกุล เจ้าของโครงการ “ตลาดท้ายเรือ” หรือ “Boat Lagoon Weekend Market” เปิดเผยว่า ตลาดท้ายเรือ หรือ Boat Lagoon Weekend Market เกิดจากแนวคิดของคณะผู้บริหารภูเก็ตโบ๊ทลากูน ที่จะพัฒนาพื้นที่สนามหญ้าด้านหน้าทางเข้าของมารีน่าแห่งนี้ ให้มีความคึกคักและมีสีสันในวันสุดสัปดาห์ และในอนาคตเราคาดหวังว่าพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่เป็นทำเลทองทางธุรกิจและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
โดยทางเราจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของบริเวณโดยรอบของตลาดท้ายเรือแห่งนี้ให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการสร้างอาคารค้าปลีกที่เหมาะสมและถูกต้อง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นชาวไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในภูเก็ตโบ๊ทลากูนและละแวกใกล้เคียง
โดยตลาดท้ายเรือแห่งนี้ ได้แนวคิดมาจากเมือง บริสเบน ควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตลาดดังกล่าวได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในระดับท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดังนั้น ทางโบ๊ทลากูน จึงได้นำแนวคิดดังกล่าวมาปรับให้เข้ากับความเป็นท้องถิ่นและวัฒนธรรมแบบผสมของเกาะภูเก็ต เพื่อให้ตลาดท้ายเรือเป็นสถานที่มีความหลากหลายของสินค้าระดับพรีเมียม ตั้งแต่สินค้าเกี่ยวกับเรือ อุปกรณ์ อะไหล่ ส่วนประกอบ รวมไปถึงสินค้าครัวเรือนมือสองที่จะมาซื้อขายหรือแลกเปลี่ยน อีกทั้งสินค้าแฟชั่น การเปิดท้ายรถขายของมือสอง สวนอาหาร บาร์ในสวนสวย และที่เป็นสีสันแห่งความบันเทิง ณ ตลาดแห่งนี้ คือ เวทีการแสดงสดจากเหล่าศิลปินมืออาชีพที่เราคัดสรรมาให้ความบันเทิงตลอดสัปดาห์ โดยจะเปิดจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันเสาร์ที่ 10 มี.ค.2555 นี้
นายบุญ กล่าวอีกว่า สำหรับบูธที่จะจำหน่ายสินค้านั้น ขณะนี้ได้วางไว้ 60 บูธ ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีการจองไปแล้ว 50 กว่าบูธ ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มตามความเหมาะสม ซึ่งบูธสำหรับจำหน่ายสินค้านั้นทางเราต้องการจะให้เป็นสินค้าที่เกี่ยวกับเรือเกิน 50% เพราะความตั้งใจต้องการจะให้ชาวต่างชาติและคนไทยที่มีอุปกรณ์เรือมือสองใช้ตลาดแห่งนี้เป็นที่ปล่อยสินค้าและเลือกซื้อสินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์เรือทั้งหมด
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งที่เป็นบูธขายสินค้าและลูกค้าที่จะมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้านั้น ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นคนต่างชาติประมาณ 50% เพราะขณะนี้ในภูเก็ตมีคนต่างชาติเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก ตามชุมชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นราไวย์ กะตะ กะรน ป่าตอง และที่อื่นๆ ที่เหลือก็จะเป็นกลุ่มคนไทยในท้องถิ่นภูเก็ตและนักท่องเที่ยว